ดีกว่าคาด! GPSC โกยเงินปันผล-ไซยะบุรีฟื้นกำไร Q1/68 พุ่ง 32%
GPSC อวดกำไรไตรมาส 1/2568 พุ่งแตะ 1,140 ล้านบาท เงินปันผล-โรงไฟฟ้าไซยะบุรีฟื้นตามปริมาณน้ำจากลานีญา บวกต้นทุนก๊าซธรรมชาติ-ถ่านหินลดลงหนุนกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP
KEY
POINTS
- GPSC อวดกำไรไตรมาส 1/2568 เพิ่มขึ้น 32% แตะ 1,140 ล้านบาท
- รับทรัพย์เงินปันผลและส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรีฟื้นตามปริมาณน้ำจากลานีญา บวกต้นทุนก๊าซธรรมชาติ-ถ่านหินลด
- โบรกอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC" ซื้อขายวันนี้ (8 พ.ค.68) ล่าสุด ณ เวลา 14.21 น. อยู่ที่ 33 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท คิดเป็น +1.54% มูลค่าการซื้อขาย 149.91 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 33.50 บาท และลดลงต่ำสุด 32 บาท
กำไร Q1/68 พุ่ง 32%
บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิแตะระดับ 1,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) จากเงินปันผลรับและส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า จํานวน 121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105 ล้านบาท จากไตรมาส 1/67 รับส่วนแบ่งจำนวน 16 ล้านบาท เนื่องด้วยโรงไฟฟ้าไซยะบุรี (XPCL) ผลประกอบการดีขึ้นคามปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากปรากฏการณ์ลานีญา
ขณะที่ โรงไฟฟ้าอวาด้า (AEPL) ผลประกอบการดีขึ้นตามปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้นตามค่าความเข้มแสงที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีโครงการที่เริ่มดําเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น ด้านโรงไฟฟ้าพลังงานลม CFXD ผลประกอบการลดลงตามการรับรู้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยหลังจากการดําเนินการเชิงพาณิชย์เต็มจํานวนในเดือนมกราคม 2568
ส่วนรายได้จากการจําหน่ายไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นตามกําลังการผลิตดีขึ้นหลังเปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์จาก 30 ต้นในไตรมาส 1/67 เป็น 62 ต้นในไตรมาส 1/68 อย่างไรก็ตามกังหันลมบางส่วนจํานวน 28 ต้นเดินเครื่องไม่เต็มประสิทธิภาพและอยู่ระหว่างการซ่อมบํารุงที่อยู่ใต้การรับประกันผลงานจากผู้รับเหมา
ด้าน บริษัท ไทย โซล่าร์ รีนิวเอเบิล จำกัด (TSR) ผลประกอบการลดลง 44 ล้านบาท จาก 64 ล้านบาทในไตรมาส 1/67 เป็น 20 ล้านบาท จากราคาขายไฟฟ้าปรับลดลงเนื่องจาก Adder หมดอายุทั้งหมดในเดือนมิถุนายน 2567
ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ จํานวน 67 ล้านบาท ลดลง 73 ล้านบาท หรือ 52% จากรายการปรับปรุงภาษีเงินได้รอตัดบัญชีเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/68 าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย จํานวน 2,324 ล้านบาท ลดลง 71 ล้านบาท หรือ 3% สาเหตุหลักมาจากค่าตัดจําหน่ายมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิที่ได้จากการเข้าซื้อ GLOW ลดลงตามอายุสัญญา ต้นทุนทางการเงิน จํานวน 1,380 ล้านบาท ลดลง 41 ล้านบาทหรือ 3% ตามเงินกู้ยืมของกลุ่มกิจการที่ลดลงจากการจ่ายชําระคืนเงินกู้ตามแผน
กําไรขั้นต้น 5,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26 ล้านบาท หรือ 1% จากโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) เพิ่มขึ้น 221 ล้านบาท จากต้นทุนก๊าซธรรมชาติและถ่านหินลดลง ประกอบกับความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กําไรผันแปร (Margin) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่ผลการดําเนินงานในส่วนของโรงไฟฟ้า IPP ลดลง 167 ล้านบาท ผลจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ได้รับค่าเชื้อเพลิงส่วนต่างลดลง (Energy Margin) ลดลง เนื่องจากในไตรมาสที่ 1/68 รายได้ค่า ถ่านหินที่สามารถเรียกเก็บจาก กฟผ. ต่ำกว่าต้นทุนถ่านหินของบริษัทฯ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/67
นอกจากนี้ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 1/67 กําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 3 ล้านบาท จากค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้เกิดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการบันทึกปรับมูลค่าลูกหนี้ตามสัญญาเช่าทางการเงินของโรงไฟฟ้าศรีราชาและโรงไฟฟ้าโกลว์ไอพีพี
ดีกว่าคาด! อยู่ระหว่างทบทวน
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี มีมุมมอง slightly positive ต่อ GPSC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 ที่ 1,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อนหน้า
ด้าน กำไรปกติ หลังถอด FX loss รวม 57 ล้านบาทออกจะอยู่ที่ 1,197 ล้านบาท สูงกว่าฝ่ายวิเคราะห์หรือตลาดคาด 11% และ 17% ตามลำดับ ดีกว่าคาดจากรายได้สูงกว่าคาด 4% และภาษีต่ำกว่าคาด 73% จากผลของ deferred tax asset ที่เพิ่มขึ้น คำแนะนำปัจจุบันอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ


