เปิดศึกเครื่องดื่ม! CBG จับมือพันธมิตรใหญ่ เขย่าธุรกิจเบียร์-ฟังก์ชันนัลดริ๊งก์-โลจิสติกส์

ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันดุเดือด ไม่มีใครรอใครได้อีกต่อไป การผนึกกำลังเชิงกลยุทธ์ระหว่างยักษ์ใหญ่ เบียร์ชิงเต่า–คาราบาว–นามยง จึงไม่ใช่แค่ "ข้อตกลงทางธุรกิจ" แต่คือการเปิดศักราชใหม่ของสมรภูมิ ตลาดเครื่องดื่ม–โลจิสติกส์ ที่พร้อมจะเขย่าทั้งไทย จีน และอาเซียน

การลงนามครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนมิตรภาพ 50 ปีไทย–จีน แต่ยังเป็นการวางหมากรุกครั้งสำคัญเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งจากคู่แข่งที่รายล้อม

ตลาดเครื่องดื่มไทย-จีนกำลังเดือดขึ้นอีกระดับ! 

"เบียร์ชิงเต่า" แบรนด์เก่าแก่ที่ครองใจผู้บริโภคกว่า 120 ประเทศทั่วโลก จับมือกับ "บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG" ยักษ์ใหญ่ฟังก์ชันนัลดริ๊งก์ของไทย และ "บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT" เจ้าพ่อโลจิสติกส์ที่ถือครองท่าเรือ Ro-Ro ใหญ่ติดอันดับโลก เพื่อเดินหน้า "แผนยึดครองสมรภูมิเครื่องดื่มและเครือข่ายกระจายสินค้าในเอเชีย"

นี่ไม่ใช่การจับมือธรรมดา แต่คือการสร้าง "พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ 3 ขั้ว" ที่ครบวงจรที่สุด "แบรนด์เบียร์ระดับโลก + เครือข่ายจัดจำหน่ายในไทย + ระบบโลจิสติกส์ข้ามทวีป"

• เบียร์ชิงเต่า ใช้ดีลครั้งนี้เป็น "จุดเร่งเครื่อง" รุกตลาดอาเซียนอย่างจริงจัง ด้วยการผสานเทคโนโลยีการผลิตและแบรนด์พรีเมียมเข้ากับช่องทางการขายของคาราบาว
• คาราบาว ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มพลังงานไทย มองดีลนี้เป็นการ "เพิ่มอาวุธ" ในมือ ด้วยการต่อยอดสู่ธุรกิจเบียร์และขยายฐานผู้บริโภคใหม่ทั้งในไทยและจีน
• นามยง เสริมฐานรากด้านโลจิสติกส์ ขับเคลื่อนตั้งแต่การนำเข้า-ส่งออกสินค้า ไปจนถึงการกระจายทั่วภูมิภาค

ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนภาพใหญ่ของ "สงครามธุรกิจเครื่องดื่ม" ที่กำลังแข่งเดือดทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ไฮเนเก้น–สิงห์–ช้าง ในไทย หรือ โค้ก–เป๊ปซี่–เรดบูล ในตลาดโลก

การเข้ามาของพันธมิตรยักษ์ใหญ่เชิงสามเหลี่ยมนี้จะทำให้ "สนามแข่งขัน" ซับซ้อนและดุเดือดยิ่งขึ้น

ความเสี่ยง VS โอกาส

• โอกาส : ขยายฐานผู้บริโภคและตลาดอาเซียน, เพิ่มพลังต่อรองในห่วงโซ่อุปทาน, พลิกโฉมตลาดเบียร์และฟังก์ชันนัลดริ๊งก์
• ความเสี่ยง : การแข่งขันสูง, เศรษฐกิจซบเซา, รสนิยมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็ว, กฎระเบียบเข้มงวด

บล.เอเซียพลัส มองส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ ตลาดหลักของ CBG เพิ่มขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ ที่ 27.3% ในเดือนส.ค. ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดในไตรมาส 3/68 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 26.7% จาก 25.8% ในไตรมาส 2/68 และ 24.9% ในไตรมาส 3/67 ผลจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายทั้งช่องทาง ร้านค้าสมัยใหม่และร้านค้าดั้งเดิม ขณะที่แนวโน้มรายได้จากการช่วยจัดจำหน่าย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน จากความนิยมสุราข้าวหอมที่สูงขึ้น

CBG เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ซึ่งจะมีเข้ามาช่วงไตรมาส 4/68 โดยบริษัทมีสัดส่วนยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศผ่าน ช่องทางร้านค้าดั้งเดิมสูงราว 70% แม้คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 3/68 มีแนวโน้มลดลงทั้งจากไตรมาสก่อนหน้า(QoQ) และช่วงเดียวกันกับปีก่อน(YoY) จากผลเชิงลบของฤดูกาลและกัมพูชาที่มีสัดส่วน 15% ของยอดขายรวมหดตัวแรง จากประเด็นความขัดแย้งชายแดน ซึ่งน่าจะฉุดให้มาร์จิ้นลดลงไปด้วยเนื่องจากสินค้าส่งออกมีมาร์จิ้นที่สูงกว่าสินค้ากลุ่มอื่น

อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรของ CBG จะกลับมาเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY ได้ในไตรมาส 4/68 จากแรงหนุนยอดขายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งคาดว่ายอดขายในประเทศจะทำสถิติสูงสุด ใหม่รายไตรมาสได้อย่างต่อเนื่อง จากปัจจัย 1)ส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่เพิ่มขึ้น 2)ปัจจัยฤดูกาลที่เป็นช่วงเฉลิมฉลองหนุนยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ 3)ผลบวกจากมาตรการภาครัฐหนุนการบริโภคในประเทศโดยรวม

ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568 ขึ้น 5% เป็น 3.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY และปี 2569 ขึ้น 8% เป็น 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY จากการปรับเพิ่มยอดขายขึ้น ตามส่วนแบ่งตลาดในประเทศที่ดีขึ้น และค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่ลดลงจากการย้าย การผลิตบางส่วนไปยังโรงงานแห่งใหม่ในเมียมมาและกัมพูชา

"เราปรับเพิ่มคำแนะนำขึ้นเป็น Outperform จากเดิม Underperform เนื่องจาก 1)สถานะทางการตลาดในประเทศแข็งแกร่ง 2)แนวโน้มกำไรคาดทำจุดต่ำสุดในไตรมาส 3/68 ก่อนฟื้นกลับมาดีที่สุดของปีในไตรมาส 4/68 และ 3)โรงงานแห่งใหม่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายการขนส่งและภาษีปี69 หนุนการเติบโตกำไร ประเมินราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 62 บาท"

ศึกนี้ใครแพ้ ใครชนะ ?

ขณะที่ "ตลาดเบียร์ไทย" กำลังถูกบีบทั้งจากเศรษฐกิจซบเซา กฎเกณฑ์เข้มงวด และรสนิยมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ดีล ชิงเต่า–คาราบาว–นามยง อาจเป็นตัวพลิกเกม เปลี่ยนสมรภูมิเครื่องดื่มไทยให้กลายเป็นเวทีแข่งขันระดับโลก

แต่สิ่งที่น่าจับตามากกว่า ก็คือ ฝั่งเจ้าพ่อตลาดเครื่องดื่ม "ฐาปน สิริวัฒนภักดี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พร้อมแม่ทัพผู้บริหารสูงสุด Product Group Spirit / Beer / Non-alcohol / Food และ Sustain เตรียมแถลงวิสัยทัศน์แผนการดำเนินงานและทิศทางธุรกิจประจำปี 2568 ในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย. 2568) ไม่แน่ว่าเกมนี้อาจใหญ่มากกว่าที่คิด!