ตลท. หนุน บจ. เดินหน้า ESG เพิ่ม 4 โอกาสธุรกิจโตยั่งยืน

     ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและหัวหน้าสายงาน พัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวในงาน SUSTAINABILITY FORUM 2024 จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ หัวข้อ Special Talk : New Challenge to be Chance ว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นแพลตฟอร์ม โครงสร้างพื้นฐานตลาดทุน อยู่กับคน 2 กลุ่ม โดย กลุ่มแรก คือ บริษัทจดทะเบียน ขณะที่กลุ่มสอง คือ นักลงทุน

     ที่ผ่านมา ทุกท่านทราบเกี่ยวกับความยั่งยืน และ Net Zero ซึ่งมักจะเกิดคำถามจากบริษัทต่างๆว่า "ทำ ทำไม ?" และ "ทำแล้วได้อะไร ?" หาก ตลท.สามารถโน้มน้าวบริษัทเพื่อให้สังคมเกิดความยั่งยืนต่อเนื่องได้เป็นเป้าหมายที่พยายามดำเนินการ 

     ขณะที่ในฝั่งของนักลงทุนที่ต้องลงทุนในบริษัทที่มี ESG ก็มักจะเจอคำถามว่าเป็นการลงทุนแบบสร้าง "Alpha" หรือ Alpha Investor หรือไม่ รวมถึงลงทุนในบริษัทที่มีความยั่งยืนจะช่วยลดความเสี่ยงการลงทุน หรือนำไปสู่การเติบโตของธุรกิจในอนาคต อย่างไร หรือให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคตได้อย่างไร นั่นคือความท้าทายของ ตลท. ที่อยากทำให้กลุ่มคนทั้งสองกลุ่มมองข้ามความยากและมองว่านี่คือโอกาสการลงทุน 

     สำหรับประเทศไทย บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯกว่า 800 บริษัท ได้มีการเปิดเผยข้อมูลประจำปีเกี่ยวกับคาร์บอนฟุตพริ้นท์(Carbon Footprint) เพียง 55 บริษัทเท่านั้น สิ่งที่อยากบอกคือ ตอนนี้มีกองทุน TESG ที่จะเข้ามาลงทุน ESG นี่คือสิ่งที่ ตลท.พยายามดำเนินการและคาดหวังว่าจะเห็นบริษัทที่เปิดเผยข้อมูลมากกว่า 55 บริษัท

     สิ่งที่ ตลท. อยากเห็น คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของบริษัทจดทะเบียน โดยสร้างโอกาสทางธุรกิจในด้าน 1.ความโปร่งใสและความเชื่อมั่น รับมือ Climate Crisis 2.สร้างรายได้จากสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

     3.สร้างโอกาสปรับกลยุทธ์รองรับ Low Carbon Economy และ 4.สร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนสีเขียว(Green Finance)ได้มากขึ้น

     "ปีที่ผ่าน ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ทดลองคาร์บอนเครดิตองค์กร ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก แม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหม่และเราโชคดีที่มีบริษัทชั้นนำได้ทำคาร์บอนแล้วบางส่วน จนหลายบริษัทเริ่มทำและได้แชร์ประสบการณ์ทั้งเรื่องที่ประสบความสำเร็จ ขั้นตอน การทำต่างๆไม่ยากเหมือนเดิมเพราะได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ แชร์ความรู้กันเพิ่มขึ้น และนี่แค่เวฟแรกเรื่อง SUSTAINABILITY ซึ่งเวฟอื่นๆจะตามมา ทั้ง Human Rights และ Gender เป็นต้น"