ลุ้นเจรจาภาษีทรัมป์! SET ไซด์เวย์ 1,100-1,130 จุด เน้นย่อตั้งรับหุ้นกำไรดี
เกาะติดผลเจรจาการค้าภาษีทรัมป์ ลิเบอเรเตอร์ คาดหุ้นไทยไซด์เวย์ 1,100 - 1,130 จุด เน้นย่อตั้งรับหุ้นกำไรดี เชียร์ SCC เคาะราคาเป้าหมาย 180 บาท ผลงานไตรมาส 2/68 ฟื้นตัวต่อเนื่องรับส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ดีขึ้น บวกราคาขายกลุ่มซีเมนต์พุ่ง
KEY
POINTS
- เกาะติดผลเจรจาการค้าภาษีทรัมป์ ลิเบอเรเตอร์ คาดหุ้นไทยไซด์เวย์ 1,100 - 1,130 จุด เน้นย่อตั้งรับหุ้นกำไรดี
- เชียร์ SCC เคาะเป้า 180 บาท ไตรมาส 2/68 ฟื้นตัวรับส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ดีขึ้น ราคาขายกลุ่มซีเมนต์พุ่ง
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า จากรายงานการประชุม FED รอบล่าสุดระบุว่า กรรมการFED ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากคาดว่าผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรที่มีต่อเงินเฟ้อนั้นจะไม่มากนักและเป็นผลกระทบชั่วคราว
โดยประเมินว่ามีโอกาสจะลดลงได้อีกราว 0.5% โดยคาดจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ย. และ ธ.ค. ถือเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อการเก็งกำไรในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ คาดยังรอคอยบทสรุปของการเจรจาการค้าระหว่างไทย กับสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะได้ผลตอบรับที่ดีขึ้นกว่าการประกาศในรอบที่ผ่านมา ซึ่งไทยโดนอัตราภาษีที่สูงถึง 36%
แต่อย่างไรก็ดีคงต้องติดตามว่ารอบใหม่เราจะลดลงได้เท่าไหร่ เพราะต้องนำมาเปรียบเทียบกับอัตราภาษีของประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งประเทศสำคัญอย่างเวียดนามอยู่ที่ระดับ 20% ดังนั้นอาจเป็นประเด็นที่ค่อนข้างยากที่ไทยจะได้ต่ำกว่าระดับดังกล่าว ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงต่อการผลิตและส่งออกในช่วงถัดไป
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ล่าสุดรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย. อยู่ที่ 52.7 จุด ลดลงจาก 54.2 จากเดือน พ.ค. และเป็นการลดลงต่อเนื่อง 5 เดือนติดต่อกัน ทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ยังสะท้อนภาคการบริโภคที่ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1,100 - 1,130 จุด ความคาดหวังลดดอกเบี้ยสหรัฐฯในช่วงที่เหลือของปี ยังเป็นแรงขับเคลื่อนตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ไทยยังต้องระวังเกี่ยวกับผลการเจรจาการค้าในช่วงถัดไป ดังนั้นด้านกลยุทธ์ ยังคงแนะเพิ่มความระมัดระวัง เน้นย่อตั้งรับหุ้นที่แนวโน้มกำไรดี
โดยวันนี้แนะนำ “SCC” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 180 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/68 ยังฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นทั้ง PE, PP และ PVC, ผสานการปรับราคาขายในกลุ่มซีเมนต์ขึ้นเป็น 400 บาทต่อตัน
ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์คาดดีขึ้นเช่นกันจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนการผลิตที่ลดลง ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PBV 0.6 เท่า ยังอยู่ในระดับที่เก็งกำไรได้


