posttoday

"จรีพร"ลั่น!ไม่เล่นการเมือง ปั้นไทยสู่อนาคตใหม่ ดันรายได้ WHA ปี 68 แตะ 2 หมื่นล้าน

11 กันยายน 2568

"จรีพร จารุกรสกุล" ซีอีโอหญิงเหล็ก WHA ย้ำชัด ไม่ถนัดการเมือง ขอโฟกัสดันธุรกิจ 5 กลุ่มหลักเติยโตยั่งยืน พร้อมตั้งเป้ารายได้ 20,000 ล้านบาท ทำ All Time High ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน

KEY

POINTS

  • "จรีพร จารุกรสกุล" ซีอีโอหญิงเหล็ก WHA ย้ำชัด ไม่ถนัดการเมือง
  • ขอโฟกัสดันธุรกิจ 5 กลุ่มหลักเติยโตยั่งยืน
  • พร้อมตั้งเป้ารายได้ 20,000 ล้านบาท ทำ All Time High ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน

ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองไทยที่เปลี่ยนผู้นำรัฐบาลถี่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "จรีพร จารุกรสกุล" ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group ยอมรับว่านี่คือปีที่ท้าทาย แต่ยังเชื่อว่า "ประเทศไทยยังมีความหวัง" 

ขณะที่มีข่าวว่าตนถูกเชิญร่วมทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูลนั้น ตนเองไม่ได้ไปไหน พี่ไม่ถนัดเรื่องการเมือง ถ้าจะทำคงทำนานแล้ว ยืนยันว่าตนยังบริหารกลุ่มดับบลิวเอชเอเช่นเดิม

"จรีพร"ลั่น!ไม่เล่นการเมือง ปั้นไทยสู่อนาคตใหม่ ดันรายได้ WHA ปี 68 แตะ 2 หมื่นล้าน

ขณะที่ คุณสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว หนึ่งในคณะกรรมการ WHA ถือเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นนักการเมืองและนักการทูตชาวไทย ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี

ถามว่า...อนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ?

แม้โลกจะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น มีหลายกลุ่มมากขึ้น แต่ยังเชื่อว่าสถานการณ์ไทยยังดี ประเทศไทยยังมีความหวัง และ WHA Group ขอทำหน้าที่ดึงอนาคตธุรกิจใหม่ๆเข้ามาในประเทศไทย สร้างความยั่งยืน

ยึดเป้ารายได้ปีนี้ 2 หมื่นล้าน

ทิศทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์สำหรับครึ่งหลังของปี 2568 ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจของ WHA Group ได้แก่ โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน ดิจิทัล โซลูชัน และโมบิลิตี้ โซลูชันกรีนโลจิสติกส์ครบวงจร บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานปกติปีนี้แตะระดับ 20,000 ล้านบาท รักษาระดับ All Time High เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน จากปี 2567 ทำได้ 14,303 ล้านบาท เติบโตกว่า 35% พร้อมรักษาระดับอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มากกว่า 45%

ภาพรวมธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม วางเป้ามียอดขายที่ดิน 2,350 ไร่ หลังจากช่วงครึ่งปีแรกทำได้ 1,105 ไร่  แม้เป้ายอดขายที่ดินจะน้อยกว่าปี 67 ที่ทำได้ 2,535 ไร่ แต่มูลค่าการขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบจากปีก่อน  มียอดขายที่ดินรอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ประมาณ 1,467 ไร่

ปัจจุบันบริษัทมีนิคมอุตสาหกรรมรวม 16 แห่ง แบ่งเป็น ประเทศไทย 15 แห่ง และเวียดนาม 1 แห่ง  โดยลูกค้าหลักคือ จีน 28% ญี่ปุ่น 19% ไทย 17% อเมริกา 13% และยุโรป 10% อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 40% เพื่อการบริโภค 14% และอิเล็กทรอนิกส์ 12% 

"นิคมอุตสาหกรรมเวียดนามยังน่าสนใจ เราจะตกขบวนไม่ได้ มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า เราจะมีนิคมฯในเวียดนามอีก 5 แห่ง รวมเป็น 6 แห่ง"

"ธุรกิจโลจิสติกส์" ปัจจุบันมีพื้นที่รอเซ็นสัญญา (Awarded Projects) โครงการ Built-to-Suit และโรงงาน/คลังสินค้าสำเร็จรูป อีก 31,729 ตารางเมตร มูลค่าประมาณ 1,303 ล้านบาท โดยในปี 68 บริษัทตั้งเป้าโครงการ/ค่าเช่าใหม่อีกประมาณ 200,000 ตารางเมตร หรือมีพื้นที่ให้เช่าปีนี้แตะระดับ 3,309,000 ตารางเมตร

"ธุรกิจโมบิลิตี้ (Mobility)" บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างระบบนิเวศน์ด้านโลจิสติกส์ด้วยระบบพลังงานไฟฟ้า (EV) ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกดำเนินการแล้ว 372 คัน และปรับลดเป้าหมายทั้งปีความต้องการใช้รถ  EV อยู่ที่ 539 คัน จากต้นปีตั้งไว้ 1,700 คัน เนื่องจากการส่งมอบรถยังมีความล่าช้า ดีมานด์ที่ชาร์จดี

"ธุรกิจสาธารณูปโภค" น้ำ บริษัทวางเป้าหมายการขายน้ำและปริมาณการจัดการปีนี้ไว้ที่ 166 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าคาดอยู่ที่ 1,185 เมกะวัตต์ ในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสได้อีกราว 29 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยลูกค้ามีทั้ง MR. D.I.Y และกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ใช้น้ำและไฟฟ้าเยอะมาก

สำหรับเป้าหมายการใช้งบลงทุนปีนี้คาดว่าจะเหลือเพียง 16,000-18,000 ล้านบาท จากเป้าเดิมที่ 20,000 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจโมบิลิตี้ (Mobility) ปรับลดเป้าหมายการใช้รถ EV และการก่อสรางโครงการธุรกิจโลจิสติกส์ เริ่มต้นล่าช้ากว่าที่ประเมิน.

ข่าวล่าสุด

ไทยสร้างไทยเปิดแคมเปญ Big Cleaning เดินหน้าล้างโกงทั่วประเทศ