posttoday

ความหวังดอกเบี้ยขาลง! 10หุ้นไทยรีบาวน์โหนกระแส

06 มิถุนายน 2567

ถึงเวลาวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง! โบรกส่องเงินเฟ้อหลายประเทศเริ่มชะลอตัวลง คาดหวังธนาคารกลางต่างๆส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น พร้อมเลือก 10 หุ้น กลุ่ม TECH - ได้ประโยชน์บาทแข็ง - กลุ่มรับวัฎจักรดอกเบี้ยขาลงรีบาวด์รับกระแส

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของหลายๆประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ชะลอตัวลงด้วยอัตราเร่งที่ค่อนข้างชันในช่วง 8-9 เดือน และค่อยๆ ทยอยปรับตัวลดลงเข้าใกล้กรอบเป้าหมาย ถือเป็นปัจจัยสำคัญหนุนให้ธนาคารกลางต่างๆ มีแนวโน้มดำเนิน
นโยบายการเงินผ่อนคลายมากขึ้น 

     ล่าสุด วานนี้ธนาคารกลางแคนาดา (BOC) ประกาศปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกรอบ 4 ปีจากระดับ 5.0% เหลือ 4.75% หลังเงินเฟ้อชะลอตัว (เดือน เม.ย. +2.7%YOY)

     ขณะที่การประชุมนโยบายการเงินยุโรปในวันนี้ (6 มิ.ย. 67) เวลา 19.15 น. CONSENSUS คาดว่าจะเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 4.25% สอดคล้องกับการส่งสัญญาณจากสมาชิกคณะกรรมการ ECB หลายรายในช่วงที่ผ่านมา หากข้อมูลค่าจ้างและเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ในปัจจุบัน ส่วนธนาคารกลางอื่นๆ อาจจะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมรอบเดือน มิ.ย.67 จุดเริ่มต้องการลดดอกเบี้ยของ ECB แซงหน้า FED จะทำให้อัตราดอกเบี้ยที่จริงของสหรัฐฯสูงกว่ายุโรป อาจมีผลต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

     อย่างไรก็ตาม หาก FED เริ่มปรับลดดอกเบี้ยในช่วงเดือน ก.ย. หรือ พ.ย.67 เชื่อว่าจะลดแรงกดดันจาก DOLLAR แข็งค่าขึ้นได้ ซึ่งน่าจะหนุนให้เงินบาทชะลอการอ่อนค่าและทำให้การตรึงดอกเบี้ยไทยไว้ที่ 2.5% อาจมีข้อจำกัดน้อยลง นอกจากนี้ทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยไทยอาจมีโอกาสมากขึ้น หากมีมาตรการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธานบอร์ด ธปท. คนใหม่ แทนคุณปรเมธีที่จะหมดวาระ ก.ย. 67

3 กลุ่มหุ้นรีบาวน์รับกระแสดอกเบี้ยขาลง

     ด้วยความคาดหวังของตลาดฯว่าดอกเบี้ยทั่วโลกเริ่มเข้าสู่ทิศทางขาลงอย่างแท้จริง ทั้ง ECB BOE และ FED ซึ่งสอดคล้องกับจึงทำให้วานนี้ BOND YIELD สหรัฐฯปรับตัวลงแรงทุกช่วงอายุ อาทิ ช่วงอายุ 2 ปี –1% อยู่ระดับ 4.72%,5 ปี-1.2% อยู่ระดับ 4.29%, 10 ปี-1.2% อยู่ระดับ 4.28%

     ขณะที่หากพิจารณาในมุมของค่าเงินบาทจะเห็นได้ว่าในภาวะปกติแล้ว ค่าเงินบาทมักจะแข็งค่าในช่วงที่ FED ทยอยลดดอกเบี้ย สังเกตได้จากช่วงปลายปี 2018 ถึงปลายปี 2020 FED ลดดอกเบี้ย จาก 2.5% เหลือ 0.25% ค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นจาก 32.5 บาท/เหรียญ เหลือ 30 บาท/เหรียญ เป็นต้น 

     ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ ฝ่ายวิจัยฯคาดการณ์ว่ามีอยู่ 3 กลุ่มที่มักรีบาวน์ประจำ และราคาหุ้นยัง LAGGARD SET อยู่มาก ดังนี้

     1. หุ้น TECH ในไทย(ฟื้นตัวตาม NASDAQ) และเช้านี้ตลาดหุ้นไต้หวัน +2% อาทิ DELTA -18YTD% , KCE -27YTD% , HANA -26YTD%

     2. หุ้นได้ประโยชน์บาทแข็งค่า GULF -10YTD% , BGRIM -12YTD% , GPSC -8YTD%

     3. หุ้นรับวัฎจักรดอกเบี้ยขาลง MTC -2YTD% , SAWAD -2YTD% , TIDLOR -12YTD% , JMT -10YTD%

ข่าวล่าสุด

"ธรรมนัส” เผย 25 ธ.ค.นี้ กล้าธรรมเปิดตัวสส.ทั้งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์