posttoday

BBL งบไตรมาส 1/67 โชว์กำไรสุทธิ 10,524 ล้าน โต 3.9%

18 เมษายน 2567

BBL งบไตรมาส 1/67 กวาดกำไรสุทธิ 10,524 ล้านบาท โต 3.9% จากไตรมาส 1/66 หลังรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง ด้าน NPL อยู่ที่ 3%

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิ 10,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% จากไตรมาสก่อน โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินรับฝากเพิ่มขึ้น ตามการทยอยปรับขึ้นของอตัราดอกเบี้ยเงินรับฝากเมื่อครบกำหนด ส่งผลให้ส่วนต่างอตัราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 3.06% ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากรายได้จากการลงทุน ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากบริการประกันผ่านธนาคารและกองทุนรวมเติบโตดีจากไตรมาสก่อน 

สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง โดยมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 47.1% ทั้งนี้ ธนาคาร
พิจารณาตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 8,582 ล้านบาท ภายใต้หลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า

หากเทียบกับไตรมาส 1/2566 ธนาคารมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3.9% โดยมีรายไดด้อกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากอตัราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สอดคล้องกับภาวะอัตราดอกเบี้ย สุทธิกับต้นทุนเงินรับฝากเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินรับฝาก ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง จากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ตามสภาวะตลาด 

ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดและค่าใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ทั้งนี้ ธนาคารตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน

ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ จำนวน 2,736,427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากสิ้นปีก่อน จากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และสินเชื่อลูกค้ากิจการต่างประเทศ สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมยังคงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ที่ 3.0%

ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารยึดหลักการต้ังสำรองด้วยความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 291.7%

ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567 จำนวน 3,198,332 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปีก่อน และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ 85.6% ขณะที่อตัราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นอัตราส่วนเงินกองทุนช้ันที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนช้ันที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ 19.7% 16.3% และ 15.6% ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอตัราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด