ที่มา! สหรัฐ-จีน ยอมลดภาษีนำเข้า คัด 4 ธีมหุ้นเด้งรับเงินไหลเข้า
มุมมองนักวิเคราะห์ต่อกรณีสหรัฐ-จีน ยอมลดภาษีนำเข้าระหว่างกัน 115% เป็นเวลา 90 วัน พร้อมเปิด 4 ธีมหุ้นเด่นเก็งกำไร รับฟันด์โฟลว์ไหลเข้า
KEY
POINTS
- มุมมองนักวิเคราะห์ต่อกรณีสหรัฐ-จีน ยอมลดภาษีนำเข้าระหว่างกัน 115% เป็นเวลา 90 วัน
- เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย ไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาค รวมถึงไทย
- เปิด 4 ธีมหุ้นเด่นเก็งกำไร เด้งรับฟันด์โฟลว์ไหลเข้า
ความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐฯ และจีน ผ่อนคลายลง หลังจากที่สหรัฐฯ และจีน ตกลงลดภาษีตอบโต้ระหว่างกัน ชั่วคราว 90 วัน มีผลบังคับใช้วันที่ 14 พ.ค.2568 โดย สหรัฐฯ ลดภาษีจีน เหลือ 30% จากเดิม 145% และ จีน ลดภาษีสหรัฐฯ เหลือ 10% จากเดิม 125%
จากกรณีดังกล่าว “สุวัฒน์ สินสาฎก” กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โพสต์เพจเฟซบุ๊ก “AI คิดต่างอย่างพี่หมู - Art of Investment” ว่า ยกที่ 1 ศึกภาษี - พักรบ 90 วัน ตามคาด
การประกาศลดภาษีของทั้งสหรัฐฯ และจีน เป็นเวลา 90 วัน โดยลด -115% pts
- จาก 145% เป็น 30% บนสินค้าจีน
- จาก 125% เป็น 10% บนสินค้าสหรัฐฯ
จีนจะกลับมาส่งออกแร่ธาตุหายากให้สหรัฐฯ
จีนจะระงับมาตราการอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษี เช่น การแบนบริษัทด้วยการใส่ในรายชื่อบริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือ
สหรัฐฯ มีมูลค่าการค้ากับจีน 582.4 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2024
สหรัฐฯ ส่งออกไปจีน 143.2 พันล้านดอลลาร์ (-2.9% y-y)
จีนส่งออกไปสหรัฐฯ 438.9 พันล้านดอลลาร์ (+2.8% y-y)
สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าจีน -295.4 พันล้านดอลลาร์ (+5.8% y-y)
การประนีประนอม เป็นไปตามคาด
การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีน คาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกิน 3-6 เดือน เหตุเพราะท้้งสองประเทศมีชนักติดหลังเป็นเดิมพัน
ทั้งนี้ สหรัฐฯ นับถอยหลังกับการขาดแคลนของสินค้าอุปโภคบริโภคมากมายที่นำเข้าจากจีน ทั้งของเล่น ชิ้นส่วนอุตสาหกรรมมากมาย ที่หากเกิดการขาดแคลนใน 2-3 เดือน หลังจากสินค้าคงคลังเริ่มร่อยหรอ นั่นจะนำไปสู่ความวุ่นวายต่อคนอเมริกัน โรงงานผลิตสินค้าต่างๆ และแน่นอน ฐานเสียงในการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2026 โดยจะมีการเลือกตั้ง
- 435 เขตสภาผู้แทนราษฎร ใน 50 รัฐ (218 ที่นั่งเพื่อให้ได้เสียงข้างมาก) โดยปัจจุบันพรรครีพับลิกันของทรัมป์ ได้เสียงข้างมาก 220 เสียง > 213 เสียง
- 5 ใน 6 ผู้แทนสำหรับกรุงวอชิงตัน ดีซี และดินแดนในปกครองสหรัฐ (territories)
- 33 สมาชิกวุฒิสภา ที่จะมีการเลือกตั้งในปี 2026 โดยปัจจุบัน 13 ที่นั่ง จากพรรคเดโมแครต และ 20 ที่นั่ง จากพรรครีพับลิกันของทรัมป์
ดังนั้น หากทรัมป์ไม่สามารถเจรจากับจีนได้ภายในสิ้นปี สหรัฐและคนอเมริกันจะต้องประสบกับความเดือดร้อนจาก
1) สินค้าขาดแคลน
2) สินค้าราคาแพงขึ้นมาก
3) การผลิตสินค้ามากมายที่ต้องใช้ชิ้นส่วนนำเข้าจะสะดุดและอาจต้องปิดโรงงาน
4) อุตสาหกรรมอาวุธ การบิน รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ที่ต้องใช้แร่ธาตุหายากที่นำเข้าจากจีน จะมีปัญหาห่วงโซ่การผลิต
ขณะที่ จีนมีความเสี่ยงการจ้างงานมากถึง 16 ล้านตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกไปสหรัฐฯ โดยมีอุตสาหกรรมมากมายที่จีนยังต้องพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ
