posttoday

NEWS ส่งซิกปี 68 เทิร์นอะราวด์ หลัง “Super Trader” เสริมแกร่งครึ่งหลังปี 67

26 มีนาคม 2567

NEWS แย้มผลงานปี 68 พลิกกำไร จากปี 66 ขาดทุนสุทธิกว่า 533 ล้านบาท หลังซื้อ “Super Trader” คาดเสร็จในไตรมาส 2/67 เสริมทัพครึ่งหลังปี 67 แตกหลักสูตรเจาะลึกธุรกิจ-การเงินสำหรับเด็ก เพิ่มเติมจากคอร์สเทรดหุ้น-บล.ลิเบอเรเตอร์ จ่อเปิดเทรดหุ้นจีน options อเมริกา ดันรายได้พุ่ง

นายกฤษฎา พฤติภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จํากัด(มหาชน) หรือ NEWS เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทคาดจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 47.38 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 533.96 ล้านบาท 

หลังจากคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2567 ได้มีมติพิจารณาอนุมัติการซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท ซุปเปอร์เทรดเดอร์ รีพับบลิค จำกัด (ST) จำนวนไม่เกิน 108,409 หุ้น ราคา 9,777 บาท/หุ้น รวมมูลค่า 1,059,914,793 บาท หรือคิดเป็น 100% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ ST จากผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 3 ราย ได้แก่ 

1. บริษัท ซุปเปอร์เทรดเดอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (ST Holding) โดยบริษัทจะรับโอนมาซึ่งหุ้นสามัญของ ST จาก ST Holding จำนวนทั้งสิ้น 46,535 หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 454,972,695 บาท

 2. นิติบุคคล Alpine Blue Syndicate Limited (ABS) โดยมี นายยศวีย์ วัฒนะธีระกิจจา เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด โดยบริษัทจะรับโอนมาซึ่งหุ้นสามัญของ ST จาก ST Holding จำนวนทั้งสิ้น 46,535 หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 454,972,695 บาท

และ 3. นายสุภชัย สถิตย์วิมล โดยบริษัทจะเข้าซื้อหุ้นสามัญของ ST จากนายสุภชัย จำนวนทั้งสิ้น 36,818 หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 359,969,586 บาท

โดยบริษัทจะชำระค่าตอบแทนสำหรับธุรกรรมการซื้อหุ้นสามัญของ ST ให้กับผู้ขายหุ้น ST ในมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,059,914,793 บาท ดังนี้

(1) บริษัทจะชำระค่าตอบแทนในการซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดจาก ST Holding ในมูลค่ารวมไม่เกิน 454,972,695 บาท และจะชำระค่าตอบแทนในการซื้อหุ้นสามัญของ ST จาก ABS ในมูลค่ารวมไม่เกิน 244,972,512 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน 699,945,207 บาท (การซื้อหุ้น ST ส่วนที่ 1) ด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวนไม่เกิน 69,994,520,700 หุ้น หรือคิดเป็น 35.59% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.01 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 699,945,207 บาท แทนการชำระด้วยเงินสด โดยมีอัตราการแลกเปลี่ยน (Share Swap) ที่ 1 หุ้นสามัญของ ST ต่อ 977,700 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท

(2) บริษัทจะชำระค่าตอบแทนในการซื้อหุ้นสามัญของ ST จากนายสุภชัย ในมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 359,969,586 บาท (การซื้อหุ้น ST ส่วนที่ 2) ด้วยเงินสด 

ทั้งนี้ การจัดสรรหุ้นเพื่อตอบแทนการซื้อหุ้น ST ส่วนที่ 1 เป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยจะมีการเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 พิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ซุปเปอร์เทรดเดอร์ รีพับบลิค จำกัด ในวันที่ 30 เม.ย.2567 หากได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น คาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ในช่วงไตรมาส 2/2567

โดยภายหลังการเข้าทำธุรกรรมการซื้อหุ้นสามัญของ ST แล้วเสร็จสมบูรณ์ ทางบริษัทเห็นควรให้พิจารณาแต่งตั้ง นายกระทรวง จารุศิระ เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการของ NEWS ด้วยมีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนกว่า 20 ปี มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านการสร้างคอร์ส Up-Skill การลงทุนรูปแบบต่างๆ ความสามารถของนายกระทรวงจะช่วยส่งเสริมให้ทีมบริหารของ NEWS มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

ดังนั้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 โครงสร้างธุรกิจของบริษัทจะมีบริษัทลูก จำนวน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ลิเบอเรเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งถือหุ้น บล.ลิเบอเรเตอร์ ในสัดส่วน 99.99% และ บริษัท ซุปเปอร์เทรดเดอร์ รีพับบลิค จำกัด ประกอบธุรกิจบริการอบรมสัมมนาให้คำแนะนำและให้ความรู้ที่จำเป็นเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้น ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ (Investment Academy) 

