posttoday

TIPAK ยื่นไฟลิ่ง เสนอขายไอพีโอ 143.68 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้า SET

30 เมษายน 2568

“อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์” หรือ TIPAK ยื่นแบบไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. เสนอขายไอพีโอ 143.68 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้า SET ชูจุดเด่นผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์นวัตกรรมเพิ่มมูลค่า

นางสาวนลิน วิริยะเสถียร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า บริษัท อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPAK ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 

ปัจจุบัน บมจ.อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ มีทุนจดทะเบียน 552,000,000 บาท แบ่งเป็น หุ้นสามัญจำนวน 408,316,730 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.0 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 408.32 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 143,683,270 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 26.03% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ 

โดยมีวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการระดมทุนไป ลงทุนปรับปรุงและพัฒนาเครื่องจักรอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตในอนาคต ส่วนที่เหลือใช้ชำระคืนเงินกู้ที่มีกับสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท   

นายวีรชัย มั่นสินธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPAK เปิดเผยว่า บริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำการพัฒนา ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากกระดาษคราฟท์ (Kraft paper) ในประเทศไทย ที่มีคุณภาพได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลสูงสุด โดยให้บริการลูกค้าในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำและโรงงานต่างๆ ทั่วประเทศ ภายใต้ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to order) 

ทั้งนี้ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์มากว่า 50 ปี วางวิสัยทัศน์ “Solutions Unfold ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า” ก้าวสู่ผู้นำในการให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจรของประเทศไทยที่ลูกค้าชั้นนำให้ความเชื่อมั่นมาอย่างยาวนาน ตอบโจทย์เรื่องบรรจุภัณฑ์ด้วยความคิดสร้างสรรค์ มุ่งพัฒนานวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่า (High Value) และสร้างความแตกต่างด้วยเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ เพื่อส่งมอบโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ตรงจุดสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านและสนับสนุนความสำเร็จทางธุรกิจให้กับลูกค้าอย่างครบวงจร
 
บริษัทเป็นผู้พัฒนา ผลิตแผ่นกระดาษลูกฟูกและกล่องกระดาษลูกฟูกที่ใช้กระดาษคราฟท์หลากหลายเกรดสำหรับทำผิวกล่อง (Kraft Liner Board) และทำลอนลูกฟูก (Corrugating Medium) โดยดำเนินธุรกิจแบบ Business-to-Business (B2B) มีช่องทางจำหน่ายแบบขายตรง (Direct Sales) ผ่านพนักงานฝ่ายขายเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ 

โดยมีสินค้าหลักแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 

1) แผ่นกระดาษลูกฟูก (Corrugated Sheet Board) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นด้วยกระดาษคราฟท์ แล้วนำมาประกบกันด้วยกาวลักษณะพิเศษ โดยแผ่นลูกฟูกที่บริษัทผลิตมีดังนี้ 

  • ชนิดแผ่นกระดาษลูกฟูก เป็นกระดาษลูกฟูก 3 ชั้นที่มีความแข็งแรงเหมาะกับการใช้บรรจุพัสดุทั่วไป หรือกระดาษลูกฟูก 5 ชั้นเป็นชนิดที่มีความแข็งแรงสูงสามารถรับน้ำหนักบรรจุสินค้าขนาดใหญ่ได้ 
  • ชนิดของลอนลูกฟูก มีหลากหลายขนาด อาทิ ลอน E ความสูง 1.0-1.8 มิลลิเมตร จำนวนลอน 290-320 เมตร เป็นขนาดลอนเล็กที่สุดและเป็นที่นิยมใช้ในการพิมพ์มากที่สุด, ลอน C ความสูงของลอน 3.2 – 3.9 มิลลิเมตร จำนวนลอน 120 – 145 เมตร เป็นขนาดลอนกลางมีความแข็งแรงทนทานเป็นลอนที่ได้รับการนิยมมาก ฯลฯ

2) กล่องกระดาษลูกฟูก (Corrugated Box) มีคุณสมบัติโครงสร้างที่แข็งแกร่งและกันกระแทก จากการพัฒนา ผลิตขนาดและรูปลักษณ์ที่เหมาะกับการขนส่งแทบทุกประเภท และได้พัฒนาให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ของลูกค้า ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น

อีกทั้งมีการพิมพ์โลโก้ รายละเอียดของสินค้าลงบนตัวกล่องด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ขั้นสูงที่มีความสวยงาม ช่วยส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ เสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีบทบาทสำคัญต่อการทำธุรกิจของอุตสาหกรรมทุกประเภท เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อี-คอมเมิร์ซ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จึงเป็นที่นิยมใช้มากที่สุด

โดยบริษัทมีกล่องกระดาษลูกฟูกหลากหลาย อาทิ กล่องฝาชน (Regular Slotted Container – RSC), กล่องฝาเกย (Overlap Slotted Container – OSC), กล่องฝาครอบ (Full Telescope), กล่องไดคัท (Die – cut Box), ไส้กั้น (Partition) เป็นต้น  

นายทิฆัมพร มั่นสินธร ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPAK กล่าวว่า บริษัทกำหนดพันธกิจเป็นผู้ให้บริการบรรจุภัณฑ์กระดาษแบบครบวงจร (Paper-Packaging Service Solutions) โดยให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ราคา คุณภาพ และบริการ ควบคู่ไปกับการพัฒนาโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า 

โดยบริษัทมีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพิ่มศักยภาพให้ครอบคลุมลูกค้าได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น การเพิ่มคุณสมบัติป้องกันความชื้น เพิ่มความแข็งแรง เป็นต้น และตอบสนองต่อแนวโน้มตลาดและเทคโนโลยีใหม่ รวมทั้งการเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดรับกับเทรนด์การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนของผู้บริโภคและผู้ประกอบการที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ตลอดจนให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า  

ทั้งนี้ บริษัทมีโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษ 2 แห่ง ได้แก่ โรงงาน จ.สมุทรสาคร และโรงงาน จ.ปราจีนบุรี มีกำลังการผลิตแผ่นกระดาษลูกฟูก 146,227 ตัน/ปี และกำลังการผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก 154.15 ล้านกล่อง/ปี ซึ่งเป็นฐานการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มีความแม่นยำและคุณภาพการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ทั้งยังมีการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ส่งผลให้บริษัทเป็นผู้ผลิตแผ่นและกล่องกระดาษลูกฟูกที่มียอดขายเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย 

ในปี 2567 มียอดขายจากการผลิตและจำหน่ายสินค้าทั้ง 2 ประเภทรวม 2,728.20 ล้านบาท ซึ่งมาจากลูกค้าภายในประเทศ 100% และมีคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง (Active Customers) มากกว่า 690 ราย อยู่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลายและมีอัตราการเติบโตสูง อาทิ อุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์, อาหารและเครื่องดื่ม, อุตสาหกรรมยาและเครื่องมือแพทย์, อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น ฯลฯ