ลุ้นเฟดหั่นดอกเบี้ย-รัฐบาลใหม่จ่อคลอดมาตรการกระตุ้น! SET แกว่งตัว-สะสม MTC
เกาะติดประชุมเฟดกลางสัปดาห์คาดลดดอกเบี้ย 0.25% จับตาฟอร์มทีมรัฐบาล ลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ บล.ลิเบอเรเตอร์คาดหุ้นไทยแกว่งกรอบ 1,280 - 1,300 จุด เน้นย่อสะสมหุ้นได้อานิสงส์มาตรการรัฐฯ เชียร์ MTC ผลงานครึ่งปีหลังเติบโต
KEY
POINTS
- เกาะติดประชุมเฟดกลางสัปดาห์คาดลดดอกเบี้ย 0.25% จับตาฟอร์มทีมรัฐบาล ลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- บล.ลิเบอเรเตอร์คาดหุ้นไทยแกว่งกรอบ 1,280 - 1,300 จุด เน้นย่อสะสมหุ้นได้อานิสงส์มาตรการรัฐฯ
- เชียร์ MTC ผลงานครึ่งปีหลังเติบโต
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกันยายน ที่ระดับ 55.4 จุด ลดลงจากเดือนก่อนที่ 58.2 ต่ำกว่าคาดที่ 58.0 จุด และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์เงินเฟ้อในช่วง 5-10 ปี คาดที่ระดับ 3.9% เร่งขึ้นจากคาดที่ 3.4% สะท้อนภาวะความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในช่วงถัดไป แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงคาด
อย่างไรก็ดีอาจเป็นจุดสำคัญต่อการตัดสินใจของ FED ในการกำหนดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงถัดไป
สัปดาห์นี้แนะติดตาม ประเด็นสำคัญคือการประชุม FED วันที่ 16-17 ก.ย.2568 โดยคาดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% และยังต้องติดตามแนวโน้ม Dot plot รวมถึงถ้อยแถลงของเจอโรม โพเวล เช่นกัน
ส่วนปัจจัยในประเทศ อยู่ในช่วงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี และคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆที่คาดเข้ามาช่วยหนุนภาพรวมเศรษฐกิจไทยในระยะสั้น
โดยเฉพาะมาตรการที่อิงการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากจึงถือเป็นแรงหนุนบวกต่อภาพ SET ที่ยังน่าสะสมหลังทดสอบระดับ 1,300 จุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นเน้นกลยุทธ์ย่อตั้งรับ โดยอิงกลุ่มที่คาดได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐฯ เช่น กลุ่มค้าปลีก, ไฟแนนซ์, เครื่องดื่ม และโรงพยาบาล เป็นต้น
คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1,280 - 1,300 จุด ตลาดเกาะติดการประชุม FED ช่วงกลางสัปดาห์ คาดลดดอกเบี้ย 0.25% ส่วนด้านปัจจัยในประเทศ ยังอยู่ในช่วงการฟอร์มทีมรัฐบาล และลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นเน้นกลยุทธ์ย่อสะสมอิงหุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากมาตรการรัฐฯ
โดยวันนี้แนะนำ “MTC” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 48 บาท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี2568 ยังคงเติบโต ทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน (y-y) และครึ่งปีหลังของปีก่อน (h-h) จากรายได้ดอกเบี้ยที่โตต่อเนื่อง การตั้งสำรองที่ผ่อนคลายลง โดยคุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
ผสานแรงหนุนเชิงบวกจากการเมืองไทยเริ่มมีความชัดเจนขึ้น คาดจะเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์มากยิ่งขึ้น.