โดยมีเป้าหมายต้องการที่จะพัฒนาทักษะการลงทุนของคนไทยให้สามารถลงทุนได้อย่างถูกต้อง และสร้างผลตอบแทนได้ เพื่อพัฒนารายได้เสริมและรายได้หลักจากการลงทุน ซึ่งจะมีผู้ที่เชี่ยวชาญ (Coach) ด้านการลงทุนในตลาดหุ้น มาคอยดูแล ให้คำแนะนำ และให้ความรู้ เพื่อพัฒนาทุกอย่างให้เป็นระบบ อีกทั้งยังได้มีการจัดพิมพ์หนังสือ (Publishing) เพื่อให้ความรู้ด้านการลงทุนแก่บุคคลโดยทั่วไป  

“ST จะสร้าง Synergy ที่ Impact ให้กับสังคมการเงินการลงทุน ด้วยบริษัทมี บล.ลิเบอเรเตอร์ เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ทั้งคุณค่าและความรู้เรื่องการลงทุนอยู่แล้ว ST จะเข้ามาต่อยอดให้ความรู้กระจายสู่ทั้งช่องทางขององค์กร ตลอดจนแพลตฟอร์มได้อย่างทั่วถึง พร้อมกับฐานสมาชิกที่มีมากนับหมื่นราย และเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท โดยในแง่รายได้ บล.ลิเบอเรเตอร์ จะมีสัดส่วนมากกว่า แต่ ST จะมีมาร์จิ้นที่ดีกว่า” นายกฤษฎา กล่าว

โดยคาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2567 ปรับตัวดีขึ้น และในปี 2568 คาดว่าผลการดำเนินงานจะพลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิได้  

ขณะเดียวกัน บล.ลิเบอเรเตอร์ จะมีรายได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากในเดือน มี.ค.นี้ เป็นเดือนแรก ที่เริ่มเก็บค่าธรรมเนียมเทรดหุ้นไทย และ TFEX จากนั้นจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมเทรดหุ้นอเมริกา ในวันที่ 1 เม.ย.2567 และปลายปีนี้จะมีการเปิดหุ้นจีน ฮ่องกง รวมไปถึงการเทรด options ในตลาดหุ้นอเมริกา 

นายกระทรวง จารุศิระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์เทรดเดอร์ รีพับบลิค จำกัด กล่าวว่า NEWS ซื้อหุ้น ST จาก บริษัท ซุปเปอร์เทรดเดอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ในส่วนนี้ไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินสด แต่ NEWS ออกหุ้น PP แลกหุ้นกับ ST ทำให้กลุ่ม ST เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของ NEWS ในสัดส่วน 23% 

ทั้งนี้ ที่สนใจเข้ามาเป็นพันธมิตรกับ บล.ลิเบอเรเตอร์ เนื่องจาก 1.ลูกค่าเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่ได้เป็นการแข่งขันกันเอง โดยถ้าลูกค้าเทรดก็ผ่านทาง บล.ลิเบอเรเตอร์ แต่ถ้าเรียนก็ผ่าน ST และ 2.ต้องการเป็นมหาชน 

“การจะเข้ามาเป็นบริษัทมหาชนได้ มี 3 ช่องทาง ได้แก่ IPO, Backdoor และ Swap Share ซึ่งของเราเป็นช่องทางที่ 3 คือ Swap Share ไม่ได้เป็น Backdoor” นายกระทรวง กล่าว

สำหรับรายได้ของ ST นอกเหนือจากหลักสูตรการเทรดหุ้นกับการลงทุน บริษัทยังทำหลักสูตรเกี่ยวกับเจาะลึกธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนั้นๆ โดยตรง ล่าสุด เตรียมเปิดหลักสูตรเรียนทำธุรกิจโรงแรม แบ่งเป็น Profit Sharing โดยผู้สอน 60% และ ST 40% รวมไปถึงหลักสูตรการเงินสำหรับเด็กประถมปลาย มัธยมต้น และมัธยมปลาย

“เดิมจะเป็นหลักสูตรการเทรดหุ้นกับการลงทุน เกือบ 100% ซึ่งต้องสร้างคอมมูนิตี้ขึ้นมาใช้เวลากว่า 4 ปี ในอนาคตคาดว่าหลักสูตรเจาะลึกธุรกิจ และหลักสูตรการเงินสำหรับเด็ก จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และต่อไปจะขยายพอๆ กับเทรดหุ้นได้” นายกระทรวง กล่าว