posttoday

MASTER ตั้ง “ลภัสรดา เลิศภานุโรจ” นั่งซีอีโอ โชว์กำไรปี 66 พุ่งกว่า 416 ล้าน

23 กุมภาพันธ์ 2567

MASTER แต่งตั้ง “ลภัสรดา เลิศภานุโรจ” นั่งซีอีโอคนใหม่ มีผลตั้งแต่ 22 ก.พ.67 นำทัพก้าวสู่ผู้นำ Specialty Hospital กลุ่ม รพ.เฉพาะทาง โชว์กำไรปี 66 โต 38% แตะ 416.30 ล้านบาท แจกปันผลหุ้น-เงินสด ขึ้น XD 19 มี.ค.67 ประกาศ 4 ดีล M&P ขึ้นแท่นผู้นำด้านความงามอันดับต้นของไทยและเอเชีย

บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 22 ก.พ.2567 มีมติแต่งตั้ง นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO - Chief Executive Officer) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.2567 เป็นต้นไป

สำหรับ นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ มีประสบการณ์ด้านการพัฒนาและบริหารงานจากหลากหลายธุรกิจในบริษัทชั้นนำของประเทศไทย อีกทั้งเคยเป็นอดีตผู้บริหาร Internal Audit Firm รวมทั้งการเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการชุดต่างๆ ของบริษัทชั้นนำที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำบริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความเชี่ยวชาญด้านการบริการ การขาย การตลาดแบบครบถ้วนในทุกระบบ โดยมีประสบการณ์การนำบริษัทเข้า IPO มากกว่า 30 บริษัท เป็นความสามารถพิเศษด้านการวางระบบ ตรวจสอบภายใน และไอที

จนกระทั่งมีโอกาสได้ร่วมงานกับ MASTER ถือเป็นการตัดสินใจก้าวข้าม Comfort Zone เข้าสู่อุตสาหกรรมแพทย์ความงาม การทำงานที่ MASTER นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ สร้างผลงานโดดเด่น นอกเหนือจากการนำ MASTER เข้า IPO สำเร็จเมื่อช่วงเดือน ม.ค.2566 โดยสร้างตำนานการเติบโตในแบบที่แตกต่างด้วยความแข็งแกร่ง ตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER ตั้งแต่ปี 2563

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นซีอีโอคนใหม่ของ MASTER การเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ ตนเองมีความพร้อมในการเดินหน้าสานต่อนโยบายบริษัทให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์การเป็นผู้นำตลาดของบริษัทที่วางไว้ สอดรับกับแนวทางการพัฒนาและก้าวสู่ผู้นำ Specialty Hospital กลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทางในอนาคต 

โดยมุ่งการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยการนำกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นแนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER พร้อมสร้างผลการดำเนินงานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ มิติ 

รวมถึงการเปิดโอกาสในการหาพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่ง เตรียมยกระดับประสิทธิภาพการทำงานให้มีคุณภาพ พร้อมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้โดดเด่น ตลอดจนการทำผลกำไรให้ดีขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ รวมไปถึงผู้ถือหุ้น และนักลงทุน เพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทมีกำไร 416.30 ล้านบาท เติบโต 38% จากปี 2565 ที่มีกำไรกว่า 300 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตในทุกๆหัตถการ เนื่องจากมีการเพิ่มการใช้ห้องผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีมากขึ้น เพิ่มทั้ง Profitability and Cost Efficiency

ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 1,916.76 ล้านบาท เติบโต 30% จากปี 2565 ที่มีรายได้ 1,482.59  ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทมีมติอนุมัติเข้าลงทุน 4 ดีล ได้แก่ เข้าลงทุนใน บริษัท เอสธิลิส โค้ด จำกัด ผู้ประกอบกิจการโรงงานผลิตซิลิโคนเพื่อใช้สำหรับทางการแพทย์ จำนวน 20% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก. เอสธิลิส โค้ด รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 200,000 บาท

รวมถึงเข้าลงทุนใน บริษัท มี เซนเตอร์ จำกัด ผู้ประกอบกิจการคลินิกดูแลสุขภาพจิต ภายใต้ชื่อ “Me Center Clinic” ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่กรุงเทพมหานคร มีความชำนาญด้านดูแลช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาด้านปัญหาสุขภาพจิต จำนวน 35% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบจก. มี เซนเตอร์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 55,000,000 บาท

นอกจากนี้ MASTER ได้เข้าลงทุนในกิจการคลินิกเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ “Aurora Clinic” ซึ่งเปิดให้บริการ 2 สาขาที่เกาะสมุย และที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี Aurora Clinic มีความชำนาญด้านเสริมหน้าอก ผ่าตัดตาสองชั้น เสริมคาง ปัจจุบันดำเนินธุรกิจโดยนายแพทย์อภิรักษ์ วงษ์เสาวศุภ

