TKC ส่งซิกผลงาน Q4/66 สวย หนุนรายได้ปี 66 โตเข้าเป้า 20%
TKC แย้มผลงานไตรมาส 4/66 มีทิศทางดี ชู 8 กลุ่มธุรกิจกวาดรายได้ ตุนแบ็กล็อก 3,200 ล้านบาท บุ๊กรายได้ปีนี้ 20% หนุนรายได้ปี 66 โตตามเป้า 20% หลัง 9 เดือนแรก โชว์กำไร 202.71 ล้านบาท โต 25.11% ลุยประมูล 10,000 ล้านบาท/ปี หวังได้ 30-40% ควบรวม AIT ต่อยอดความเชี่ยวชาญ
นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC เปิดเผยว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 บริษัทเดินหน้าลงทุนในธุรกิจเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และได้พันธมิตรใหม่เพื่อต่อยอดสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ
ดังนั้นแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 มั่นใจว่ายังมีทิศทางที่ดี เป็นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้เดินหน้าสู่เป้าหมายรายได้เติบโตในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 20% จาก 8 กลุ่มธุรกิจของบริษัท และเดินหน้ากลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นที่ 1 ในธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน ครอบคลุมด้านโทรคมนาคมและไอซีที
รวมทั้งต่อยอดธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต เช่น ระบบ Smart Solutions โดยมุ่งเน้น Smart Hospital, Smart Platform, Smart Logistics, Cyber Security, Smart Learning และ Smart Farming ที่เป็นโอกาสสร้างการเติบโตใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี IoT ร่วมกับการสร้างและออกแบบเน็ตเวิร์ค และเซิร์ฟเวอร์มาเสริมสร้าง ประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และควบคุมคุณภาพในธุรกิจด้านต่างๆ ซึ่งในขณะนี้บริษัทมีการเซ็นสัญญารับงานกับลูกค้าเข้ามาบ้างแล้ว
หลังจากผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 73.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.90% จากไตรมาส 3/2565 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 41.74 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 943.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.30% จากไตรมาส 3/2565 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 544.71 ล้านบาท ส่งผลให้ในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 202.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.11% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 162.02 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้หลักในไตรมาส 3/2566 มาจากรายได้จากงานโครงการ 633.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94.98% จากไตรมาส 3/2565 เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ที่ให้บริการออกแบบ จัดหา และติดตั้งงานระบบสื่อสารโทรคมนาคม ระบบความปลอดภัยของสาธารณะ และระบบบริการดิจิทัล ซึ่งเริ่มดำเนินงานในปี 2566
ขณะที่มีรายได้จากงานบริการวิศวกรรมและบำรุงรักษา 302.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.36% เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ที่ดำเนินการในปี 2566 ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้จากการให้บริการพัฒนาทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสู่สังคมดิจิทัล
โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 3,200 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ ประมาณ 20% โดยตั้งเป้าความสามารถในการเข้าประมูลประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะเลือกเข้าร่วมประมูลโครงการที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ตั้งเป้าอย่างน้อยจะมีงานเข้ามาเติมพอร์ตประมาณ 30-40% ของการเข้าร่วมประมูล และในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท จากธุรกิจหลักด้านโทรคมนาคมที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการเข้าซื้อหุ้น บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ส่งผลให้บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ใน AIT ในสัดส่วน 24.38% ทำให้บริษัทมีโอกาสในการขยายธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจด้านโทรคมนาคม และไอซีที ให้เติบโตต่อเนื่องตามแผนที่ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจด้านนี้


