posttoday

Thai ESG ดีเดย์ขายวันนี้วันแรก 22 กองทุน 16 บลจ. ดึงเม็ดเงินเข้าเป้า 1 หมื่นลบ.

08 ธันวาคม 2566

คลัง-FETCO-ก.ล.ต.-ตลท.-AIMC ร่วม เปิดตัว Thai ESG เริ่มเปิดขายวันนึัวันแรกพร้อมกัน 22 กองทุน จาก 16 บลจ. มั่นใจดึงเม็ดเงินลงทุนปีนี้เข้าเป้า 1 หมื่นล้านบาท ปีหน้าพุ่ง 2-3 หมื่นล้านบาท ฟาก ก.ล.ต. จ่อออกเกณฑ์ให้กองทุน Thai ESG ลงทุน Investment Token ได้ คาดชัดเจนไตรมาส 1-2/67

กระทรวงการคลัง สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ร่วมเปิดตัว “กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน” (Thailand ESG Fund : Thai ESG) เปิดเสนอขายพร้อมกันวันนี้ (8 ธ.ค.) วันแรก จำนวน 22 กองทุน จาก 16 บริษัทจัดการลงทุน (บลจ.)

หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติหลักการมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยในช่วง 10 ปีภาษี (ปี 2566-2575) ไปเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2566 โดยสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ซึ่งผู้ที่มีเงินได้จะได้สิทธิหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนใน Thai ESG ในอัตราไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับปีภาษีและจะต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 8 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน 

โดยกองทุน Thai ESG จะมีนโยบายเน้นลงทุนในประเทศในสินทรัพย์ อาทิ หุ้นหรือตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือเพื่อความยั่งยืน

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงนโยบายของกระทรวงการคลังว่า ในฐานะภาครัฐที่เป็นเสาหลักทางการคลังและเศรษฐกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยและยุทธศาสตร์ชาติต่อเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) รวมถึงการสร้างความเพียงพอของรายได้และเงินออมเพื่อใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพภายหลังการเกษียณอายุในขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ ถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วนของประเทศ 

ดังนั้นกรมสรรพากรจึงพร้อมสนับสนุนมาตรการทางภาษีเพื่อให้เกิดแรงจูงใจในภาคประชาชนต่อการลงทุนเพื่อเป้าหมายความยั่งยืน การระดมทุนที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะเป็นกลไกผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเร่งปรับตัวและให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก พร้อมๆ กับการที่ประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) ของสหประชาชาติ รวมทั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุน Thai ESG ที่ภาครัฐได้ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินด้านความยั่งยืนเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับกองทุนรวมด้านความยั่งยืน สนับสนุนให้ผู้ลงทุนมีโอกาสเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ส่งเสริมความยั่งยืนของประเทศไทย โดยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และส่งเสริมให้เกิดการออมระยะยาวผ่านกองทุนรวม เพื่อสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมเป้าหมายด้านความยั่งยืนของประเทศ 

ทั้งนี้ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ในการยกระดับศักยภาพตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable capital market) โดยสนับสนุนให้ตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้ภาคธุรกิจ ทั้งบริษัทจดทะเบียนและผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน ผนวกปัจจัยด้าน ESG เข้าไปในการดำเนินธุรกิจและกระบวนการทำงานอย่างจริงจัง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบเศรษฐกิจและสังคมไทย

อีกทั้งยังตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้ลงทุนที่ให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ ก.ล.ต.ได้อนุมัติการจัดตั้งกองทุน Thai ESG ชุดแรกจำนวน 22 กองทุน และคาดว่าจะมีจำนวนกองทุนเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป

ขณะเดียวกัน ก.ล.ต.ยังเตรียมออกหลักเกณฑ์ให้กองทุน Thai ESG สามารถลงทุนใน Investment Token ที่ระดมไปทำโครงการเกี่ยวกับ Green ต่างๆ ได้ เพื่อสนับสนุนให้สตาร์ทอัพ และเอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้เช่นเดียวกับธุรกิจขนาดใหญ่ คาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 1-2/2567  Thai ESG ดีเดย์ขายวันนี้วันแรก 22 กองทุน 16 บลจ. ดึงเม็ดเงินเข้าเป้า 1 หมื่นลบ.

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund :Thai ESG) ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐโดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ลงทุน จะเป็นหนึ่งในกลไกหลักของตลาดทุนเพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนของประเทศโดยเฉพาะเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี ค.ศ.2065 ตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ใน Paris Agreement เป็นแรงผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะการดำเนินกิจการที่คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมมาภิบาล (ESG) 

รวมทั้งช่วยสร้างให้เกิดความเพียงพอของการออมเพื่อการเกษียณของประชาชน ซึ่งองค์กรในตลาดทุนไทยทั้งหมดต่างร่วมมือกันอย่างแข็งขันในการจัดตั้งกองทุน Thai ESG เพื่อช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนและ ESG และได้รับการสนับสนุนด้วยดียิ่งจากภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง กรมสรรพากร และ ก.ล.ต.

ทั้งนี้ มั่นใจว่า Thai ESG จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน ซึ่งยังมองว่าเม็ดเงินที่เข้ามาในกองทุน Thai ESG ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนในปี 2567 คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาในกองทุนรวม Thai ESG กว่า 20,000-30,000 ล้านบาท

“การลงทุนใน Thai ESG ถือเป็นการออมระยะยาว ได้สิทธิทางภาษี เป็นการลงทุนในอนาคต เพราะราคาหุ้นตอนนี้ถือว่าเป็นจังหวะเข้าลงทุน ในอนาคตมีอัพไซด์แน่นอน และยังเป็นการซื้อความยั่งยืนเพื่อประเทศ ผลักดัน บจ. ให้ใส่ใจเรื่อง ESG มากขึ้น รวมทั้งผลตอบแทนดีกว่าฝากแบงก์“ นายกอบศักดิ์ กล่าว

Thai ESG ดีเดย์ขายวันนี้วันแรก 22 กองทุน 16 บลจ. ดึงเม็ดเงินเข้าเป้า 1 หมื่นลบ.

นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า นักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) ถือเป็น stakeholder ที่จำเป็นและสำคัญมากในกระบวนการพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน เพราะเป็นตัวกลางช่วย Unlock value เป็นสะพานเชื่อมต่อ supply ซึ่งคือบริษัทจดทะเบียนและ demand คือผู้ลงทุนไทย 

สำหรับความร่วมมือในการออกกองทุน Thai ESG ครั้งนี้จึงนับเป็นครั้งแรกที่กำหนดเป้าหมายเพื่อสร้างความยั่งยืน ครอบคลุมทุกมิติ ESG และเพื่อเป็นช่องทางการออมที่มีประสิทธิภาพในระยะยาวของประชาชน 

สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง คือ กองทุน Thai ESG ในระยะแรกจะครอบคลุมบริษัทจดทะเบียนไทยรวม 200 กว่าบริษัท ที่ได้รับการคัดเลือกว่ามีความโดดเด่นด้านความยั่งยืน และหรือมีการเปิดเผยข้อมูลและตั้งเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตราสารหนี้ในกลุ่มความยั่งยืน เป็นต้น โดย Thai ESG จะต้องจดทะเบียนเป็นกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI) กับ ก.ล.ต. ที่เป็นหลักเกณฑ์การลงทุนอย่างยั่งยืนตามหลักสากล และมีการกำกับดูแลเข้มข้นกว่ากองทุนรวมทั่วไป 

โดยกองทุนที่จัดตั้งขึ้นจะกำหนดนโยบาย กลยุทธ์การลงทุน แนวทางการคัดเลือกหลักทรัพย์ การลงทุน การติดตามการลงทุน การทำหน้าที่ active engagement ตลอดไปจนถึงการเปิดเผยผลการบริหารจัดการกองทุนว่าสอดคล้องหรือเป็นไปตามวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนที่กองทุนนั้นๆ กำหนดไว้หรือไม่ 

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือของ บลจ. สมาชิกเพื่อร่วมกันตรวจสอบติดตามบริษัทจดทะเบียนที่อาจไม่ปฏิบัติตาม ESG โดยกำหนด AIMC ESG Policy and Collective Action และการจัดทำ Negative List เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้จัดการกองทุนใช้กลั่นกรองบริษัทจดทะเบียนเพื่อลงทุนอีกด้วย กระบวนการทั้งหมดนี้แสดงถึง commitment ของ บลจ./กองทุน ผู้ลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าการลงทุนของตนจะมีส่วนช่วยผลักดันบริษัทจดทะเบียนไทย และบริษัทผู้ออกตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนให้มุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และเป้าหมาย Net Zero และเป้าหมายความยั่งยืนของประเทศอย่างจริงจัง 

ในครั้งนี้มี บลจ. รวมพลังกันจัดตั้งกองทุน Thai ESG จำนวน 22 กองทุน จาก 16 บลจ. ซึ่งมีสัดส่วนทางการตลาดรวมกว่า 98% ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.ThailandESG.com

“มั่นใจว่าในช่วงการเสนอขายกองทุนรวม Thai ESG ที่เหลือ 3 สัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ จะมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาตามเป้า 10,000 ล้านบาท หรือราว 100,000 บัญชี ซึ่งทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุนคาดว่ากองทุน Thai ESG จะสามารถดึงดูดนักลงทุนรุ่นใหม่เข้ามามากขึ้น” นางชวินดา กล่าว

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า 
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้าน ESG อย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ตั้งแต่พัฒนาและยกระดับบริษัทจดทะเบียนไทย บูรณาการเรื่อง ESG ให้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์และกระบวนการดำเนินธุรกิจ โดยให้คำนึงถึงการเติบโตไปพร้อมกับความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย สร้างต้นแบบธุรกิจที่มี ESG เพื่อเป็นแบบอย่าง 

รวมทั้งมีการจัดทำ “รายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings” เพื่อรวบรวมบริษัทจดทะเบียนที่มีผลการดำเนินงานด้าน ESG ที่โดดเด่น ซึ่งในปี 2566 มีบริษัทจดทะเบียนได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนถึง 193 บริษัท 

นอกจากนี้ ยังพัฒนา “SET ESG Data Platform” เพื่อจัดการข้อมูลด้าน ESG อย่างเป็นระบบ และจัดทำดัชนี SET ESG ให้ผู้เกี่ยวข้องใช้เป็น benchmark และนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ 

การจัดตั้งกองทุน Thailand ESG Fund จะในครั้งนี้ จะเป็นปัจจัยให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและเร่งพัฒนาธุรกิจตามหลัก ESG มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้าน ESG เป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ลงทุนไทย ที่จะได้ลงทุนอย่างยั่งยืนเพื่ออนาคต อีกทั้งยังช่วยในการขยายฐานและมีผู้ให้ความสนใจลงทุนเพิ่มขึ้น 

โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนกองทุน Thailand ESG Fund อย่างเต็มที่ ทั้งการให้ความรู้ และการประชาสัมพันธ์แก่ผู้ลงทุน ซึ่งได้ร่วมจัด Mutual Fund Fair ขึ้นในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ข้อมูล แนะนำกองทุนรวม Thai ESG แก่ผู้สนใจอีกด้วย

ข่าวล่าสุด

เจาะรายละเอียด อย.ปลดล็อก ยา ‘ATMP’ ตามความเสี่ยง 3 ระดับ!