posttoday

หวังกองทุน TESG พรุ่งนี้ดึงเม็ดเงินไหลกลับพยุง SET ฟื้น

07 ธันวาคม 2566

แรงขาย PTTEP - DELTA นำทีมกลุ่มพลังงานและอิเล็กฯ ถล่มหุ้นไทยปิดร่วง 10.82 จุด แตะ 1,378.73 จุด โบรกหวังเปิดตัวกองทุน TESG พรุ่งนี้ดึงเม็ดเงินไหลกลับ ดันหุ้นไทยฟื้น

ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(7 ธ.ค.66) อยู่ที่ 1,378.73 จุด ลดลง 10.82 จุด คิดเป็น -0.78% มูลค่าการซื้อขาย 41,666.38 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,384.52 จุด และลดลงต่ำสุด 1,373.34 จุด 

หวังกองทุน TESG พรุ่งนี้ดึงเม็ดเงินไหลกลับพยุง SET ฟื้น

5 หุ้นซื้อขายสูงสุด ดังนี้

     1. PTTEP ปิดที่ 140.50 บาท ลดลง -2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,127,672.85 บาท

     2. PTT ปิดที่ 35.50 บาท ลดลง 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,365,634.30 บาท

     3. BDMS ปิดที่ 25.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,971,338.95 บาท

     4. BANPU ปิดที่ 7 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,741,296.92 บาท

     5. AOT ปิดที่ 60 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,732,852.78 บาท

หวังกองทุน TESG พรุ่งนี้ดึงเม็ดเงินไหลกลับพยุง SET ฟื้น

จับตา TESG พรุ่งนี้

     นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยทางเทคนิค บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้(8 ธ.ค.66) จับตาการเปิดตัวกองทุน Thailand ESG Fund คาดว่าจะเข้ามาช่วยพยุง SET ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปี เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อ SET โดยฝ่ายวิเคราะห์แนะสะสมหุ้นที่มี ESG Rating ดี, สภาพคล่องสูง, แนวโน้มกำไรเติบโต และ Valuation ไม่แพงเทียบกับอดีต เช่น CPALL, CRC, GPSC, WHA เป็นต้น 

     ส่วนดัชนีหุ้นไทยวันนี้(7 ธ.ค.66)ดัชนีพักตัวลงมาในรอบสั้น แต่ยังไม่หลุดฐานแนวรับ Low เดิมที่บริเวณ 1370 - 1375 จุด มีแรงซื้อกลับพยุงดัชนี แกว่งกรอบ 1370 – 1395 จุด ถือว่ายังเสี่ยงชะลอตัวลงต่อ ดังนั้นกลยุทธ์ในระยะสั้นเก็งกำไร รอขายที่แนวต้าน 1405 / 1430 จุด แนวรับ 1370 / 1350 จุด

 

เล่นรอบสั้นๆ

     ฝ่ายกลยุทธ์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ระบุว่า SET Index ภาพในรายชั่วโมง ดัชนีเปิด Gap Down ลงไปทดสอบกรอบด้านล่างที่ 1375 จุด แล้วยืนได้ ก่อนจะมีแรงซื้อกลับอ่อนๆ เข้ามาหนุนไม่ให้หลุดแนวดังกล่าว แล้วรีบาวด์ไปทดสอบโซนแนวต้านย่อยที่เส้น EMA5-EMA20 แล้วผ่านไปไม่ได้ ภาพรวมโมเมนตัมยังอ่อนแรง 

     หุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีจะยังไม่เลือกทางแล้วแกว่งตัวออกข้างระหว่าง 1375-1390 จุดไปก่อน หากจะรีบาวด์ดัชนีต้องยืนเหนือเส้น EMA20 ให้ได้

     ทั้งนี้ ฝ่ายแนะนำให้ระมัดระวังในการลงทุน เนื่องจากภาพใหญ่ดัชนียังอยู่ในแนวโน้มขาลงแข็งแกร่ง แนะนำเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาดเท่านั้น แนวรับ 1375 จุด แนวต้าน 1395 / 1400 จุด

     หุ้น AMATA จ่อทะลุแนวต้าน High เดิม ภาพรายวัน ราคาได้ยก High ยก Low ปรับตัวขึ้น หลัง EMA5 เกิดสัญญาณ Golden Cross กับ EMA20 ขณะที่ MACD เร่งตัวขึ้นในแดนบวกแข็งแกร่ง พร้อมกับ RSI พุ่งขึ้น จ่อแตะโซน Overbought หนุนราคาทำ New High คาดแนวต้าน Fibonacci Extension อยู่ที่ 127.2-138.2% ที่ 27.50 และ 28.00 บาทตามลำดับ
     โดยแนะนำ Buy on Breakout ที่ 26.00 บาท มองแนวต้าน 27.50 / 28.00 บาท STOP LOSS หากต่ำกว่า 25.50 บาท

     หุ้น NYT ภาพรายวัน ราคาเกิดแท่งเทียนกลับตัวรูปแบบ Bullish Hammer ที่แนวรับใหญ่ 3.76 บาท แล้วราคาปรับตัวขึ้นแรงเป็น Bullish Bar สามแท่งติดต่อกัน Breakout ผ่าน High ก่อนหน้าพร้อม Volume ด้าน MACD กลับมายืนแดนบวกแท่งแรก แล้วราคายืนเหนือเส้น EMA200 ได้ระยะสั้นราคาน่าจะกลับมาเทรดโซนบน โดยมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 4.24 และ 4.40 บาทตามล าดับ
     โดยแนะนำ Buy on Dip ที่แนวรับ 4.00-4.04 บาท มองแนวต้าน 4.24 / 4.40 บาท STOP LOSS หากต่ำกว่า 3.90 บาท

     หุ้น PTG ภาพรายวัน ราคาปรับตัวลงมาค่อนข้าง Underperformed ในช่วงก่อนหน้า และเป็นแนวโน้มขาลงรอบใหญ่ แต่อย่างไรก็ดี ราคาได้ทำทรงกลับตัวรูปแบบ Invert Head and Shoulders พร้อมด้วยการยกตัวขึ้นของ MACD กับ RSI เกิด Bullish Divergence หนุนราคา Breakout ผ่านเส้น Neckline ขึ้นมาได้ คาดว่าราคาจะขึ้นมาถึงเป้าที่ประมาณ 9.80-10.00 บาท 
     โดยแนะนำ Buy on Breakout เส้น Neckline ที่ 9.00 บาท มองแนวรับ 8.80 บาท แนวต้าน 9.50 / 9.80 บาท STOP LOSS หากต่ำกว่า 8.60 บาท