posttoday

วอลุ่มหายกดหุ้นไทยขึ้นยาก เน้น “Buy on dip”

29 มีนาคม 2567

ระวัง! หุ้นนอกหยุดทำการชั่วคราว 59 ประเทศเนื่องในวัน GOOD FRIDAY กดวอลุ่มบางต่อ พร้อมจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้ 3โบรกสแกนหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบ 1,360 - 1,380 จุด จังหวะย่อตั้งรับหุ้นพื้นฐานดีกําไรเติบโต

รอคอยตัวเลขเงินเฟ้อ

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนที่ผ่านมาแข็งแกร่งกว่า คาด นําโดย 4Q23 US GDP (ครั้งที่ 3) ขยายตัว +3.4%q-q ดีกว่าคาดที่ +3.2%q-q ส่วนภาคแรงงานก็สะท้อนความแข็งแกร่งเช่นกันสะท้อนจากจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ 2.1 แสนรายต่ำคาดเล็กน้อยที่ 2.12 แสนราย ส่วนด้านความเชื่อมั่นจาก ม. มิชิแกนรายงานตัวเลขที่ 79.4 จุด ดีกว่าคาดที่ 76.5 และคาดเงินเฟ้อกรอบ 1 ปี ชะลอตั่ว สู่ 2.9%y-y จากคาดเดิมที่ +3.0%y-y

     ประเด็นสําคัญของสัปดาห์นี้ แนะจับตาการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้ ซึ่งจะเป็นข้อมูลสําคัญที่ FED ใช้ประเมินการตัดสินใจดําเนินนโยบายในช่วงถัดไป โดยตลาดคาด US PCE เดือน ก.พ. ที่ +2.5%y-y เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก ม.ค. ที่ +2.4%y-y ขณะที่ US Core PCE คาดทรงตัวที่ 2.8%y-y

     ส่วนด้านญี่ปุ่น เช้านี้รายงานตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เดือน มี.ค. ชะลอสู่ +2.4%y-y จากเดือน ก.พ. ที่ +2.5%y-y อาจส่งผลให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงดําเนินนโยบายแบบระมัดระวังท่ามกลางค่าเงินเยนในอ่อนแอมาก

     สําหรับ SET วานนี้อ่อนตัวแรงในช่วงท้ายตลาด ซึ่งมีแรงกดดันส่วนหนึ่งมาจากการปรับพอร์ทของนักลงทุนสถาบันก่อนปิดไตรมาส และเป็นวัน Rollover ของสัญญา Future ที่หมดอายุดังนั้นยังมองจังหวะย่อตั้งรับหุ้นพื้นฐานดี ที่แนวโน้มกําไรเติบโตเด่น

     คาด SET วันนี้ “ลุ้นฟื้นตัว” ในกรอบ 1360-1380 จุด สัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่ง ขณะที่คืนนี้ติดตาม US Core PCE เพื่อกําหนดทิศทางดอกเบี้ย นโยบายสหรัฐฯ ส่วนในประเทศวานนี้ย่อแรงจากการปรับพอร์ท และ Rolloverในช่วงปลายไตรมาสของนักลงทุนสถาบัน ดังนั้นยังแนะเป็นจังหวะสะสมหุ้นแนวโน้ม กําไรแกร่ง 

     โดยวันนี้แนะนํา “AOT” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 74.00 บาท คาดแนวโน้มภาคการท่องเที่ยวไทยปีนี้ยังคงเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยตั้งแต่ต้นปีนักท่องเที่ยวสะสมในช่วง 1 มกราคม - 24 มีนาคม 2024 อยู่ ที่ 8,725,969 คน เพิ่มขึ้น +44%y-y ซึ่งเทียบเคียงระดับ 87% จากนักท่องเที่ยวช่วงปี 2019 (ก่อน COVID) ถือเป็นแรงหนุนเชิงบวกโดยตรงต่อ AOT

ติดตาม PCE สหรัฐฯ

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ร่วง 10 จุด (+0.76%) ปิดที่ระดับ 1,370 จุด เป็นความผันผวนในช่วง ท้ายตลาดคาดเป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนซีรีส์ในตลาด TFEX โดยใช้ราคาปิด 1วันก่อนวันทำการสุดท้ายของแต่ละไตรมาสสำหรับคำนวณราคา

     แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(29 มี.ค.67)ประเมิน SET แกว่งตัว 1,360 - 1,380 จุด ภาวะตลาดได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากคาดการณ์อุปทานน้ำมันตึงตัวหลังโอเปกพลัสมีแนวโน้มลดกำลังการผลิตต่อไป อีกทั้งตัวเลข GDP Q4/66 สหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามคาดว่า Fund flow จะยังคงชะลอตัวเพื่อติดตาม PCE Price Index สหรัฐในวันนี้ซึ่งจะกดดันให้ภาวะตลาดผันผวน

     "กราฟ SET วานนี้ทรุดตัวลงแรงหลุดเส้น EMA 10 วันลงมาเกิดเป็นโมเมนตัมเชิงลบ นอกจากนี้ Volume ซื้อขายที่เบาบางและเครื่องมือ RSI บวก MACD ทิ้งตัวลงเป็นสัญญาณลบจะกดดันต่อทิศทางดัชนีดังนั้นประเมินว่า SET จะอ่อนตัวแนวรับ 1,365 / 1,360 จุด จึงแนะนำซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงอ่อนตัวโดย Cut loss หากหลุด 1,350 จุด"

