posttoday

BGRIM กางโรดแมพกลุ่มธุรกิจ"พลังงาน-อุตสาหกรรม-ยา"ปั้นรายได้แสนล้าน

29 มกราคม 2567

"นพเดช กรรณสูต" เร่งเครื่องปี 2567 ลุยธุรกิจเรือธง "บี.กริม เพาเวอร์ - บี.กริม อุตสาหกรรม - บี.กริม ฟาร์มา" ชูเป้าปี 2573 กำลังผลิตไฟฟ้ารวม 10,000 เมกะวัตต์ สร้างรายได้ 100,000 ล้านบาท เร่งดีล "อเมริกา-แอฟริกา" นำเข้า LNG ครึ่งปีหลัง

     นายนพเดช กรรณสูต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานการลงทุน นวัตกรรม และความยั่งยืนและสายงานธุรกิจในประเทศไทยและมาเลเซีย บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานปี 2567 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตในแต่ละธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันมีธุรกิจหลัก 6 กลุ่ม คือ 1. ธุรกิจด้านพลังงาน 2. ธุรกิจอุตสาหกรรม 3. ธุรกิจสุขภาพ 4. ธุรกิจเทคโนโลยีดิจิตอล 5. ธุรกิจไลฟ์สไตล์  เป็นตัวแทนสินค้าแฟชั่นหลายกลุ่ม และ 6. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

      โดยมุ่งเน้น 3 ธุรกิจหลัก คือ "บี.กริม เพาเวอร์" เน้นเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ระยะยาว “GreenLeap – Global and Green” เป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้มากกว่า 50% ในปี 2573 และตั้งเป้าขยายการลงทุนสู่กำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ จากโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนา ในปี 2573 

     และวางเป้าหมายองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Carbon Emissions ภายในพ.ศ.2593 หรือ คศ. 2050 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาโครงการในประเทศไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อิตาลี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีกำลังการผลิตติดตั้ง และได้เปิดดำเนินการ (COD) แล้วรวม 3,970 เมกะวัตต์ 

     เมื่อรวมโครงการซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาอีก 12 โครงการ จะมีกำลังการผลิตรวมเป็น 4,623 เมกะวัตต์ โดยความสำเร็จมาจากจุดแข็งในการเป็นผู้นำกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม และพลังงานหมุนเวียน ตลอดจนการยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจระดับโลก

BGRIM กางโรดแมพกลุ่มธุรกิจ\"พลังงาน-อุตสาหกรรม-ยา\"ปั้นรายได้แสนล้าน      "ปี 2566 บริษัทขยายโครงการในต่างประเทศจำนวนมาก โดยมีไฮไลท์คือประเทศเกาหลีใต้ ด้วยการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวม 122.49 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมกว่า 1,000 เมะวัตต์ ส่งผลให้ บี.กริม เพาเวอร์ เป็น 1 ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สเปน สหรัฐอเมริกา และไทย ที่ได้รับเชิญจากรัฐบาลเกาหลีใต้ เข้าร่วมงาน Investment Korea 2023 พร้อมได้รับรางวัลจากรัฐบาลเกาหลีใต้อีกด้วย

     นอกจากนี้ บริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุนภายใต้ BGRIM ยังได้รับคัดเลือกเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับรัฐบาลไทยจำนวน 15 โครงการ รวมกำลังการผลิต 339.3 เมกะวัตต์ ปัจจุบันได้เตรียมพร้อมเข้าร่วมโครงการพลังงานหมุนเวียนในรอบถัดไป" 

 

ธุรกิจเรือธง

     "บี.กริม อุตสาหกรรม" หนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ BGRIM ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยผลการดำเนินงานในปี 2566 มีรายได้เติบโตขึ้น 14% สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงภาพรวมอุตสาหกรรมอื่นซึ่งเติบโตน้อยกว่า สำหรับธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้แก่ ระบบปรับอากาศแคเรียร์ ที่ขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจระบบปรับอากาศในประเทศไทย จากการเดินหน้าสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง และการสนับสนุนจากพันธมิตรตัวแทนจำหน่าย

     รวมถึงการเปิดตัวนวัตกรรมและบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัยที่สามารถเชื่อมต่อระบบ IoT ระบบปรับอากาศแบบ VRF สำหรับอาคาร หรือระบบบริการหลังการขายที่สามารถแจ้งการทำงานผิดปกติโดยอัตโนมัติ เป็นต้น