โดยบริษัทจะเข้าซื้อหุ้นของบริษัทที่จัดตั้งใหม่ โดยนายแพทย์อภิรักษ์ วงษ์เสาวศุภ จำนวน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทจัดตั้งใหม่ รวมเป็นเงินจำนวน 18,580,262.30 บาท 

ทั้งนี้ บริษัทจัดตั้งใหม่จะรับโอนกิจการทั้งหมดของ Aurora Clinic เพื่อให้บริษัทจัดตั้งใหม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง

อีกทั้งที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของ บริษัท กรวินโฮลดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด จำนวน 15% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บจก. กรวินโฮลดิ้ง รวมเป็นเงินจำนวน 77,837,837.84 บาท

ขณะที่ บจก. กรวินโฮลดิ้ง เป็นบริษัทจัดตั้งใหม่เพื่อถือหุ้น (1) บริษัท เค เมดิคอล ไทยแลนด์ จำกัด สัดส่วน 100% ซึ่งประกอบธุรกิจคลินิกเสริมความงามที่เปิดให้บริการจำนวนทั้งสิ้น 33 สาขาทั่วประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “Korawin Clinic” ซึ่งเป็นกิจการที่มีความชำนาญด้านศัลยกรรมความงาม เสริมจมูก เสริมคาง ตาสองชั้น 

(2) บริษัท รณภีร์ กรุ๊ป จำกัด สัดส่วน 100% ซึ่งประกอบธุรกิจคลินิกเสริมความงามที่เปิดให้บริการจำนวนทั้งสิ้น 13 สาขาทั่วประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “Ronnapee Clinic” ซึ่งเป็นกิจการที่มีความชำนาญด้านศัลยกรรมความงาม เสริมจมูก เสริมคาง ตาสองชั้น และ (3) บริษัท เคโอเอม คอร์ป จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจโรงพยาบาลศัลยกรรมที่จัดตั้งขึ้นใหม่

การเข้าลงทุนในกิจการทั้ง 4 บริษัทดังกล่าวนั้น บริษัทจะใช้เงินที่ได้รับจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือการดำเนินงานของบริษัท และจะเป็นประโยชน์กับบริษัท โดยการร่วมลงทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น จะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท

นางสาวลภัสรดา กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2566 เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ และทำ All Time High ต่อเนื่อง โดย MASTER ยังมีดีลใหม่อีก 4 ดีล ที่จะเข้ามาเสริมทัพความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ด้วยหลักแนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER เน้นการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) มาประยุกต์ใช้ โดยวางหลักเกณฑ์ 3 เรื่อง ในการเข้าพิจารณาลงทุนกับพาร์ทเนอร์ ได้แก่ ซื้อกิจการหรือธุรกิจที่มีเจ้าของเดิมยังบริหารต่อและต้องการเติบโตไปด้วยกัน รวมถึงเป็นกิจการหรือธุรกิจท้องถิ่น มีชื่อเสียง และความสัมพันธ์ที่ดีต่อพื้นที่นั้นๆ ซึ่งต้องมีการทำงานร่วมกัน (Synergy) ระหว่างธุรกิจกับโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช โดยเชื่อมั่นว่าทุกดีลที่เกิดขึ้นจะสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืนแน่นอน

“ดีลที่ประกาศมี 4 ดีล ประกอบด้วย กรวิน + รณภีร์  : Cross selling หัตถการเด่นด้าน ซิลิโคนมีทั้งหมดกว่า 46 สาขากระจายอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ ขณะที่ บจก.เอธิลิส โค้ด โรงงานผลิต ซิลิโคนเกรด Premium : Cross synergy เป็น Supply chain ต้นน้ำในธุรกิจศัลยกรรมต่างๆ ส่วน AURORA Clinic : Cross Border synergy กับคุณหมอเติ้ง ซึ่งเป็นคุณหมอศัลยกรรมพลาสติก ขยายฐานลูกค้าต่างชาติ ที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี และเกาะสมุย เพิ่มฐานลูกค้าในกลุ่ม Medical Tourism สุดท้าย คือ ME CENTER : Cross selling ธุรกิจเฉพาะทางด้านจิตเวช  จะขยายเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านจิตเวชในอนาคต” นางสาวลภัสรดา กล่าว

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณาจ่ายเงินปันผล โดยอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น มีอัตรา  1 หุ้นเดิมต่อ 0.142857142857143 หุ้นปันผล พร้อมเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0142857142857143 บาท ซึ่งกำหนดให้วันที่ 20 มี.ค.2567 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 และสิทธิในการได้รับเงินปันผล (Record Date) ทั้งนี้ กำหนดวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD คือ วันที่ 19 มี.ค.2567 และจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 9 พ.ค.2567