กบข. แนะจัดพอร์ตลงทุนสินทรัพย์ ฝ่ามังกรไฟในปีนี้
กบข. แนะเลือกลงทุนในสินทรัพย์ให้เหมาะสม ฝ่าปีมังกรไฟ แม้ดัชนีตลาดหุ้นไทยหลุด 1,300 จุด แต่ยังมีหุ้นที่มีความแข็งแรง และให้ผลตอบแทนที่ดี
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยในงานสัมมนา หุ้นไทย 2024 with the Dragon Fire “Discover new opportunities” ที่จัดขึ้นโดย ฐานเศรษฐกิจ ในหัวข้อ “Discover new opportunities ทำลายกำแพงการลงทุน” ว่า กบข.เป็นหนึ่งในกองทุนสำคัญ มีหน้าที่หลักในการที่จะทำให้เกิดความมั่นใจว่าสมาชิกที่เป็นข้าราชการ เมื่อเกษียณอายุไปแล้วมีเงินเพียงพอหลังเกษียณอายุ ซึ่งปัจจุบัน กบข. มีสมาชิกอยู่ประมาณ 1.2 ล้านคน และมีเงินที่บริหารอยู่ 1.3 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ กบข.ตั้งเป้าหมายการลงทุนระยะยาวไว้ที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 10 ปี ไม่น้อยกว่า 2% เช่น เงินเฟ้อเฉลี่ย 10 ปี อยู่ที่ 2% ผลตอบแทนระยะยาวของ กบข. จะอยู่ที่ 4% โดย กบข.มีหน้าที่ในการนำเงินของสมาชิกมาจัดสรร และแบ่งนำไปลงทุนเพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่เหมาะสม
ปัจจุบันสัดส่วนพอร์ตการลงบทุนของ กบข. แบ่งเป็น ตราสารหนี้ประมาณเกือบ 60% ส่วนที่เหลือ เป็นสินทรัพย์ทางเลือก และตลาดทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับความยากในปีนี้ มองว่าสังคมผู้สูงวัยมีมากขึ้น สิ่งที่ กบข. ศึกษาเพิ่มเติมในปีนี้ คือ เงินหลังเกษียณอายุที่แต่ละคนจะต้องมีมากขึ้น จากเดิมที่จะต้องมีประมาณ 4-5 ล้านบาทต่อคน และสมาชิกที่มีอยู่ประมาณ 1.2 ล้านคน ที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
“กบข. ไม่ได้เป็นนักลงทุนซื้อเช้าขายเย็น ไม่ใช้นักลงบทุนที่ซื้อวันนี้ ขายในสัปดาห์หน้า แต่เราเป็นนักลงทุนที่มีการแบ่งการลงทุนโดยอาศัยผลตอบแทนที่เป็นแบบระยะยาว” นายทรงพล กล่าว
นายทรงพล กล่าวว่า เมื่อดูดัชนีหุ้นไทยย้อนหลัง เคยเห็นทั้ง 1,700 จุด 1,800 จุด และ 400 จุด มาแล้ว และล่าสุดวันนี้ (17 มิ.ย.) ต่ำกว่า 1,300 จุด ซึ่งจริงๆ แล้ววงจรของตลาดหุ้นไทย เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่นักลงทุนมักจะใช้ในการติดตาม โดยผลตอบแทนตลาดหุ้นไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-13 มิ.ย.2567 (YTD) ยังคง Underperform เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นอื่น
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยมีการตีมูลค่าดีขึ้นเรื่อยๆ หรือซื้อหุ้นไทยตอนนี้ ผลตอบแทนโดยมีแนวโน้มจะดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นอื่น ขณะที่ P/E ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 1.5 เท่า มีการปรับตัวลงมาพอสมควร เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นอื่นราคาดูเหมาะสมขึ้น และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้น
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของ กบข. จะเป็นระยะยาว และมีการจัดพอร์ตการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ โดย 1.การจัดทรัพย์สินของตัวเอง จะต้องรู้ว่าเราเป็นนักลงทุนประเภทไหน ซึ่ง กบข. จัดพอร์ตการลงทุนที่มีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยง 2.หวังผลตอบแทนจากอะไรบ้าง เช่น ราคาหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไป หรือผลตอบแทนจากอัตราเงินปันผล เป็นต้น ซึ่ง กบข. มุ่งหวังผลตอบแทนในระยะกลางถึงระยะยาว และ 3.ปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงสิ้นปีนี้ โดย กบข.จะดำเนินการในลักษณะที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ยังสามารถได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม
“เชื่อว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่มีการแย่งทรัพยากร หรือนักลงทุนเลือกแล้วว่าจะนำเงินที่มีไปทำอะไร เช่น 1.ฝากเงินสกุลดอลลาร์ 2.ลงทุนทองคำ สินค้าโภคภัณฑ์ ทองแดง น้ำมัน 3.ลงทุนหุ้นกู้ และ 4.ลงทุนในตลาดหุ้น” นายทรงพล กล่าว
โดยคาดว่า Earning Growth ตลาดหุ้นไทยในปีนี้ จะอยู่ที่อัตราเลข 2 หลัก มีโอกาสในการปรับตัวขึ้น และเชื่อว่าปีนี้การดาวน์เกรดหุ้นไทยจบแล้ว เพราะฉะนั้นหุ้นไทยจะเริ่มปรับฐานที่ดีขึ้น และปัจจุบันหุ้นไทยไม่ได้แพง เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่น ตอนนี้สินทรัพย์ที่อยู่ในตลาดทุนเริ่มดีขึ้น
นายทรงพล กล่าาวว่า การฝ่ามังกรไฟในปีนี้ไม่ต้องใส่เสื้อเกาะ แต่ต้องมีตาที่สว่าง และมีสติพอที่จะเลือกลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ให้เหมาะสม แม้ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยลดลง แต่ตลาดหุ้นไทยยังมีหุ้นที่มีความแข็งแรง และให้ผลตอบแทนที่ดี


