posttoday

SET ยังอ่อนแรง ฟื้นตัวจำกัด แนะ “Selective Buy” ชู BCH และ TOP

04 มีนาคม 2567

SET แนวโน้มยังอ่อนแรง การฟื้นตัวถูกจำกัด แม้คาดได้ sentiment บวก จากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ BCH และ TOP

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET ยังดูอ่อนแรง โดยสัญญาณทางเทคนิคยังเป็นลบ และไม่แสดงสัญญาณฟื้นตัว โดยวันนี้แม้คาดได้ sentiment บวก จากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มองดัชนีการฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,375 และ 1,380 จุด ตามลำดับ ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,360 จุด และจุดต่ำเดิม บริเวณ 1,353 จุด

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเงินฝืดและการผลิตที่หดตัวต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดคาดตัวเลขเงินเฟ้อ ก.พ. ของไทยจะมีแนวโน้มติดลบเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีแรงหนุนจากความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในระยะถัดไป ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของ ECB ตลาดคาดจะยังคงที่ระดับ 4.0% ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึง แนะนำ ”Selective Buy“ ใน 4 ธีม ดังนี้

1) หุ้นเก็งกำไรจากแรงซื้อกลับจากทำ Cover Short และ Fund Flow ไหลกลับ อีกทั้ง ตลท. มีแผนออกมาตรการคุม Short Sales มากขึ้น ขณะที่พื้นฐานยังแข็งแกร่ง เลือก AOT KBANK KTB BBL ADVANC

2) หุ้นขนาดเล็กที่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง โดยกำไรปี 2567 ยังเติบโตดี YoY และมองราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เลือก AU ONEE SECURE KLINIQ HTC

3) หุ้นปันผลที่คาดให้ Div. Yield สูงกว่า 4% อีกทั้ง DPS และ Div. payout ratio แนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งมองหนึ่งในทางเลือกลงทุนเพื่อสร้างกระแสเงินสดที่ดีให้แก่พอร์ตลงทุน แนะนำ BBL KTB AP ADVANC RJH DRT

4) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมาก และราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Ratings ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BCH มองเป็นหุ้นเด่นของเราในฐานะ earnings play โดยปี 2567 คาดกำไรปกติจะเติบโต 18%YoY สู่ 1.8 พันล้านบาท แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มการแพทย์ แรงหนุนจากการดำเนินงานที่เติบโตเพิ่มขึ้นที่โรงพยาบาลเปิดใหม่ 3 แห่ง สำหรับไตรมาส 1/2567 คาดกำไรปกติจะเติบโต YoY และ QoQ จากปัจจัยฤดูกาล

TOP ไตรมาส 1/2567 คาดกำไรจะปรับตัวดีขึ้น QoQ จากการฟื้นตัวของ GRM โดยได้แรงหนุนจาก crack spread ที่สูงขึ้นของน้ำมันเบนซินและน้ำมันเตา อีกทั้งคาดมีผลขาดทุนสต๊อกระดับต่ำ ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบัน คิดเป็น PBV ที่ 0.7 เท่า (-1.4 SD) ซึ่งสูงกว่าระดับ 0.5 เท่า ในปีที่เกิดสถานการณ์โควิดอยู่เล็กน้อย