เปิดรายชื่อ 6 หุ้น ถูก Force Sell หนัก ทุบราคาหุ้นดิ่ง-มาร์เก็ตแคปวูบ

Force Sell หรือการถูกบังคับขาย เป็นเพียงปลายเหตุ ส่วนต้นเหตุเกิดจากการนำหุ้นไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อกู้ยืมเงินจากโบรกเกอร์ เมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลง จนหลักทรัพย์ค้ำประกันที่วางไว้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และผู้ที่นำหุ้นไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันไม่สามารถวางหลักประกันเพิ่มได้ จึงทำให้ถูก Force Sell ในที่สุด 

Force Sell ไม่ใช่เรื่องใหม่ อย่างในปี 2566 ก็มีหุ้นที่ถูกบังคับขาย อาทิ หุ้น บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ที่ “แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ออกมายอมรับว่าหุ้นถูก Force Sell โดยในปีนี้กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง     

ทั้งนี้ “โพสต์ทูเดย์” ได้มีการรวบรวมหุ้นที่ถูก Force Sell ตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบัน (5 ก.ค.2567) อิงจากที่ผู้ถือหุ้น และผู้บริหารออกมายอมรับ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งข้อมูล พบว่า มี 6 บริษัท ถูก Force Sell ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) หายไปอย่างมาก ประกอบด้วย

บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ที่ “วิรัช มรกตกาล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออกมายอมรับว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SABUY ถูก Force Sell เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SABUY มีพอร์ตลงทุนด้วยบัญชีมาร์จิ้น จึงเกิดผลกระทบต่อราคาหุ้นของ SABUY ปรับลงแรงต่อเนื่อง 

โดยราคาหุ้น SABUY ปัจจุบัน (5 ก.ค.) อยู่ที่ 0.85 บาท ปรับลดลง 83.17% จากราคาปิดปี 2566 อยู่ที่ 5.05 บาท ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปล่าสุด (5 ก.ค.) เหลือเพียง 1,501.75 ล้านบาท ลดลง 7,419.06 ล้านบาท จากสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 8,920.81 ล้านบาท 

บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ที่ ตลท. ออกมาให้ข้อมูลว่า NRF ถูก Force Sell ถึง 51% ทำให้ราคาหุ้น NRF ปัจจุบัน (5 ก.ค.) อยู่ที่ 2.00 บาท ปรับลดลง 61.90% จากราคาปิดปี 2566 อยู่ที่ 5.25 บาท ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปล่าสุด (5 ก.ค.) เหลือเพียง 2,835.31 ล้านบาท ลดลง 4,607.39 ล้านบาท จากสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 7,442.70 ล้านบาท

เช่นเดียวกัน บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ที่ “คณิสสร์ ศรีวชิระประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ออกมาชี้แจงว่าในช่วงตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.2567 บริษัทหลักทรัพย์มีการ Call Margin แต่ไม่สามารถวางเงินสดหรือหลักประกันเพิ่มเติมได้ จึงโดน Force Sell หลายราคา และหลายช่วงเวลา ประกอบกับ ตลท. ออกมาให้ข้อมูลว่า NEX ถูก Force Sell ถึง 24%

โดยราคาหุ้น NEX ปัจจุบัน (5 ก.ค.) อยู่ที่ 1.74 บาท ปรับลดลง 82.60% จากราคาปิดปี 2566 อยู่ที่ 10.00 บาท ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปล่าสุด (5 ก.ค.) เหลือเพียง 3,517.98 ล้านบาท ลดลง 16,700.29 ล้านบาท จากสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 20,218.27 ล้านบาท

