สหรัฐฯ-จีนผ่อนคลาย! การเมืองไทยยืดเยื้อ SET ย่อสะสมหุ้นดีมีกำไร
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ความคืบหน้าเรื่องการเจรจาการค้าล่าสุด พบว่า สหรัฐฯและจีน เห็นพ้องในหลักการเกี่ยวกับกรอบความร่วมมือเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้า โดยจะนำไปสู่การปฏิบัติตามฉันทามติที่ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุร่วมกันก่อนหน้านี้ที่เจนีวา
ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยโดยคณะเจรจาของทั้งสองฝ่าย ซึ่งช่วงถัดไปคณะผู้แทนจะนำไปรายงานต่อผู้นำทั้งสองฝ่าย โดยเมื่อประธานาธิบดีของทั้งสองฝ่ายให้ความเห็นชอบแล้ว ก็จะเดินหน้าสู่ขั้นตอนการดำเนินการจริงต่อไป โดยสรุปถือว่าการเจรจาการค้าครั้งนี้ ช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ความตึงเครียดได้บ้าง
แต่อย่างไรก็ดีเช้านี้ ศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำสั่งอนุญาตให้ โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถเดินหน้าบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกต่อไปได้ โดยศาลกำหนดให้มีการพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งคงต้องติดตามต่อไป
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในคืนนี้ คือ เงินเฟ้อของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. โดยคาด CPI ที่เติบโต 2.4%จากปีก่อน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก +2.3%จากปีก่อนใน เม.ย. ส่วน Core CPI คาดเพิ่มขึ้น +2.9% จากปีก่อน จาก +2.8%ในเดือนก่อนหน้า
ปัจจัยในประเทศมีความคืบหน้าเรื่องคดีรักษาตัวที่ชั้น 14 ของคุณทักษิณ โดยทางทนายความได้ยื่นคำขอขยายเวลาส่งเอกสารคำชี้แจงออกไปอีก 30 วัน ซึ่งศาลได้กำหนดกรอบเวลาเป็นภายในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ ดังนั้นประเด็นนี้อาจยังคงยืดเยื้ออีกระยะหนึ่ง
คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1,130-1,150 จุด สหรัฐฯและจีนเห็นพ้องในหลักการความร่วมมือที่เคยให้ไว้ที่กรุงเจนีวา ส่วนศาลอุทธรณ์ขยายคำสั่งผ่อนปรนชั่วคราวให้ทรัมป์เก็บภาษีได้ ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศยังยืดเยื้อ ดังนั้นด้านกลยุทธ์แนะย่อสะสมหุ้นที่แนวโน้มกำไรที่คาดขยายตัวดี
โดยวันนี้แนะนำ “CENTEL” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 35 บาท คาดแนวโน้มกำไรฟื้นตัว จากการกลับมาเปิดโรงแรมที่พัทยาและภูเก็ต หลังรีโนเวทไปในช่วงที่ผ่านมา
ผสานกับรายได้โรงแรมที่ญี่ปุ่นที่ปรับตัวขึ้นเด่นในช่วงไตรมาส 2/68 คาดหวังมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในประเทศจะออกมาในเดือนนี้ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 3/68