DELTA ร่วง 4.07% กดดัชนี 5 จุด เซ่น ตลท.จ่อจำกัดน้ำหนักหุ้นรายตัวไม่เกิน 10%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA วันนี้ (5 ก.พ.) ปิดช่วงเช้า เวลา 12.30 น. ลดลง 4.07% หรือลดลง 5.00 บาท มาอยู่ที่ 118.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,125.36 ล้านบาท หลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อยู่ในช่วงพิจารณาปรับน้ำหนักให้หุ้นแต่ละตัวมีน้ำหนักต่อดัชนีไม่เกิน 10% (Capped Weight) โดยมีการ Rebalance ทุกๆ ไตรมาส ใน SET50 SET100 SET50FF SET100FF โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นช่วงวันที่ 4-17 ก.พ.2568

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ปัจจุบัน SET50 มี MARKET CAP อยู่ที่ 11.7 ล้านล้านบาท และ SET100 อยู่ที่ 13.1 ล้านล้านบาท โดยหุ้นที่มี Weight เกิน 10% ใน SET100, SET50 แค่ DELTA ตัวเดียวที่มี Market Cap 1.56 ล้านล้านบาท มีสัดส่วนใน SET50 13% และสัดส่วนใน SET100 12% มี Capped Weight ใน SET50 เกิน 3% และใน SET100 เกิน 2% ส่วนใน SET50FF และ SET100FF ไม่มีหุ้นตัวไหน Weight เกิน 10% 

ดังนั้นหากตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการนำวิธีนี้มาใช้ DELTA จะมีน้ำหนักต่อตลาดน้อยลง และหุ้นตัวอื่นๆ จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ส่วนวันนี้ส่งผลให้หุ้น DELTA และ SET50FUTURES ผันผวน โดย DELTA ทุกๆ 1 บาทที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อ SET 1 จุด และ SET50 1 จุด

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า วิธีการ Cap Weight จะเป็นหนึ่งในแนวทางที่สามารถช่วยลดความผันผวนของดัชนีจากหุ้น Market Cap ขนาดใหญ่ตัวใดตัวหนึ่งได้ แต่หากพิจารณา SET50 คาดว่าจะกระทบต่อหุ้น DELTA เพราะ Market Cap ปัจจุบันมีสัดส่วนต่อดัชนีเท่ากับ 13% หากใช้วิธี Cap Weight ที่ 10% สัดส่วน DELTA จะถูกจำกัดเพียง 10% เท่านั้น หากบังคับใช้ เชื่อว่าทำให้ Passive Fund ลดน้ำหนัก DELTA ลงมาเท่ากับระดับ Cap Weight คาดเม็ดเงินไหลออกที่ 1.48 พันล้านบาท

ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์จะเป็นหุ้นทุกบริษัทในดัชนี SET50 Index จากการถูกกระจายน้ำหนักเพิ่มขึ้น โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์สูงสุด คือ หุ้นที่มี Market Cap ขนาดใหญ่ที่สัดส่วนต่อ SET50 ต่ำกว่า 10% โดย 5 อันดับแรก คือ PTT, ADVANC, AOT, GULF, PTTEP คาดเม็ดเงินไหลเข้าช่วง 64-114 ล้านบาท