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ที่ “สมโภชน์ อาหุนัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ออกแถลงยอมรับว่าถูก Force Sell แต่ยืนยันว่าการถูก Force Sell จบแล้ว ทำให้ราคาหุ้น EA ปัจจุบัน (5 ก.ค.) อยู่ที่ 13.70 บาท ปรับลดลง 69.04% จากราคาปิดปี 2566 อยู่ที่ 44.25 บาท ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปล่าสุด (5 ก.ค.) เหลือเพียง 51,101.00 ล้านบาท ลดลง 113,951.50 ล้านบาท จากสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 165,052.50 ล้านบาท

บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AS และ บริษัท สบาย คอนเน็กซ์ เทค จำกัด (มหาชน) หรือ SBNEXT ที่ SABUY แจ้งต่อ ตลท. ว่า ได้มีการนำหุ้น SBNEXT และ AS ไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในบัญชีเงินกู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์(Margin Loan) กับบริษัทหลักทรัพย์ 

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมาเกิดความผันผวนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งส่งผลราคาหุ้นของ SBNEXT และ AS ทำให้ SABUY ถูกเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin Call) ทั้งนี้ SABUY ไม่ได้มีการเพิ่มเติมหลักประกันใดๆ ส่งผลให้ราคาหลักทรัพย์ที่ค้ำประกันมีอัตราส่วนเท่ากับหรือต่ำกว่าระดับอัตราหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ (Maintenance Margin Rate) SABUY จึงถูก Force Sell หุ้น SBNEXT และ AS เพื่อเป็นการลดภาระหนี้ของ SABUY กับทางบริษัทหลักทรัพย์ 

ดังนั้น ทำให้ราคาหุ้น AS ปัจจุบัน (5 ก.ค.) อยู่ที่ 4.66 บาท ปรับลดลง 38.68% จากราคาปิดปี 2566 อยู่ที่ 7.60 บาท ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปล่าสุด (5 ก.ค.) เหลือเพียง 2,380.16 ล้านบาท ลดลง 1,472.15 ล้านบาท จากสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 3,852.31 ล้านบาท 

ส่วนราคาหุ้น SBNEXT ปัจจุบัน (5 ก.ค.) อยู่ที่ 0.38 บาท ปรับลดลง 69.84% จากราคาปิดปี 2566 อยู่ที่ 1.26 บาท ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปล่าสุด (5 ก.ค.) เหลือเพียง 229.66 ล้านบาท ลดลง 531.83 ล้านบาท จากสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 761.49 ล้านบาท

จากข้อมูลดังกล่าว จะพบว่า ราคาหุ้น SABUY ปรับตัวลดลงมากที่สุดถึง 83.17% เหลือ 0.85 บาท ขณะที่มาร์เก็ตแคปของ EA ลดลงมากที่สุดถึง 113,951.50 ล้านบาท เหลือเพียง 51,101.00 ล้านบาท

“ธนัช จุวิวัฒน์” แจ้งขายหุ้น เหลือถือ 4.28%

อย่างไรก็ตาม หุ้นที่ถูก Force Sell ดังกล่าว ไม่รวม บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG เนื่องจากวานนี้ (8 ก.ค.) “ธนัช จุวิวัฒน์” ประธานกรรมการบริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ YGG แจ้งขายหุ้นเมื่อวันที่ 2-4 ก.ค.2567 จำนวน 221,879,026 หุ้น คิดเป็น 36.86% ทำให้เหลือถือหุ้น 4.28% จากเดิมมีสัดส่วนถือหุ้น 41.14% แต่ยังไม่แจ้งว่าถูก Force Sell และก่อนหน้านี้ YGG แจ้งว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นถูก Force Sell ขณะที่นักวิเคราะห์ ระบุว่าลักษณะราคาหุ้น YGG ที่ปรับตัวลงมาน่าจะเป็นการถูก Force Sell

Force Sell ผลของการกระทำ คนรับ “กรรม” ไม่ใช่แค่ผู้ถือหุ้นหรือผู้บริหารที่นำหุ้นไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่เคราะห์กรรมยังตกไปถึงนักลงทุนรายย่อยที่ไม่ได้อยู่ในเกมนี้ด้วย