เซอร์ไพรส์ลดดอกเบี้ย! หุ้นไทยปิดพุ่ง 24.75 จุด แตะระดับ 1,231.14 จุด

ความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(26 กุมภาพันธ์ 2568) อยู่ที่ 1,231.14 จุด เพิ่มขึ้น 24.75 จุด คิดเป็น +2.05% มูลค่าการซื้อขาย 62,652.67 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,233.35 จุด และลดลงต่ำสุด 1,208.91 จุด 

ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นรับข่าวที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 6:1 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.25% เป็น 2% โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับขึ้นเด่นคือ กลุ่มอิเล็กฯ DELTA, กลุ่มค้าปลีก CPALL, CPAXT, HMPRO และ กลุ่มสื่อสาร ADVANC, TRUE, INTUCH

ส่วนกลุ่มที่ปรับตัวลดลงคือ กลุ่มน้ำมัน PTTEP, TOP, PTTGC และ กลุ่มธนาคาร KBANK, BBL, KTB

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ กลุ่มไฟแนนซ์ MTC, SAWAD, TIDLOR บวกแรงยกกลุ่มรับข่าวแบงก์ชาติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 2% ช่วยลดต้นทุนเงินทุนให้กับผู้ประกอบการในกลุ่มไฟแนนซ์ในฝั่งรายได้(สินเชื่อ)ส่วนใหญ่เป็น Fixed Rate การลดดอกเบี้ย NIM และ กำไรของกลุ่มไฟแนนซ์เพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเลือก MTC เป็น Top pick ให้เป้าหมาย 58 บาท 

กลุ่มอสังหาฯ AP, SPALI, SIRI, SPALI บวกเด่น ประกาศงบไตรมาส 4/67 ดีกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์และตลาดคาดไว้ มีกำไรสุทธิ 1.99 พันล้านบาท พร้อมประกาศจ่ายปันผลรอบครึ่งหลังปี67 ที่ 0.85 บาท/หุ้น ให้ dividend yield 5.3%

ผสานกับข่าวดี กนง.ลดดอกเบี้ยเป็นจิตวิทยาบวกกับหุ้นอสังหาฯ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของฝ่ายวิเคราะห์แนะนำซื้อ AP เป้า 10.40 บาท, SC เป้า 3 บาท และ SIRI เป้า 2.34 บาท โดยเลือก SIRI เป็น Top Pick ของกลุ่ม

ขณะที่ หุ้น CPALL, CPAXT, HMPRO เช้าวันนี้นักวิเคราะห์ออกบทวิเคราะห์แนะนำซื้อ CPALL พร้อมปรับเพิ่มเป้าหมายเป็น 80 บาท จากเดิม 70 บาท สะท้อนงบไตรมาส 4/67 แข็งแกร่งกำไรสุทธิทำ All time high , SSSG เพิ่มขึ้น 4% เด่นสุดของกลุ่ม, GPM ปรับขึ้นในทุก Segment

ผสานกับบ่ายวันนี้มีข่าวดีสำนักข่าว Bloomberg รายงานแผนซื้อ Seven & i ของกลุ่ม Itochu เสี่ยงไม่สำเร็จ เนื่องจากตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นผู้บริหาร Seven & i นักวิเคราะห์ของฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นข่าวดีเพราะปัจจัยนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเพิ่มทุนและ earning dilution ให้กับกลุ่ม CP

หุ้น BBL, KBANK, KTB ราคาลดลงได้รับผลกระทบจากข่าว กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% กดดัน NIM โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ BBL, KBANK, KTB ที่มีกลุ่มลูกหนี้เป็นดอกเบี้ยลอยตัว และมีฐานเงินฝากเป็นกระแสรายวัน และออมทรัพย์(CASA)ในสัดส่วนสูง แต่จะเป็นบวกกับ KKP และ TISCO ซึ่งเน้นปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะเป็นแบบคงที่ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองผลกระทบค่อนข้างจำกัด เนื่องจากผลประชุมของ กนง.เป็นไปตามที่คาดไว้ และนักวิเคราะห์ใส่ผลกระทบจากการลดดอกเบี้ยไว้ในประมาณการณ์อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม PTTEP, TOP, PTTGC มีจิตวิทยาลบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงแรง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลงต่ำกว่าระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นแนวรับจิตวิทยา

นอกจากนี้ TOP และ PTTGC ยังมีปัจจัยลบจากการปรับน้ำหนักของ MSCI Rebalance ซึ่งจะมีผลบังคับโดยใช้ราคาปิด ณ วันที่ 28 ก.พ.68 โดย TOP และ PTTGC ถูกลดน้ำหนักจาก MSCI Global Standard เป็น MSCI Global Small Cap