logo-pwa

เพิ่ม Post Today

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
posttoday

บอนด์ยิลด์ย่อต่อ หุ้นไทยแกว่งกรอบ 1405-1430 จุด เชียร์ 3 หุ้นเด่น

20 พฤศจิกายน 2566

2 โบรกสแกนหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบ 1405-1430 จุด Bond Yield ชะลอ ฟากกูรูเทคนิคเคาะกราฟชี้ถือหุ้นต่อหากไม่หลุด 1,400 จุด พร้อมเชียร์ 3 หุ้นเข้าตา

ราคาพลังงาน-บอนด์ยิลด์ย่อต่อ

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯวานนี้ ยังคงสะท้อนภาพรวมที่อ่อนแอลง นำโดย ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่ 2.31 แสนคน สูงสุดในรอบ 2 เดือน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ 2.18 แสนคน และสูงกว่าตลาดคาดที่ 2 . 2 แสนคน เช่นเดียวกับยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯต่อเนื่องที่พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี ที่ระดับ 1.86 ล้านคน

     นอกจากนี้ ยังพบว่าดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ เดือนตุลาคม ชะลอตัวลง -0.6%m-m จากเดือนก่อนที่ +0.1%m-m และแย่กว่าคาดที่ -0.4%y-y ตอกย้ำภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มแผ่วลงจากสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชะลอส่งผลให้โอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯจำกัดมากยิ่งขึ้น
ส่งผลให้ Dollar Index อ่อนค่าลงสู่ 104 จุด รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ของสหรัฐฯก็ย่อแรงสู่ระดับ 4.43% (-9.6 bps)

     ขณะที่ราคาน้ำมันดิบโลกยังคงปรับฐานต่อเนื่อง โดยวานนี้ Brent ปิดที่ 77.42 USD/bbl (-4.6%) เป็นแรงกดดันต่อเนื่องต่อกลุ่มพลังงานสำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดแกว่งทรงตัว โดยธีมการลงทุนหลักยังเน้นหุ้นโซนล่างที่ได้อานิสงส์เชิงบวกจาก Bond Yield ที่ ชะลอตัว ผสานหุ้นที่รับประโยชน์จากราคาพลังงานที่ปรับฐานต่อเนื่อง ดังนั้นแนะทยอยสะสมกลุ่มโรงไฟฟ้า

     ฝ่ายวิจัยคาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1405-1430 จุด ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯยังอ่อนแอ เพิ่มโอกาสการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นสหรัฐฯ แต่ราคาพลังงานย่อแรงอาจเข้ามาเป็นปัจจัยถ่วง ดังนั้นมุมมองกลยุทธ์แนะสะสมกลุ่มที่ได้อานิสงส์ราคาพลังงานย่อตัว และ US Bond Yield ปรับฐาน

     โดยวันนี้แนะนำ “GPSC” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 57 บาท ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาตอบรับปัจจัยลบจาก Policy Risk ไปค่อนข้างมาก โดยคาดกำไรไตรมาส 4/66 จะเติบโต y-y ลดลง q-q แต่ Valuation ก็เข้าสู่ระดับที่น่าดึงดูด (PE & PBV -1SD)

     อีกทั้งติดตามการปรับค่า Ft ในเดือน พ.ย.นี้ สำหรับใช้ในรอบบิล ม.ค.-เม.ย. 2024 ซึ่งมีโอกาสปรับขึ้น โดยระยะสั้นราคา Bond Yield ที่ชะลอตัว รวมทั้งราคาพลังงานที่ลดลง คาดเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม

น้ำมันเด้งดันหุ้นวันนี้

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์(17 พ.ย.66)ที่ผ่านมา SET Index เพิ่มขึ้น 0.44 จุด (+0.03%) ปิดที่ระดับ 1,416 จุด ตลาดไม่มีปัจจัย หนุนใหม่นักลงทุนหมุนกลุ่มเก็งกำไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากน้ำมันลง และสลับเข้าซื้อกลุ่ม Property Fund และกอง REIT ที่มีลักษณะผลตอบแทนใกล้เคียงกับพันธบัตร

     แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET แกว่งตัวกรอบ 1,405 - 1,430 จุด ภาวะตลาดได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ขึ้นหลังสหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรเรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซีย รวมถึงคาดการณ์ FED จะทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในกลางปีหน้า อย่างไรก็ ตามคาดว่าการฟื้นตัวจะอยู่ในกรอบจำกัดเนื่องจาก Fund flow ต่างชาติชะลอตัว รวมถึงแรงขายลดความเสี่ยงตามสัญญาณเทคนิค