     อีกทั้งขยายธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากกระแสความนิยมของผู้บริโภคที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ชูจุดเด่นเรื่องการบริการแบบครบวงจรและรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย พร้อมทางเลือกในการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ โดยในปี 66 ได้ติดตั้งประมาณ 70 หัวชาร์จให้แก่หลากหลายผู้ประกอบการ ปีนี้เน้นขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องภายใต้แพลตฟอร์มของ BGRIM

     ขณะเดียวกันขยายธุรกิจติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แบบ EPC ซึ่งเป็นการให้บริการติดตั้งแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Turn-Key ตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง ขออนุญาต จนจบกระบวนการ และมีการพัฒนาโซลูชันเพื่อสุขภาพที่ดีแก่ผู้ใช้อาคาร หรือ Healthy Living Solution ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีระบบไฟ UV-C ยับยั้งเชื้อโรคในระบบปรับอากาศ ซึ่งมีการติดตั้งในห้างสรรพสินค้าเครือเซ็นทรัลแล้วกว่า 6 แห่ง และมีแผนขยายไปยังสถานที่ต่างๆ ต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในระยะยาวถึง 3 เท่าภายในปี 2573 ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องให้บริษัทมีการเติบโตอย่างยั่งยืน 

     และ "บี.กริม ฟาร์มา" อีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจเรือธงที่บริษัทให้ความสำคัญมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2421 ย้อนกลับไป 145 ปี กับร้านปรุงยาตำรับตะวันตกแห่งแรกของประเทศไทย ในชื่อ “สยามดิสเป็นซารี่” และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นร้านยาหลวงตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จุดเริ่มต้นของปรัชญาแห่งการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารีของ บี.กริม ที่มุ่งดำเนินธุรกิจเพื่อส่วนรวมและสังคม 

     อีกทั้งสถานการณ์ด้านสาธารณสุขของประเทศที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงการรักษา BGRIM กลับมาสานต่อธุรกิจฐานรากดังกล่าวภายใต้ “บี.กริม ฟาร์มา” ซึ่งยังคงมุ่งเน้นเจตนารมณ์เดิมที่ชัดเจน นั่นคือการมุ่งสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับผู้คน ส่งเสริมการเข้าถึงยารักษาโรคและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพที่มีคุณภาพให้แก่ผู้ป่วย เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมให้ดีขึ้น

     ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ได้แก่ ยา และ เวชภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศ จำนวน 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มยารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด 2. กลุ่มยารักษาโรคระบบประสาทและจิตเวช 3. กลุ่มยารักษาโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ 4. กลุ่มยารักษาโรคระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เวชสำอาง และเครื่องมือแพทย์

     "รายได้ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 10-15% ดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจาก บี.กริมพาวเวอร์ ราว 70% , บี.กริม ฟาร์มา 25% และอีก 5% มาจาก บี.กริม อุตสาหกรรม ในอนาคตคาดหวังว่าจะมีการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่อง"

 

ดีลพลังงาน-LNG อเมริกา

     อย่างไรก็ดี บริษัทสนใจลงทุนพลังงานในสหรัฐอเมริกา ล่าสุดส่งทีมเข้าไปศึกษาพลังงานทดแทนแบบไฮบริดที่มีทั้งโซลาร์เซลกับไฮโดรเจนที่มีค่อนข้างมากในอเมริกา เพียงแต่พลังงานที่บริษัทสนใจอาจจะมีกิจการขนาดไม่ใหญ่มากแต่สามารถเติบโตในอนาคตได้ 

     นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเจรจานำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)กับพันธมิตรในอเมริกาและแอฟริกา เบื้องต้นอยู่ระหว่างการเจรจาเกี่ยวกับสูตรการคำนวณกับราคา LNG พร้อมสัญญาการซื้อขายระยะยาวซึ่งจะช่วยเรื่องต้นทุนที่น่าจะดีกว่าเมื่อเทียบกับสัญญาระยะสั้น โดยคาดหวังว่าการเจรจาจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ 

      ทั้งนี้ บริษัทได้ใบอนุญาตนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)ราว 1.2 ล้านตันต่อปี ซึ่งรอความชัดเจนจากทาง ปตท.ในการกำหนดแนวทางปฏิบัติของผู้ที่นำเข้า LNG หากมีความชัดเจนคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรกน่าจะได้ข้อสรุป จากนั้นบริษัทจะสามารถนำเข้า LNG ได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ราว 200,000-350,000 ตัน

BGRIM กางโรดแมพกลุ่มธุรกิจ\"พลังงาน-อุตสาหกรรม-ยา\"ปั้นรายได้แสนล้าน