     หุ้นแนะนำวันนี้ AP (ปิด 10.80 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 14 บาท) ได้ Sentiment บวกคลังเตรียมพิจารณาลดค่าโอน-จดจำนองบ้านจากราคาไม่เกิน 3 เป็น 5 ล้านบาท เป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาฯ โดยเฉพาะ AP ที่มีสัดส่วนบ้านอยู่ในระดับราคาดังกล่าวในสัดส่วนสูง

     GLOBAL (ปิด 16.70 ซื้อ/เป้า 18.50 บาท) กลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้างคาดว่า จะเป็นกลุ่มแรกที่จะได้ประโยชน์หากภาคประกาศเป็นกฏหมายและใช้ร่าง พ.ร.บ. งบฯ ปี 67 ได้ในสัปดาห์หน้าพร้อมเบิกจ่ายงบประมาณได้ตั้งแต่เดือน เม.ย. เป็นต้นไป (GLOBAL มีสัดส่วนลูกค้าเป็นกลุ่มผู้รับเหมา 30% ของรายได้รวม)

ประเด็นสำคัญวันนี้

     (+/-) แบงก์ชาติรายงานภาวะ ศก. ไทย โฟกัสหลักอยู่ที่ดุลบัญชีเดินสะพัด : เพราะตัวเลขดังกล่าวจะบ่งชี้การไหลเข้าหรือออกของเงินลงทุนจากต่างชาติ Consensus คาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยจะพลิกเป็นเกินดุลได้ในเดือน ก.พ. นี้ อย่างไรก็ตามตัวเลขเกินดุลดังกล่าวต่ำเพียง 100 ล้านเหรียญ (ม.ค. ขาดดุล 200 ล้านเหรียญ) ทำให้ปัจจัยนี้จะส่งผลบวกต่อ Sentiment ค่อนข้างจำกัด

     (+/-) คืนนี้ติดตามตัวเลข PCE Price Index ของสหรัฐบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยเฟด : เบื้องต้น Consensus คาด Headline PCE เดือน ก.พ. จะทรงตัวที่ 2.4% ตามเดิม แต่ Core PCE คาดลดลงสู่ระดับ 2.7% จาก 2.8% ในเดือน ม.ค. (หาก PCE ลดลง มากกว่าที่คาดจะเป็นบวกกับตลาดเพราะจะเพิ่มโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย ในทางตรงกันข้ามหาก PCE สูงขึ้นจะทำให้เฟดคงดอกเบี้ยสูงนานเป็นลบกับตลาด)

     (+) คลังเตรียมพิจารณาลดค่าโอน-จดจำนองบ้านเกิน 3 ล้านบาท และเพิ่มเพดานราคาบ้านล้านหลัง : ก. การคลังกำลังพิจารณาลดค่าโอนจากเดิม 2% เหลือ 1% และค่าจดจำนองเดิม 1% เหลือ 0.01% สำหรับบ้านที่มีราคาไม่เกิน 5 ล้าน บาทจากเดิมที่ให้เฉพาะบ้านที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และจะพิจารณาเพิ่มเพดานบ้านล้านหลังจาก 1.5 เป็น 2 ล้านบาท เรามองเป็นข่าวบวกช่วยกระตุ้นดี มานด์ต่อภาคอสังหาฯ เนื่องจากบ้านที่มีราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทมีสัดส่วนคิดเป็น 50-60% ของตลาดรวม Top Pick AP LH SIRI

 

VOLUME หายกด SET

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า วันนี้ตลาดหุ้นต่างประเทศหยุดทำการชั่วคราวถึง 59 ประเทศ เนื่องจากเป็นวัน GOOD FRIDAY และหยุดต่อในวันจันทร์ อีก 44 ประเทศ เนื่องจากเป็นวันอีสเตอร์ โดยตลาดหุ้นใหญ่ๆที่หยุดทำการต่อเนื่อง คิดเป็นสัดส่วนเกินกว่า 70% ของ MARKET CAP ทั่วโลก กดดันให้มูลค่าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยยังเบาบางต่อ และ SET ขยับขึ้นได้ยาก เพราะปกติเวลามูลค่าซื้อขายตลาดหุ้นไทยต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท/วัน มักผลักดัชนีขึ้นได้น้อยและมักจะย่อตัวมากกว่าปกติ 

     ขณะที่วันนี้ติดตามตัวเลข PCE เดือน ก.พ.67 ของสหรัฐฯ ที่ตลาดคาดอยู่ที่ +2.5% อาจเป็นการเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 66 เป็นต้นมาซึ่งต้องติดตามว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร และจะทำให้ทิศทางดอกเบี้ยของ FED เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ 

     ส่วนของไทยมีตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัด เดือน ก.พ.67 คาดพลิกกลับมาเป็น +1,300 ล้านเหรียญฯ (เดือนก่อนอยู่ที่ -200 ล้านเหรียญ) ในส่วนถัดมากระทรวงการคลังเตรียมขยายการลดค่าโอน และจดจำนอง บ้านราคาเกิน 3 ล้านบาท คาดหนุนให้หุ้นกลุ่มอสังหาฯ กลับมาคึกคักช่วงสั้น ซึ่งหุ้นอสังหาฯที่คาดได้ประโยชน์และฝ่ายวิจัยฯ ชื่นชอบมากสุดในขณะนี้คือ AP และ SPALI

     SET INDEX วันนี้คาดแกว่งทรงตัวในกรอบแคบ 1365-1377 จุด ตามมูลค่าการซื้อขายที่คาดเบาบาง และหาก SET จะขยับขึ้นได้ต้องพึ่ง FUND FLOW ต่างชาติเป็นหลัก ส่วนหุ้น TOP PICK วันนี้เลือก JMART ราคาเป้าหมาย 20.90 บาท, BGRIM ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท , CBG ราคาเป้าหมาย 83.00 บาท