     กราฟ SET เป็นช่วงกลับตัว W shape ยืนเหนือเส้น EMA 10 วัน พร้อมเครื่องมือ MACD + RSI ชี้ขึ้นซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มเชิงบวก อย่างไรก็ตาม Volume ที่ค่อนข้างบางจะกดดันให้ภาวะตลาดผันผวนง่าย ดังนั้นประเมินว่า SET จะพักตัวกรอบ 1,405 - 1,430 จุด จึงแนะนำซื้อเก็งกำไรในกรอบดังกล่าวโดยถือหุ้นต่อได้หากดัชนีไม่หลุด 1,400 จุด ส่วนระยะกลาง-ยาวถือหุ้นต่อเป้าหมาย 1,430 จุด ยกเว้นหลุด 1,400 จุดให้ลดพอร์ทลง

กลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy
     PTTEP BCP SPRC TOP ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น PSL TTA อานิสงส์ค่าระวางเรือดีดตัวขึ้น
     MTC SAWAD KTC AEONTS ASK อานิสงส์ Bond yield อ่อนตัวลง

หุ้นแนะนำวันนี้ 

     SPRC (ปิด 8.15 ซื้อ/เป้า 10.40 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบฟื้น ตัวแรง เช่นเดียวกับค่าการกลั่นที่ปรับขึ้นต่อเนื่องโดยสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าการ กลั่นปรับขึ้นสู่ระดับ 7$/bbl เทียบกับเมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค. ที่ 3$/bbl นับเป็นการปรับขึ้นแบบเท่าตัว

     และ CBG (ปิด 80 ซื้อ/เป้า 98.30 บาท) แนวโน้มรายได้และกำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 4Q23 จากการรับรู้รายได้ผลิตขวดและจัดจำหน่ายเบียร์เข้ามาเต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก ปีหน้าจะมีค่าใช้จ่ายค่าลิขสิทธ์ฟุตบอลคาราบาวคัพลดลงจากการแชร์ค่าใช้จ่ายร่วมกับคุณ เสถี

ประเด็นสำคัญวันนี้

     (+) น้ำมันดิบฟื้นตัวแรงจากข่าวสหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรเรือขนส่งน้ำมัน จากรัสเซียเพิ่ม: เมื่อวันศุกร์ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.99$ (+4.1%) ปิดที่ 75.89$/bbl หลังมีรายงานว่าสหรัฐบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรบริษัทเดินเรือและ เรือขนส่งน้ำมันของรัสเซียที่ขายน้ำมันเกินกว่าเพดานที่กลุ่ม G7 ไว้ที่ 60$/bbl ประเด็นนี้คาดว่าจะหนุนให้หุ้นในกลุ่มน้ำมันโรงกลั่นที่ลดลงเมื่อวันศุกร์กลับมาฟื้นตัว

     (+/-) วันนี้ติดตามสภาพัฒน์ประกาศ GDP 3Q23 ตลาดยังมองบวกคาด
ขยายตัว 2%: Bloomberg Consensus คาด GDP 3Q23 ของไทยจะขยายตัว 2% โตขึ้นจาก 1.8% ใน 2Q23 สอดคล้องกับฝ่ายวิจัยของธนาคารกรุงศรีฯ คาด
ว่าจะขยายตัว 2% เช่นกันหากตัวเลขออกมาตามคาดจะเป็นบวกอ่อนๆ ต่อ ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นบ้านเรา ตรงกันข้ามหากตัวเลขต่ำคาดหรือต่ำกว่า
ระดับ 1.8% จะเป็นลบต่อภาพรวมโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร

     (+) พรุ่งนี้ประชุม ครม. ลุ้นเห็นชอบมาตรการ e-Refund และ กองทุน Thai ESG Fund: เราคาดว่าในสัปดาห์นี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำรายละเอียดและข้อสรุปของโครงการ e-Refund และ กองทุน Thai ESG Fund (สัปดาห์ที่แล้วหารือระหว่างหน่วยงาน)เข้าที่ประชุม ครม.เพื่ออนุมัติและบังคับใช้เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มที่อยู่ในดัชนี
SETESG (193 หลักทรัพย์)