- consumer electronics (มูลค่าส่งออกทั้งหมด 339 พันล้านดอลลาร์, มูลค่าส่งออกไปสหรัฐ 96 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 22% ของการส่งออกจีน)
- เครื่องใช้ไฟฟ้า/อุปกรณ์ในบ้าน (มูลค่าส่งออกทั้งหมด 100 พันล้านดอลลาร์, มูลค่าส่งออกไปสหรัฐ 24 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 19% ของการส่งออกจีน)
- เสื้อผ้า เครื่องนุ่มห่ม (มูลค่าส่งออกทั้งหมด 336 พันล้านดอลลาร์, มูลค่าส่งออกไปสหรัฐ 68 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 17% ของการส่งออกจีน)
- อุปกรณ์การแพทย์/ สายตา (มูลค่าส่งออกทั้งหมด 57 พันล้านดอลลาร์, มูลค่าส่งออกไปสหรัฐ 12 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 17% ของการส่งออกจีน)
- สินค้าไม้ ไม้และกระดาษ (มูลค่าส่งออกทั้งหมด 42 พันล้านดอลลาร์, มูลค่าส่งออกไปสหรัฐ 9 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 17% ของการส่งออกจีน)
- เคมีภัณฑ์ (มูลค่าส่งออกทั้งหมด 320 พันล้านดอลลาร์, มูลค่าส่งออกไปสหรัฐ 42 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 12% ของการส่งออกจีน)
- อุปกรณ์ก่อสร้าง/ เครื่องจักร (มูลค่าส่งออกทั้งหมด 227 พันล้านดอลลาร์, มูลค่าส่งออกไปสหรัฐ 33 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 13% ของการส่งออกจีน)
- อุปกรณ์ไฟฟ้า (มูลค่าส่งออกทั้งหมด 202 พันล้านดอลลาร์, มูลค่าส่งออกไปสหรัฐ 30 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 12% ของการส่งออกจีน)
- โลหะ (มูลค่าส่งออกทั้งหมด 240 พันล้านดอลลาร์, มูลค่าส่งออกไปสหรัฐ 28 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 11% ของการส่งออกจีน)
- เครื่องมือและชิ้นส่วนการขนส่ง (มูลค่าส่งออกทั้งหมด 241 พันล้านดอลลาร์, มูลค่าส่งออกไปสหรัฐ 24 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 9% ของการส่งออกจีน)
- แร่ธาตุ ( มูลค่าส่งออกทั้งหมด 67 พันล้านดอลลาร์, มูลค่าส่งออกไปสหรัฐ 1 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 2% ของการส่งออกจีน)
ด้าน ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ผ่อนคลายลงช่วงสั้น (90 วัน) หนุนเม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย และหนุน BOND YIELD 10 ปี สหรัฐฯ พุ่งขึ้นใกล้แตะ POLICY RATE ที่ 4.5% ซึ่งทำให้นักลงทุน คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เลื่อนการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกไปอยู่ที่เดือน 9 จากก่อนหน้านี้คาดจะลดดอกเบี้ยช่วงเดือน 6-7
ขณะที่หากพิจารณา BOND YIELD ประเทศอื่นๆ จะเห็นได้ว่าในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาขยับขึ้นหมด แสดงถึงเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
โดย FUND FLOW สลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคในเดือน พ.ค.นี้ (MTD) หลังจากขายมาตลอด 4 เดือนแรกของปี ส่วนตลาดหุ้นไทย ต่างชาติมีการสลับมาซื้อบ้าง พร้อมกับขายสุทธิน้อยลงเหลือ -11.8 ล้านดอลลาร์ หรือ -438 ล้านบาท เท่านั้น (MTD) จากขายสุทธิในปีนี้ 1.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ -5.5 หมื่นล้านบาท (YTD) ขณะที่สัปดาห์นี้เริ่มมีเม็ดเงิน THAIESGX เข้ามาพอดี หนุนให้ SET ในเดือนนี้มีโอกาสเดินหน้าต่อได้
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ 4 ธีม เก็งกำไรในช่วงนี้
1. หุ้นอิงเศรษฐกิจจีน PTTGC, SCC, SCGP, PTTEP
2. หุ้นอิงเทคฯ DELTA, CCET, KCE
3. หุ้นอิงงบไตรมาส 1/2568 โต QoQ, YoY และดีกว่าคาด WHA, TRUE, GULF, GPSC, OR
4. หุ้นอิง VALUATION ถูกกว่าปกติ CPALL, AOT, BH


