posttoday

1410 ต้องยืนไหว! จังหวะสะสมหุ้นฟื้นกลับมาแกร่ง

06 พฤศจิกายน 2566

โบรกมอง Digital Wallet ชัด 10 พ.ย.นี้กระตุ้นเศรษฐกิจ หนุน 5หุ้นรับอานิสงส์ ฟากกูรูเคาะกราฟหุ้นไทยพรุ่งนี้ยืน 1410 จุดได้มีลุ้นไปต่อ ตัดขาดทุนหากหลุด 1390 จุด

     ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(6 พ.ย.66) อยู่ที่ 1,417.21 จุด ลดลง 2.55 จุด คิดเป็น -0.18% มูลค่าการซื้อขาย 42,990.65 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,431.51 จุด และลดลงต่ำสุด 1,417.21 จุด 

5 หุ้นซื้อขายสูงสุด ดังนี้

     1. PTTEP ปิดที่ 163.50 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,821.89 ลบ.

     2. ADVANC ปิดที่ 222 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,503.23 ลบ.

     3. CPALL ปิดที่ 56.25 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,417.21 ลบ.

     4. KBANK ปิดที่ 132 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,339.39 ลบ.

     5. BDMS ปิดที่ 26.50 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,314.99 ลบ.

หวังดิจิทัลวอลเล็ต

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ในวันที่ 7-9 พ.ย.นี้จะมีการประมูลพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์อาจหนุน Bond Yield ที่ปรับลง 3 วัน 0.39 bps มีการขยับขึ้น อาจเป็น Sentiment ลบสั้นๆแต่ทิศทาง Dow Jones มีโอกาสดีด แนวต้าน 34600 จุด ประเมิน SET Index แกว่งออกข้าง 1412 - 1430 จุด

     ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI) เดือน ต.ค. หดตัวครั้งแรกในรอบ 25 เดือน กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปหดตัว 0.31%YoY แตะ 107.72 จากการลดลงของราคาพลังงาน-สินค้าอุปโภคบริโภค ตามมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.66%YoY แตะ 104.46

     ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯ คาด Digital Wallet ที่จะชัดเจน 10 พ.ย.นี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หุ้นได้ประโยชน์ CPALL, CRC, CPN, CBG และ SAPPE 

ยืน 1410 ได้ไปต่อ

     ฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ทางเทคนิค บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทย ภาพในราย 1 ชั่วโมง ดัชนีขึ้นมาชนแนวต้านเส้น EMA200 ที่แนวต้าน 1430 จุด เส้น RSI ในภาพย่อยเกิดสัญญาณ Bearish Divergence เช่นเดียวกับดัชนีที่ลงมาปิด Gap ทำให้ระยะสั้นดัชนีอ่อนตัวลงมาทดสอบ EMA20 

1410 ต้องยืนไหว! จังหวะสะสมหุ้นฟื้นกลับมาแกร่ง      ขณะที่ MACD ตัดลงต่ำกว่าเส้น Signal และมีโอกาสที่ดัชนีจะลงมาทดสอบแนวรับ 1410 จุด หากยืนได้ลุ้นขึ้นต่อ

     ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.66) ทางฝ่ายฯแนะนำให้เริ่มทยอยซื้อสะสมหุ้นที่มีสัญญาณกลับตัวยืนได้ไม่หลุดแนวรับ ตัดขาดทุนหากดัชนียืน 1,390จุดไม่ได้

     หุ้น BA ภาพรายวัน ราคาพลิกกลับมายืนเหนือเส้น EMA 200 แล้วยกราคาทำ Higher High และ Higher Low ขณะที่ MACD ตัดขึ้นเส้น Signal จากด้านล่าง หนุนการรีบาวด์ขึ้นไปได้สั้นๆ จากแท่งเทียนที่เป็น Bullish Bar ติดต่อกัน 3 แท่ง อาจเห็นการย่อมาที่แนวรับ แล้วค่อยๆปรับตัวขึ้น โดยมองแนวต้านถัดไปอยู่ที่ High ก่อนหน้า 15.80 บาท และ 16.30 บาท กลยุทธ์การลงทุน Buy on Dip ที่แนวรับ 14.70 บาท

     หุ้น SCGP ภาพรายวัน ราคา Breakout เส้น Trend Line และ EMA5 กับ EMA20 ขึ้นมา โดยราคาทำ Higher High และ Higher Low สูงขึ้น แสดงถึงการกลับตัวในระยะสั้นของราคา ขณะที่ MACD ตัดขึ้นเส้น Signal จากแดนลบ และจ่อมากกว่าศูนย์ ด้านราคาอาจไปชนแนวต้าน High ก่อนหน้าที่ 39 - 40 บาท กลยุทธ์การลงทุน Buy on Dip ที่แนวรับ 36.50 บาท

     หุ้น KAMART ภาพรายวันราคาได้ Breakout เส้น Trend Line ขึ้นมา หลังเกิดแท่งเทียน Bullish Harami ขณะที่เส้น MACD ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal และ RSI กลับมามีค่ามากกว่า 50 หรือยืนเหนือ Bullish Zone ได้ ส่วนราคาได้ทำทรง Inside Bar Breakout ระยะสั้นมอง High ก่อนหน้าที่ 12.50 บาท กลยุทธ์การลงทุน Buy on Breakout เส้น Trend Line ที่ 11.40 บาท