posttoday

ผ่าเกม "ตลาดหุ้นไทย" แข่งยังไงให้ชนะในสมรภูมิตลาดอาเซียน

13 กรกฎาคม 2568

ตลาดหุ้นไทยเผชิญจุดเปลี่ยนสำคัญ การปรับตัวเพื่อยืนหยัดในเวทีตลาดหุ้นอาเซียนจึงไม่ใช่ทางเลือกแต่คือภารกิจเร่งด่วน! "อัสสเดช คงสิริ" เดินเกมจั๊มพ์พลัสชัดเจนภายในปีนี้ เชื่อฟื้นบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่ง ฟื้นอนาคตตลาดทุนเข้าเรดาร์ลงทุนต่างชาติ

KEY

POINTS

  • ตลาดหุ้นไทยเผชิญจุดเปลี่ยนสำคัญ การปรับตัวเพื่อยืนหยัดในเวทีตลาดหุ้นอาเซียนจึงไม่ใช่ทางเลือกแต่คือภารกิจเร่งด่วน!
  • "อัสสเดช คงสิริ" เดินเกมจั๊มพ์พลัสชัดเจนภายในปีนี้ เชื่อฟื้นบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่ง
  • ฟื้นอนาคตตลาดทุนเข้าเรดาร์ลงทุนต่างชาติ

โลกการลงทุนที่เคลื่อนไหวรวดเร็วและไร้พรมแดน ตลาดหุ้นในอาเซียนกลายเป็นเวทีแข่งขันสำคัญสำหรับนักลงทุนทั่วโลก ขณะที่ เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซียเดินหน้าด้วยการปฏิรูปโครงสร้าง สร้างความเชื่อมั่น และดึงดูดทุนจากต่างชาติ ตลาดหุ้นไทยกลับต้องเผชิญภาวะซบเซาและปัญหาโครงสร้างที่สะสมมาอย่างยาวนาน

คำถาม คือ ตลาดทุนไทยรักษาจุดแข็งเดิมไว้ได้หรือไม่ ? และ เราจะยืนอยู่ตรงไหนในเกมการแข่งขันของอาเซียน ?

ผ่าเกม "ตลาดหุ้นไทย" แข่งยังไงให้ชนะในสมรภูมิตลาดอาเซียน

"อัสสเดช คงสิริ" กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดแผนฟื้นตลาดหุ้นไทยว่า ในวันนี้ตลาดหุ้นไทยเผชิญความผันผวนค่อนข้างมาก ที่นอกเหนือจากประเด็นการเจรจาการค้ากับสหรัฐที่ที่ต้องติดตามแล้วนั้น

โลกยังมีอีกหลายเรื่องราวที่กำลังเปลี่ยนแปลง อาทิ EU พิจารณาธุรกิจต่างๆปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากน้อยแค่ไหนซึ่งจะกระทบการตัดสินใจลงทุน เป็นต้น ปัจจัยทั้งหมดส่งผลให้นักลงทุนหลายคนไม่กล้าลงทุน  

แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นก็คือ เศรษฐกิจไทยวันนี้ทางแบงก์ชาติคาดการณ์จีดีพีเติบโต 2.3% สวนทางกับเวิล์ดแบงก์ที่มองว่าต่ำกว่า โดยแบงก์ชาติมองว่าครึ่งปีแรกจีดีพียังเติบโตราว 3% ไม่ว่าตัวหารในช่วงครึ่งปีหลังจะเกิดอะไรขึ้นแต่สิ่งที่แบงก์ชาติอยากเห็นคือการจัดสรรงบประมาณภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นการลงทุนให้กลับมาได้

ขณะที่การส่งออกแม้จะเกิดกรณีเลวร้ายแค่ไหนทางแบงก์ชาติคงมองส่งออกเฉลี่ยทั้งปีนี้เติบโต อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 

ขณะที่ความมั่นคงของประเทศถือว่าค่อนข้างดี ธนาคารแข็งแกร่ง พันธบัตรภาคเอกชนในวันนี้ที่มีกระแสความเสี่ยงแต่ภาพรวมยังถือว่าดี การคัดเลือกและให้เรตติ้งถือว่าดี แต่บางเหตุการณ์ที่อาจจะทำให้ตกใจอาจต้องพิจารณาแยกแยะให้ดี

หากดูตามที่บริษัทจดทะเบียนของไทย ณ วันนี้ในส่วนของ P/E อยู่ในระดับต่ำ แต่ Dividend Yield ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับภูมิภาค ซึ่งโดยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังเติบโตไม่ใช่ทดถอย อีกทั้ง หากมองตามพื้นฐานของนักวิเคราะห์หลายแห่งมองว่า Downside Risk ค่อนข้างต่ำ

ผ่าเกม "ตลาดหุ้นไทย" แข่งยังไงให้ชนะในสมรภูมิตลาดอาเซียน

ด้านสภาพคล่องหลายวันที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยต่ำกว่าสิงคโปร์ เริ่มเห็น 26,000 ล้านบาทถือว่าน่าเป็นห่วงเและต้องหาทางแก้แต่ก็ยาก แม้จะมีโปรแกรม Thai ESGX ตอนนี้ยังมี LTF ค้างอยู่กว่าแสนล้านบาทซึ่งอาจจะกดดันในอนาคต ดังนั้นจึงต้องกลับมาที่ปัจจัยพื้นฐานบริษัทหากไม่สามารถสร้างความน่าสนใจต่อนักลงทุนได้ก็ดึงสภาพคล่องกลับเข้ามาไม่ได้

