posttoday

PTT ราคาน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติวูบฉุดกำไร Q1/68 แตะ 2.33 หมื่นล้าน

13 พฤษภาคม 2568

"บมจ. ปตท. (PTT)" กำไรไตรมาส 1/68 ลดลง 19.5% หลังราคาน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติลดลงฉุดรายได้จากทุกธุรกิจ ทยอยซื้อหุ้นคืนกว่า 5.6 พันล้าน

KEY

POINTS

  • "บมจ. ปตท. (PTT)" กำไรไตรมาส 1/68 ที่ 2.33 หมื่นล้านบาท ลดลง 19.5%
  • ผลจากราคาน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติลดลง ฉุดรายได้ทุกธุรกิจ
  • ทยอยซื้อหุ้นคืน วันที่ 24 มี.ค.-11 เม.ย.68 กว่า 5.6 พันล้าน

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT" ปิดการซื้อขายวันนี้ (13 พ.ค.68) อยู่ที่ 31 บาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.80% มูลค่าการซื้อขาย 2,570.39 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 31.75 บาท และลดลงต่ำสุด 31 บาท

PTT ราคาน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติวูบฉุดกำไร Q1/68 แตะ 2.33 หมื่นล้าน

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 1/68 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจํานวน 700,223 ล้านบาท ลดลง -10.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง -3.3% จากไตรมาสก่อนหน้า 

ปตท.และบริษัทย่อยมีกําไรจากการดําเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จํานวน 93,527 ล้านบาท ลดลง 25,190 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.2 จากไตรมาส 1/67 ที่ 118,717 ล้านบาท โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น โดยธุรกิจการกลั่นมีผลการดำเนินงานลดลงจากกำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ที่ลดลง ประกอบกับ Crude Premium ที่ปรับเพิ่มขึ้น

ในไตรมาส 1/68 มีกำไรสต๊อกน้ำมันสุทธิกับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือประมาณ 1,500 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 1/67 มีกำไรประมาณ 2,600 ล้านบาท นอกจากนี้ ธุรกิจปิโตรเคมีมีผลการดาเนินงานลดลงโดยหลักจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของกลุ่มอะโรเมติกส์ที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งกลุ่มธุรกิจสํารวจและผลิตปิโตรเลียมมีผลการดำเนินงานลดลงจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ มีผลการดำเนินงานลดลงเช่นกัน โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ มีกำไรขั้นต้นลดลงจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้นอย่างมากจากผลกระทบของการเริ่มคำนวณต้นทุนราคาก๊าซฯด้วยนโยบาย Single Pool ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 เป็นต้นมา แม้ว่าปริมาณขายรวมปรับเพิ่มขึ้น

ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยในกลุ่มธุรกิจก๊าซฯปรับลดลง โดยหลักจากบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) เนื่องจากมีการลดสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการ LNG Receiving Terminal แห่งที่ 2 (LMPT2) เป็นร้อยละ 50.0

PTT ราคาน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติวูบฉุดกำไร Q1/68 แตะ 2.33 หมื่นล้าน

กําไรสุทธิในไตรมาส 1/68 จํานวน 23,315 ล้านบาท ลดลง 5,653 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.5 จากกําไรสุทธิจํานวน 28,968 ล้านบาทในไตรมาส 1/67 จาก EBITDA ที่ลดลงตามกล่าวข้างต้น แม้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น และขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ลดลง ประกอบกับในไตรมาส 1/68 มีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นขาดทุนประมาณ 200 ล้านบาท

โดยหลักจากส่วนแบ่งผลขาดทุนจากการด้อยค่าสุทธิกับการกลับรายการด้อยค่าเงินลงทุนของบริษัท อูเบะ เคมิคอลส์ (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) (UCHA) ของบริษัท ไออาร์พีซี จากัด (มหาชน) หรือ IRPC ขณะที่ในไตรมาส 1/67 มีการรับรู้เป็นกําไรประมาณ 4,600 ล้านบาท โดยหลักจากกําไรจากการขายเงินลงทุนใน Alvogen Malta (Out-licensing) Holding Ltd. (AMOLH) ของบริษัท ปตท. โกลบอล แมนเนจเม้นท์ จำกัด (PTTGM)

ฐานะการเงินของ ปตท. และบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้นจํานวน 3,450,293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,509 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 จาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่มีสินทรัพย์รวมจํานวน 3,438,784 ล้านบาท โดยหลักจากเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นเพิ่มขึ้นจากกระแสเงินสดจากการดาเนินงานของ ปตท. และบริษัทในกลุ่ม ขณะที่ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ลดลง โดยหลักจากโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เนื่องจากมีการนำเงินหลักประกัน EPC Contract ที่เคลมได้มาหักจากมูลค่างานระหว่างก่อสร้าง 

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มี.ค.68 มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 1,772,443 ล้านบาท ลดลง 9,464 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.5 จาก ณ วันที่ 31 ธ.ค.67 ที่จำนวน 1,781,907 ล้านบาท จากหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยลดลง โดยหลักจากการชาระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาว แม้ว่าภาษีเงินได้ค้างจ่ายและเงินปันผลค้างจ่ายเพิ่มขึ้น

ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 มี.ค.68 มีจำนวน 1,677,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 20,973 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.3 จาก ณ วันที่ 31 ธ.ค.67 ที่จำนวน 1,656,877 ล้านบาท จากกำไรสุทธิของ ปตท.และบริษัทย่อยสำหรับไตรมาส 1/68 สุทธิกับการลดลงจากหุ้นทุนซื้อคืนของ ปตท.

ซื้อหุ้นคืนกว่า 5.6 พันล้าน

ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อวันที่ 20 มี.ค.68 อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 16,000 ล้านบาท และจํานวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 470 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 1.65 ของหุ้นที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยวิธีจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Automatic Order Matching: AOM) และมีกําหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.-23 ก.ย.68

ปตท.ได้ทยอยซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.-11 เม.ย.68 รวมเป็นจํานวน 177,300,400 หุ้น หรือร้อยละ 0.62 คิดเป็นมูลค่ารวม 5,617,362,300 บาท

ข่าวล่าสุด

ยุคทอง YouTube Podcast เดือนเดียวยอดชมบนทีวีพุ่ง 700 ล้านชั่วโมง