posttoday

TRUE ร่วง 7.44% เซ่นกระแสข่าวยอดขายหุ้นกู้พลาดเป้า-คาดงบ Q3/66 ไม่สดใส

08 พฤศจิกายน 2566

ราคาหุ้น TRUE ร่วง 7.44% หลังมีกระแสข่าวขายหุ้นกู้ไม่ครบตามที่ออกและเสนอขาย 14,000 ล้านบาท ขายได้เพียง 12,000 ล้านบาท นักลงทุนกังวลกระทบสภาพคล่อง บวกกับคาดงบไตรมาส 3/66 ยังขาดทุน โบรกฯ ชี้สภาพคล่องไม่น่ากังวล แนะ “ซื้อ” เป้า 9.28 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE วันนี้ (8 พ.ย.) ล่าสุด เวลา 14.45 น. ลดลง 7.44% หรือลดลง 0.45 บาท มาอยู่ที่ 5.60 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,025.07 ล้านบาท หลังจากมีกระแสข่าวยอดขายหุ้นกู้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ประกอบกับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 ซึ่งจะมีการประกาศงบในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย.) ไม่สดใส 

TRUE ร่วง 7.44% เซ่นกระแสข่าวยอดขายหุ้นกู้พลาดเป้า-คาดงบ Q3/66 ไม่สดใส

นายพิสุทธิ์ งามวิจิตรวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ราคาหุ้น TRUE ที่ปรับตัวลง คาดมาจากกระแสข่าว TRUE ขายหุ้นกู้ไม่ครบจำนวนที่ออกและเสนอขาย 14,000 ล้านบาท โดยขายได้ที่ราว 12,000 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าอาจกระทบต่อสภาพคล่องของ TRUE

“สภาพคล่องของ TRUE ยังห่างไกลจากประเด็นที่น่ากังวล ประการแรก เราไม่คาดว่าตลาดการเงินในประเทศจะเผชิญกับวิกฤติสภาพคล่องในเร็วๆ นี้ ประการที่สอง TRUE มีทางเลือกทางการเงินอื่น โดยมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้ใช้กับสถาบันการเงิน จำนวน 2,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 8,500 ล้านบาท อีกทั้งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ TRUE ได้แก่ กลุ่มซีพี เทเลนอร์ และไชน่า โมบาย ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนธุรกิจของ TRUE” นายพิสุทธิ์ กล่าว 

นอกจากนี้ ตลาดอาจมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการจองซื้อหุ้นกู้ เป็นผลจาก 1) ภาวะตลาดการเงินที่ตึงตัวท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น 2) ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนสั่นคลอนจากการควบรวมกิจการระหว่าง DTAC และ TRUE หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษากลับคำสั่งยกฟ้องของศาลปกครองกลาง และ 3) คำตัดสินที่ไม่เอื้ออำนวยของคณะอนุญาโตตุลาการในข้อพิพาทเรื่องค่าธรรมเนียมการเชื่อมต่อโครงข่ายระหว่าง TRUE และ NT 

อย่างไรก็ตาม มองว่าประเด็นดังกล่าวไม่ได้มีนัยสำคัญ เนื่องจากวงเงินที่ขายได้ขาดไปเพียง 2,000 ล้านบาท เท่านั้น และบริษัทมีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์อยู่แล้ว ดังนั้น ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 9.28 บาท/หุ้น

ทั้งนี้ TRUE เสนอขายหุ้นกู้ 5 ชุด ให้แก่ผู้ลงทุนเป็นการทั่วไป (Public Offering) ประกอบด้วย 

1. หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.15% ต่อปี
2. หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.75% ต่อปี
3. หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10% ต่อปี
4. หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.35% ต่อปี
5. หุ้นกู้ชุดที่ 5 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.60% ต่อปี (ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ได้เมื่อหุ้นกู้ครบปีที่ 5)

กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง 3.15-4.60% ต่อปี ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จาก ทริสเรทติ้ง เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 2-3 และ 6 พ.ย.2566 โดยมี ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ กรุงศรีอยุธยา ซีไอเอ็มบี ไทย และยู โอบี เป็นผู้จัดจำหน่าย รวมถึงการขายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้

โดยการออกหุ้นกู้ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ในการชำระคืนหนี้หุ้นกู้และ/หรือเงินกู้ยืมที่จะครบกำหนด ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการเติบโตของบริษัท

ขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 ยังคงขาดทุนต่อเนื่อง โดย บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า TRUE จะมีผลขาดทุนปกติงวดไตรมาส 3/2566 ที่ 2,533 ล้านบาท แย่กว่างวดไตรมาส 1/2566 ที่มีผลขาดทุนปกติ 1,652 ล้านบาท และงวดไตรมาส 2/2566 ที่มีขาดทุนปกติ 2,376 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานที่แย่ลงต่อเนื่อง เป็นเพราะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการควบรวมกับดีแทค ขณะที่รายได้ค่อนข้างทรงตัวในช่วง low season 

แม้เชื่อว่าการดำเนินงานในงวดไตรมาส 4/2566 จะดีขึ้น จากผลบวกของฤดูกาลที่จะหนุนให้รายได้ฟื้นตัวขึ้นในทุกธุรกิจ และราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 8.50 บาท แต่คงคำแนะนำ “Neutral” เพราะ 1) ระยะสั้นราคาหุ้น TRUE อาจถูกกดดันจากงบไตรมาส 3/2566 ที่คาดจะออกมาแย่ลง และ 2) Synergy จากการควบรวมที่มาช้ากว่าที่ตลาดคาด และจะทำให้ภาพการดำเนินงานใน 1-2 ปีข้างหน้า จะยังคงขาดทุนต่อ

ข่าวล่าสุด

ยุบสภาฯ สะดุดงบ! “หวยเกษียณ” กอช.ชี้ อาจขายไม่ทันไตรมาส 1 ปี 69