ดังนั้นกลับมาที่พื้นฐานของสินค้าและธุรกิจของตลาดทุน หน้าที่หลักของ ตลท. คือ "สร้างโอกาส" ซึ่ง DR เป็นโอกาสการลงทุนหุ้นต่างประเทศ คนไทยลงทุนได้โดยไม่ต้องขนเงินไปลงทุนในต่างประเทศ วันนี้ความนิยมใน DR เพิ่มขึ้น 20% มาร์เก็ตแคปเติบโตเร็ว

ผ่าเกม "ตลาดหุ้นไทย" แข่งยังไงให้ชนะในสมรภูมิตลาดอาเซียน

นอกจากนี้ ก.ล.ต. เร่งผลักดัน TISA หาทางควบรวมโปรแกรมทั้งหมดอยู่ในที่เดียว อาทิ กองทุนรวม LTF เข้ามาอยู่ในระบบเดียวกันเพื่อลดความผันผวนในอนาคต 

โดย TISA สร้างดีมาน์ซัพพลายควบคู่กันและสร้างการออมระยะยาว ซึ่งอาจซื้อได้ทั้งหุ้น, ETF, DR และพันธบัตร เพื่อจัดพอร์ตลงทุนได้ในที่เดียว เป็นต้น แต่ NISA สร้างดีมานด์ ส่วนตัวคาดหวังว่าโครงการ TISA ชัดเจนในปี 2568 นี้

เสน่ห์ ? ตลาดทุน 

  1. Wellness Tourism
  2. ยิลด์สูง 3 ปี แตะระดับ 5.58%
  3. Sustainability ทำดีทำถึงทำต่อ

"Valuation ของไทยถูก แต่ถ้าถูกแล้วไม่มีอัพไซด์ก็สร้างความสนใจได้ยาก"

การซื้อหุ้นคืน เป็นสัญญาณสะท้อนความเชื่อมั่นพื้นฐานของบริษัท แต่แทนที่จะซื้อหุ้นคืนนำเงินไปลงทุนธุรกิจเพิ่มเติมดีกว่าหรือไม่ เพราะถ้าไม่ลงทุน นั่นแปลว่าโอกาสทางเศรษฐกิจและการแข่งขันของไทยถดถอยหรือไม่ หลายบริษัทพึ่งพาการบริโภคในประเทศ หนี้ครัวเรือนที่สูงทุกคนจึงต้องงดการลงทุน ตลท.ต้องมาดูว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร

"การซื้อหุ้นคืนเพราะเงินเหลือเยอะและมีการลงทุน แต่เวลาลงทุนต้องดูว่าเวลาประกาศซื้อหุ้นคืน บริษัทนั้นมีเงินเหลือไปลงทุนหรือไม่ เท่าที่ดูบริษัทก็ไปลงทุน" 

อัสสเดช เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ ทั้งกลุ่มเฮลท์แคร์ที่เติบโต เพียงแต่ต้องสื่อสารให้นักลงทุนทราบ ที่สำคัญหากการเจรจาภาษีสหรัฐฯมีข้อตกลงที่ชัดเจนและไทยสามารถแข่งขันการค้าระหว่างประเทศได้จะทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นและวิเคราะห์ได้ว่าอุตสาหกรรมไหนสามารถแข่งขันได้ ผสานการใช้งบประมาณของประเทศในช่งครึ่งปีหลังได้จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้

"วันนี้ทรัพย์สินหรือสินค้าของไทยน่าสนใจน้อยลงในพื้นฐาน หากดูอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น(Return On Equity:ROE)ของแต่ละบริษัท อย่าง คอสโก ROE แตะ30% โตต่อเนื่อง ผมลองเซิร์จถามเอไอว่าบริษัทจดทะเบียนไทยที่มี ROE มากกว่า 30% มีกี่บริษัท เชื่อหรือไม่ว่ามีเพียง 15 บริษัทเท่านั้น ดังนั้นความหวังคือโครงการจั๊มพ์พลัส(JUMP+)จะช่วยผลักดันอนาคตและโอกาสการแข่งขันในตลาดอาเซียน"

ผ่าเกม "ตลาดหุ้นไทย" แข่งยังไงให้ชนะในสมรภูมิตลาดอาเซียน

อนาคตตลาดหุ้นไทยจะไม่ถูกกำหนดด้วยอดีตอีกต่อไป หากแต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจวันนี้ ทั้งนโยบาย ความโปร่งใส กลไกการระดมทุน และการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่ตอบโจทย์นักลงทุนทั่วโลก ตลาดหุ้นไทยต้องกล้าปรับโครงสร้าง รื้อระบบที่ล้าหลัง และสร้างมาตรฐานใหม่ หากหวังจะกลับมายืนหนึ่งในอาเซียนท่ามกลางกระแสทุนที่พร้อมเปลี่ยนทิศทางได้ทุกเมื่อ

ตลาดทุนไม่รอใคร และประเทศไทยก็ไม่ควรหยุดนิ่งอีกต่อไป.

ข่าวล่าสุด

ไทยแชมป์ภูมิภาค ใช้ AI เพื่อความยั่งยืน ลดต้นทุน-รับมือโลกรวน