posttoday

วัดผลงานหุ้นกลุ่มมือถือ ADVANC-TRUE ไตรมาส 3/66 และ 9 เดือนแรก ปี 66

19 พฤศจิกายน 2566

เทียบฟอร์มหุ้น 2 ค่ายมือถือ ไตรมาส 3/66 และ 9 เดือนแรก ปี 66 พบ ADVANC กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น และ TRUE ขาดทุนสุทธิลดลง โบรกฯ ประเมินแนวโน้มไตรมาส 4/66 กำไรหลัก ADVANC โต 12% แตะ 7,636 ล้านบาท ขณะที่ TRUE มีผลขาดทุนหลักเพิ่มขึ้นเป็น 2,200 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/2566 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 ได้ประกาศออกมาครบทุกกลุ่มทุกบริษัทเรียบร้อยแล้ว  

โดยกลุ่มสื่อสาร (เฉพาะกลุ่มมือถือ) ซึ่ง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 30 ต.ค.2566 และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE  ได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2566  
 
ดังนั้น “โพสต์ทูเดย์” ได้รวบรวมผลการดำเนินงานของทั้ง 2 ค่ายมือถือ มาเปรียบเทียบกันให้เห็นถึงรายได้ กำไรสุทธิ ลูกค้ามือถือ ลูกค้า 5G ลูกค้าเน็ตบ้าน งบลงทุน และมาร์เก็ตแคป รวมทั้งแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2566  

วัดผลงานหุ้นกลุ่มมือถือ ADVANC-TRUE ไตรมาส 3/66 และ 9 เดือนแรก ปี 66

รายได้ไตรมาส 3/2566 

  • ADVANC มีรายได้รวมอยู่ที่ 46,069 ล้านบาท ลดลง 0.4% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 2.9% จากไตรมาสก่อน 
  • TRUE มีรายได้รวมอยู่ที่ 50,137 ล้านบาท ลดลง 4.1% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 2.4% จากไตรมาสก่อน    

รายได้ 9 เดือนแรก ปี 2566 

  • ADVANC รายได้รวมอยู่ที่ 137,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน 
  • TRUE มีรายได้รวมอยู่ที่ 119,318 ล้านบาท    

กำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 

  • ADVANC มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อน
  • TRUE มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 1,598 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากไตรมาสก่อน ที่มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 2,320 ล้านบาท และจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 44 ล้านบาท   

กำไรสุทธิ 9 เดือนแรก ปี 2566

  • ADVANC มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 22,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันปีก่อน 
  • TRUE มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 3,302 ล้านบาท  

ลูกค้ามือถือ

  • ADVANC มีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่รวม 44.4 ล้านเลขหมาย โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการ 5G กว่า 8.5 ล้านราย
  • TRUE มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 51.4 ล้านหมายเลข โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการ 5G กว่า 9.4 ล้านราย

ลูกค้าเน็ตบ้าน

  • ADVANC มีจำนวนลูกค้าอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูง 2.38 ล้านราย 
  • TRUE มีผู้ใช้บริการในธุรกิจออนไลน์ 3.8 ล้านราย  

งบลงทุน

  • ADVANC วางงบประมาณการลงทุน (ไม่รวมคลื่นความถี่) 27,000-30,000 ล้านบาท 
  • TRUE เงินลงทุน หรือ CAPEX ประมาณการณ์ไว้ที่ 25,000-30,000 ล้านบาท

มาร์เก็ตแคป 

  • ADVANC : 648,377.72 ล้านบาท (ณ วันที่ 17 พ.ย.2566)  
  • TRUE : 210,767.81 ล้านบาท (ณ วันที่ 17 พ.ย.2566)

แนวโน้มไตรมาส 4/2566 

บล.บัวหลวง ประเมินว่า กำไรหลักของ ADVANC ในไตรมาส 4/2566 ที่ 7,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%YoY และเพิ่มขึ้น 1%QoQ หนุนโดยรายได้บริการหลักที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนขายที่ลดลง และกำไรจากการลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF และ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB 

ทั้งนี้ คาดรายได้บริการหลักในไตรมาส 4/2566 ที่ 35,109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%YoY (รายได้จากธุรกิจบรอดแบนด์บ้านที่เพิ่มขึ้น) และ 3%QoQ (ปัจจัยด้านฤดูกาล) 

ขณะเดียวกัน ปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 2566 ขึ้น 2% มาอยู่ที่ 29,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%YoY และปรับราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2567 ขึ้น จาก 269 บาท มาอยู่ที่ 270 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงจากพื้นฐานแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีและมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ โดยมี EV/EBITDA เพียง 7.7 เท่า 

ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประเมินว่า ผลขาดทุนหลักของ TRUE จะเพิ่มขึ้นเป็น 2,200 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2566 จาก 1,900 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2566 เนื่องจากคาดว่าค่าใช้จ่ายการรวมกิจการเพิ่มขึ้นเป็น 1,900 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2566 จาก 400 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2566 จากการปรับปรุงองค์กรให้ทันสมัยและการลดจำนวนเสาสัญญาณ โดยคาดว่ากำไรรายไตรมาสจะดีขึ้นในปี 2567 เนื่องจากต้นทุนการรวมกิจการที่ทรงตัวที่ 1,000 ล้านบาท/ไตรมาส

นอกจากนี้ เพิ่มประมาณการผลขาดทุนหลักในปี 2567 จาก 2,270 ล้านบาท เป็น 3,119 ล้านบาท หลังจากเพิ่มอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (effective interest rate) จาก 4.0% เป็น 4.2% (สูงกว่าต้นทุนดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.7% ในการขายหุ้นกู้รอบล่าสุด) เชื่อว่าTRUE จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อดึงดูดนักลงทุนหุ้นกู้และธนาคารในปีหน้า หลังจากที่ออกหุ้นกู้ได้มูลค่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งพลาดเป้าหมายที่ 18,000 ล้านบาท ในเดือน พ.ย.2566 โดยต้นทุนหนี้ที่สูงขึ้น 4.2% ยังส่งผลให้ WACC สูงขึ้น และราคาเป้าหมายอิงวิธี DCF ลดลงเหลือ 7.50 บาท จาก 8.60 บาท แนะนำ “ซื้อ”  

ข่าวล่าสุด

เกาะติดเลือกตั้ง69 เจาะสนามกทม.เกมชี้ชะตา 4 พรรคการเมืองใหญ่