เช็กงบแบงก์ Q2/67-ครึ่งปีแรก โตสวนเศรษฐกิจซบเซา KBANK แชมป์ทำกำไรมากสุด
เปิดงบแบงก์ Q2/67 กำไรสุทธิ 62,911 ล้านบาท โต 2.1% หนุนครึ่งแรกปี 67 ซดกำไรสุทธิ 126,422 ล้านบาท โต 3.7% ท่ามกลางเศรษฐกิจซบเซา พบ KBANK แชมป์ “กำไรสุทธิมากสุด” ทั้ง Q2/67-ครึ่งปีแรก ส่วน CIMBT ครอง “กำไรสุทธิเติบโตสูงสุด” Q2/67 ขณะที่ TTB คว้า “กำไรสุทธิเติบโตสูงสุด” ครึ่งปีแรก
บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปิดงบไปเรียบร้อยสำหรับงวดไตรมาส 2/2567 ตั้งแต่สิ้นเดือน มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา และทยอยประกาศงบกันแล้ว เริ่มจากผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประกาศครบทุกธนาคารแล้ว ในช่วงวันที่ 12-19 ก.ค.2567
ทั้งนี้ “โพสต์ทูเดย์” ได้รวบรวมผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ของไทย 10 แห่ง ได้แก่ BAY, BBL, CIMBT, KBANK, KKP, KTB, LHFG, SCB, TISCO และ TTB มาให้ดูกันว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์โดยรวมมีกำไรสุทธิเท่าไร ธนาคารไหนกำไรสุทธิมากที่สุด-น้อยที่สุด และธนาคารไหนกำไรสุทธิเติบโตสูงที่สุด-ต่ำที่สุด ท่ามกลางเศรษฐกิจซบเซา ซึ่งสะท้อนได้จากหลายสำนักได้มีการปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี)
อาทิ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยทั้งปี 2567 จากขยายตัว 2.2-3.2 % เป็นขยายตัว 2-3% และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับลดกรอบประมาณการเศรษฐกิจของไทยปี 2567 โดยจากขยายตัว 2.8-3.3% เป็น 2.2-2.7%
จากการรวบรวมข้อมูลดังกล่าว พบว่า งวดไตรมาส 2/2567 ธนาคารพาณิชย์ของไทย มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 62,911 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.1% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 61,636 ล้านบาท แต่ลดลง 0.9% จากไตรมาสก่อน ที่มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 63,511 ล้านบาท
โดยในเชิงมูลค่า พบว่า งวดไตรมาส 2/2567 ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK มีกำไรสุทธิมากที่สุด อยู่ที่ 12,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.1% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 6.2% จากไตรมาสก่อน ส่วน บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG มีกำไรสุทธิน้อยที่สุด อยู่ที่ 492 ล้านบาท ลดลง 7.6% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 23.1% จากไตรมาสก่อน
ขณะที่ ในเชิงการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) พบว่า งวดไตรมาส 2/2567 ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT มีกำไรสุทธิเติบโตสูงที่สุด หรือเพิ่มขึ้น 23.9% ส่วน ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP มีกำไรสุทธิเติบโตต่ำที่สุด หรือลดลง 45.4%
ส่วนในเชิงการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) พบว่า งวดไตรมาส 2/2567 LHFG มีกำไรสุทธิเติบโตสูงที่สุด หรือเพิ่มขึ้น 23.1% ส่วน KKP มีกำไรสุทธิเติบโตต่ำที่สุด หรือลดลง 49%
ขณะเดียวกัน งวดครึ่งแรกปี 2567 ธนาคารพาณิชย์ มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 126,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% จากงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 121,918 ล้านบาท
ในเชิงมูลค่า พบว่า งวดครึ่งแรกปี 2567 KBANK มีกำไรสุทธิมากที่สุด อยู่ที่ 26,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.3% จากงวดเดียวกันปีก่อน ส่วน LHFG มีกำไรสุทธิน้อยที่สุด อยู่ที่ 891 ล้านบาท ลดลง 25.9% จากงวดเดียวกันปีก่อน
ในเชิงการเติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน (YoY) พบว่า งวดครึ่งแรกปี 2567 ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB มีกำไรสุทธิเติบโตสูงที่สุด หรือเพิ่มขึ้น 20.6% ส่วน KKP มีกำไรสุทธิเติบโตต่ำที่สุด หรือลดลง 34.9%
ด้านอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) ณ สิ้น เดือน มิ.ย.2567 พบว่า มีธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง NPLs เพิ่มขึ้น ได้แก่ BAY อยู่ที่ 3.05% เพิ่มขึ้นจาก 2.69% ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567, BBL อยู่ที่ 3.20% เพิ่มขึ้นจาก 3.00% ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567, KKP อยู่ที่ 4.00% เพิ่มขึ้นจาก 3.80% ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567, LHFG อยู่ที่ 3.00% เพิ่มขึ้นจาก 2.76% ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567, TISCO อยู่ที่ 2.44% เพิ่มขึ้นจาก 2.27% ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567 และ TTB อยู่ที่ 2.64% เพิ่มขึ้นจาก 2.56% ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567
ขณะที่ธนาคารพาณิชย์อีก 4 แห่ง NPLs ลดลง ได้แก่ CIMBT อยู่ที่ 2.90% ลดลงจาก 3.40% ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567, KBANK อยู่ที่ 3.18% ลดลงจาก 3.19% ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567, KTB อยู่ที่ 3.12% ลดลงจาก 3.14% ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567 และ SCB อยู่ที่ 3.34% ลดลงจาก 3.52% ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567
สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ทั้ง 10 แห่ง อยู่ในช่วง 0.125-0.45% ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี MRR (Minimum Retail Rate) อยู่ในช่วง 7.05-9.25%