DMT ยื่นอนุญาโตฯ ให้กรมทางหลวง ชดเชยรายได้ช่วงโควิด 2.3 พันล้าน
DMT ยื่นอนุญาโตตุลาการ เรียกค่าเสียหายกว่า 2.3 พันล้านบาท จากกรมทางหลวง หลังสูญเสียรายได้ค่าผ่านทางตามสัญญาสัมปทานดอนเมืองโทลล์เวย์ช่วงโควิดนาน 2 ปี 6 เดือน
นายศักดิ์ดา พรรณไวย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2568 บริษทได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ ศาลยุติธรรม เพื่อใช้สิทธิและปฏิบัติตามสัญญาสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ตอนดินแดง-ดอนเมือง (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) ต่อกรมทางหลวง เพื่อให้กรมทางหลวงแก้ไขผลเสียต่อฐานะการเงินของบริษัท คิดเป็นเงินจำนวน 2,307,899,050 บาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากบริษัทเป็นผู้รับสัมปทานทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 (ถนนวิภาวดีรังสิต) จากกรมทางหลวง รวม 2 ตอน ได้แก่ สัมปทานทางหลวงตอนดินแดง-ดอนเมือง และสัมปทานทางหลวงตอนดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน โดยระหว่างอายุสัญญาสัมปทานในปี 2563-2565
ปรากฏว่าเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร อันเป็นเหตุสุดวิสัยตามสัญญาสัมปทาน ส่งผลให้ปริมาณการจราจรที่ใช้ทางหลวงสัมปทานทางหลวงเดิมและทางหลวงสัมปทานตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น บริษัทจึงได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสัญญาสัมปทานโดยแจ้งเหตุสุดวิสัยให้กรมทางหลวงทราบ
ต่อมา บริษัทได้รับผลกระทบต่อฐานะทางการเงินอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัยดังกล่าว จึงมีหนังสือขอให้กรมทางหลวงแก้ไขผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัท ตามหน้าที่ของบริษัท และกรมทางหลวง ซึ่งกำหนดไว้ในสัญญาสัมปทาน จากนั้น บริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาอิสระเพื่อประเมินการสูญเสียปริมาณการจราจรและรายได้ค่าผ่านทางของทางหลวงสัมปทานทั้งสองตอน ในระหว่างวันที่ 26 มี.ค.2563-30 ก.ย.2565 ระยะเวลาประมาณ 2 ปี 6 เดือน ช่วงระยะเวลาที่เกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น
ทั้งนี้ ที่ปรึกษาอิสระประเมินว่าบริษัทสูญเสียปริมาณจราจรของทางหลวงสัมปทานทั้งสองตอนรวม 63,804,258 คัน คิดเป็นจำนวนเงินรายได้ค่าผ่านทางที่บริษัทสูญเสียไปรวม 4,297,787,290 บาท ส่งผลให้เกิดผลเสียต่อฐานะทางการเงินของบริษัท 2,307,899,050 บาท (มูลค่า ณ วันที่ 30 ก.ย.2565)
โดยบริษัทได้มีหนังสือนำส่งรายงานการศึกษาของที่ปรึกษาอิสระต่อกรมทางหลวงแล้ว แต่จนถึงปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้รับการเยียวยาชดเชยจากกรมทางหลวง จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ ศาลยุติธรรม เพื่อใช้สิทธิตามสัญญาสัมปทานดังกล่าว
การยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม เป็นการดำเนินการขั้นตอนแรกของการเริ่มกระบวนการการพิจารณาข้อพิพาท ซึ่งต่อไปสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม จะนำส่งสำเนาคำเสนอข้อพิพาทของบริษัทให้แก่กรมทางหลวง เพื่อให้กรมทางหลวงยื่นคำคัดค้านภายในระยะเวลาที่กำหนดต่อไป


