posttoday

อ่อนแรง! ราคาน้ำมันย่อกดหุ้นไทยพักกรอบ 1390-1410

21 ธันวาคม 2566

โบรกส่องหุ้นไทยวันนี้พักกรอบ 1,390 - 1,410 จุด หลังราคาน้ำมันอ่อนตัว ประกอบกับฟันด์โฟลว์ชะลอกดบรรยากาศอ่อนแรง

    ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index เพิ่มขึ้น 5 จุด (+0.39%) ปิดที่ระดับ 1,400 จุด คาดเป็นแรงซื้อของเงิน จากกองทุนลดหย่อนภาษีหลังจากวานนี้นักลงทุนสถาบันมียอดซื้อสุทธิ 1,317 ล้าน บาท หนุนหุ้น Big cap ปรับขึ้นในหลาย Sector อาทิ พลังงาน, สื่อสารและค้าปลีก

     สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (21 ธ.ค.66) ประเมิน SET พักตัวกรอบ 1,390 - 1,410 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุน RMF SSF TESG ในช่วงท้ายปี รวมถึง US bond yield อ่อนตัวลง จาก FED ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า 

     อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงหลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล อีกทั้ง Fund flow ต่างชาติที่ชะลอตัวจะกดดันให้ดัชนีผันผวน จึงแนะนำ Selective buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

  "กราฟ SET อยู่ในช่วงกลับตัว V shape และปิดเหนือเส้น EMA 10 วันต่อเนื่อง ประกอบกับได้แรงส่งจากเครื่องมือ MACD + RSI ชี้ขึ้นสนับสนุนทิศทาง อย่างไรก็ตามการที่ Volume ไม่หนาแน่นนั้นจะกดดันให้ดัชนีผันผวน ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวกรอบ 1,390 - 1,410 จุด ทั้งนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรในกรอบดังกล่าวโดยถือหุ้นต่อได้หากไม่หลุด 1,390 จุด"

     หุ้นแนะนำวันนี้ คือ BGRIM (ปิด 27.75 ซื้อ/ เป้า IAA Consensus 32 บาท) คาดได้ประโยชน์หากภาครัฐปรับโครงสร้างราคาพลังงานโดยเฉพาะการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ ธรรมชาติและจัดส่งก๊าซในอ่าวไทยที่มีราคาถูกให้โรงไฟฟ้ามากขึ้น 

     CRC (ปิด 40 ซื้อ/เป้า 44 บาท) ทยอยสะสมก่อนมาตรการ Easy e-Refund ซึ่งให้สิทธินำค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้ามารวมหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้ 50,000 บาทต่อคน จะเริ่มบังคับใช้ในปีใหม่นี้ มอง CRC ได้ประโยชน์มากสุดผ่านการ ขายในกลุ่มสินค้าแฟชั่นส์, เครื่องใช้ไฟฟ้า (Power Buy) และ สินค้าวัสดุก่อสร้าง (ไทวัสดุ)

ประเด็นสำคัญวันนี้ 

     (-) ดาวโจนส์ร่วง 476 จุด จากแรงขายทำกำไรและรอดูตัวเลข PCE สหรัฐใน วันพรุ่งนี้: ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 475.92 จุด หรือ -1.27%,ปิดที่ระดับ 37,082 จุด คาดเกิดจากการเทขายทำกำไรหลังจากที่ดัชนีปรับขึ้นรับข่าวเฟดส่งสัญญานลด ดอกเบี้ยไปมากแล้ว ประกอบกับนักลงทุนบางส่วนลดความเสี่ยงเพื่อดูตัวเลขเงิน เฟ้อสหรัฐ (PCE Price Index) เดือน พ.ย.ในวันพรุ่งนี้หากเงินเฟ้อลงช้าจะทำให้เฟ ดคงดอกเบี้ยในระดับสูงนานสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ยตั้งแต่เดือน มี.ค. ปีหน้า

     (+) ค้าปลีก - ก.คลังแจงรายละเอียดมาตรการ Easy e-Receipt คาดเพิ่มเงิน หมุนเวียนในระบบ 7 หมื่นล้านบาท: และคาดจะกระตุ้น GDP ได้ 0.18% เมื่อ เทียบกับไม่มีมาตรการ โดยโครงการนี้จะให้สิทธิกับประชาชนนำค่าใช้จ่ายจากการ ซื้อสินค้ามารวมหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน ส่งผลให้มี เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก ห้างฯ, วัสดุก่อสร้าง และ กลุ่มค้าปลีกมือถือ Top Pick เชิงกลยุทธ์ คือ CRC GLOBAL และ COM7

     (+/-) Auto – ยอดผลิตและขายรถยนต์ในประเทศยังลดลง YoY แต่มีสัญญาณ บวกเมื่อ MoM เริ่มฟื้นตัว: ส.อ.ท. รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ย. อยู่ที่ ระดับ 163,337 คันเพิ่มขึ้น 2.9%mom แต่ลดลง 14.1%yoy(+/- AH, SAT), มี ยอดขายในประเทศ 61,621 คัน เพิ่มขึ้น 4.51%mom แต่ลดลง 9.76%yoy (+/-TISCO KKP) และมียอดส่งออกรถยนต์ 99,609 คัน ลดลง 5.79%mom และ 13.22%yoy