6 หุ้นเด่น รับผลบวกเปิดตัว iPhone 17 ขายทำกำไรฉุดราคาหุ้นร่วง
เปิดโผ 6 หุ้นเด่น “COM7-JMART-SYNEX-SPVI-CPW-ADVICE” รับผลบวกกระแส iPhone 17 Series จำนวน 4 รุ่น เตรียมเปิดจอง 12 ก.ย.68 เปิดขาย 19 ก.ย.68 ด้านราคาหุ้นร่วง เหตุขายทำกำไร
KEY
POINTS
- เปิดโผ 6 หุ้นเด่น “COM7-JMART-SYNEX-SPVI-CPW-ADVICE” รับผลบวกกระแส iPhone 17 Series จำนวน 4 รุ่น เตรียมเปิดจอง 12 ก.ย.68 เปิดขาย 19 ก.ย.68
- ด้านราคาหุ้นร่วง เหตุขายทำกำไร หลังเก็งกำไรล่วงหน้าก่อนเปิดตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ Apple ประกาศเปิดตัว iPhone 17 Series อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2568 จำนวน 4 รุ่น ได้แก่ Phone 17, iPhone 17 Air, iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max โดยไทยติดกลุ่มประเทศ Tier 1 เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันที่ 12 ก.ย.2568 เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ตามเวลาไทย และเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 19 ก.ย.2568
ดังนั้นส่งผลดีต่อหุ้น 6 บริษัท ได้แก่ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7, บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART, บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI, บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW, บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX และบริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ ADVICE
บล.กรุงศรี ระบุว่า การเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ ทุกครั้งมักจะเห็นแรงเก็งกำไรในกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม การศึกษาสถิติผลตอบแทนก่อนและหลังการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ย้อนหลัง 7 ครั้งล่าสุด พบว่า การลงทุนในช่วงเวลาก่อนเปิดตัวประมาณ 4 สัปดาห์ และขายทำกำไรในช่วงเปิดตัวเป็นช่วงเวลาที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด โดยหุ้นกลุ่มจำหน่ายมือถือมีความน่าจะเป็นที่จะให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูงถึง 75-100%
บล.โกลเบล็ก ระบุว่า การเปิดตัว iPhone 17 ส่งผลให้หุ้นกลุ่มค้าปลีกและจัดจำหน่ายสินค้าไอทีได้รับอานิสงส์โดยตรง ได้แก่ ADVICE, COM7, SYNEX, SPVI, JMART และ CPW
บล.เอเซียพลัส ระบุว่า COM7 จะได้อานิสงค์จากการเปิดตัวของ iPhone 17 และได้รับผลกระทบเชิงลบจากฤดูกาลในไตรมาส 3/2568 น้อยกว่าหุ้นอื่นๆ ในกลุ่ม ตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/2568 ส่วนในไตรมาส 4/2568 นอกจากจะได้ผลบวกจากฤดูกาลแล้ว ยังเป็นไตรมาสแรกที่ได้ประโยชน์เต็มไตรมาสจาก iPhone 17 อีกด้วย
สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น วันนี้ (10 ก.ย.2568) ล่าสุด เวลา 12.15 น. COM7 ปรับลดลง 2.97% หรือลดลง 0.75 บาท มาอยู่ที่ 24.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 25.25 บาท และปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 24.20 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 383.69 ล้านบาท
JMART ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดวันก่อนหน้า อยู่ที่ 10.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 10.90 บาท และปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 10.30 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 183.47 ล้านบาท
SPVI ปรับลดลง 4.17% หรือลดลง 0.10 บาท มาอยู่ที่ 2.30 บาท ราคาปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 2.34 บาท และปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 2.26 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 4.81 ล้านบาท
CPW ปรับลดลง 1.79% หรือลดลง 0.04 บาท มาอยู่ที่ 2.20 บาท ราคาปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 2.22 บาท และปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 2.18 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 0.54 ล้านบาท
SYNEX ปรับลดลง 1.60% หรือลดลง 0.20 บาท มาอยู่ที่ 12.30 บาท ราคาปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 12.50 บาท และปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 12.30 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 18.35 ล้านบาท
ADVICE ปรับลดลง 2.56% หรือลดลง 0.15 บาท มาอยู่ที่ 5.70 บาท ราคาปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 5.85 บาท และปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 5.65 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 10.24 ล้านบาท


