posttoday

ทิ้งดิ่ง! TRUE ร่วงรับอนุญาโตฯสั่งชำระค่าเชื่อมต่อโครงข่าย 7พันลบ.

31 ตุลาคม 2566

"TRUE" เตรียมยื่นคำร้องศาลปกครองกลางถอนคําชี้ขาดอนุญาโตตุลาการสั่งให้ชำระผลประโยชน์ตอบแทนค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม (IC) พร้อมภาษีและเบี้ยปรับรวม 7,066.96 ล้านบาทให้ "โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT)"

     ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น TRUE วันนี้(31 ต.ค. 2566) เปิดร่วงแตะ 6 บาท ก่อนปรับตัวลดลง ล่าสุด ณ เวลา 10.32 น. อยู่ที่ 5.90 บาท ลดลง 0.65 บาท คิดเป็น -9.92% โดยราคาขึ้นไปสูงสุด 6.05 บาท และลดลงต่ำสุด 5.75 บาท 

 

เตรียมยื่นศาลปกครองกลาง

     นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน(ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ TRUE แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2562 บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จํากัด (มหาชน) หรือ NT (เดิม บริษัท กสท โทรคมนาคม จํากัด (มหาชน) ได้ยื่นคําเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ เรียกร้องให้ TRUE (เดิม บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ DTAC) ชําระผลประโยชน์ตอบแทนส่วนเพิ่มสําหรับรายได้ค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม (IC) สําหรับดําเนินการที่ 21-27 เป็นจํานวนประมาณ 15,879 ล้านบาท พร้อมทั้งเบี้ยปรับ โดยบริษัทฯ ได้ยื่นคําคัดค้านต่ออนุญาโตตุลาการดังที่ได้เปิดเผยข้อมูลไว้แล้วในรายงานประจําปี 2565 (แบบ 56-1 One Report)

     บริษัทฯ ขอแจ้งความคืบหน้าที่สําคัญว่า ในวันนี้ คณะอนุญาโตตุลาการได้มีคําชี้ขาดให้บริษัทฯ ชําระผลประโยชน์ตอบแทนส่วนเพิ่มจากรายได้ค่า IC (ส่วนต่างของผลประโยชน์ตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม หรือ Net IC) พร้อมภาษีมูลค่าเพิ่มและเบี้ยปรับ เป็นจํานวนเงิน 7,066.96 ล้านบาท และเบี้ยปรับในอัตรา 15% ต่อปี จากเงินจํานวน 4,136.87 ล้านบาท (Net IC ไม่รวมเบี้ยปรับและ ภาษีมูลค่าเพิ่ม) นับถัดจากวันยื่นคําเสนอข้อพิพาท (22 ตุลาคม 2562) จนกว่าจะชําระเสร็จให้แก่ NT

     ทั้งนี้ คดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด ซึ่งบริษัทฯได้พิจารณาแล้วไม่เห็นพ้องกับคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ และ บริษัทฯจะยื่นคําร้องขอเพิกถอนคําชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่อศาลปกครองกลาง โดยหากมีความคืบหน้าที่สําคัญเกี่ยวกับคดีนี้เป็นประการใด บริษัทฯจะแจ้งให้ทราบต่อไป

     บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า  TRUE (Trading Buy, TP*8.1) โดย 1. ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น ให้รับคำฟ้องคดีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงาน กสทช. ให้เพิกถอนมติ กสทช.ในการประชุมนัดพิเศษครั้งที่ 5/2565 วันที่ 20 ตุลาคม 2022 ที่รับทราบเรื่องการควบรวมธุรกิจระหว่างTRUE และ DTAC 

     2. TRUE แจ้งคำตัดสินในชั้นอนุญาโตตุลาการต่อ SET ว่า คณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดข้อพิพาทเกี่ยวกับรายได้ค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม (Net IC) กับ NT (เดิม CAT) ในช่วงปีสัมปทานปีที่ 21-27 โดยชี้ขาด TRUE (เดิม DTAC)  ชำระผลประโยชน์ตอบแทนส่วนเพิ่มจากรายได้ค่า IC (ส่วนต่างของผลประโยชน์ตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม หรือ Net IC) พร้อมภาษีมูลค่าเพิ่มและเบี้ยปรับ เป็นจำนวนเงิน 7.1 พันลบ.และเบี้ยปรับในอัตรา 15% ต่อปี จากเงินจำนวน 4.1 พันลบ. 

     ฝ่ายวิเคราะห์ฯมอง “ลบ” เชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้น TRUE ในระยะสั้นจากข่าว i) ข้อพิพาทมติควบรวมเพิ่ม หลังก่อนหน้านี้ช่วงปลายปี (พ.ย.22) ทางสภาองค์กรของผู้บริโภคฟ้องกสทช.และสำนักงานกสทช.ในประเด็นคล้ายมาแล้วพร้อมขอให้ศาลออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว แต่ศาลมีคำสั่งยกคำร้องไม่ทุเลา จึงเหลือเพียงคดีหลัก (คดีดำหมายเลข 2421/2565) ที่รับพิจารณา (ตามบทวิเคราะห์กลุ่มมือถือวันที่ 13/12/2022)

     และ ii) ผลชี้ขาดอนุญาโตให้ TRUE ต้องจ่าย 7.1 พันลบ.พร้อมเบี้ยปรับ 15%ต่อปี เพื่อชดเชย IC ในช่วงปีสัมปทานที่ 21-27 ของ DTAC เดิม เชิงปัจจัยพื้นฐานมองว่าไม่ใช่เรื่องใหม่และคาดต้องใช้เวลานานจึงได้ข้อสรุป เนื่องจากทั้ง 2 ข่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องเข้าสู่กระบวนการทางศาลทั้งศาลปกครองกลางและสามารถอุทรณ์ต่อไปยังศาลปกครองสูงสุดได้อีก  ดังนั้น เราคาดต้องใช้เวลาหลายปี จึงจะได้ข้อยุติ ทำให้ยังไม่มีผลต่อการดำเนินงานของ TRUE ในปัจจุบันและประเมินเร็วเกินไปที่จะให้น้ำหนักลบต่อประเด็นทั้งสองเรื่อง 

     อย่างไรก็ตาม Outlook ช่วงสั้นยังไม่สดใส เราคงมองแนวโน้มการดำเนินงานช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้าถูกกดดันจาก Integration cost (ค่าใช้จ่ายรวมกิจการ) โดยสำหรับ 3Q23F คาดขาดทุนปกติเป็น -2.7 พันลบ. แย่ลงจาก -2.4 พันลบ.ใน 2Q23 เนื่องจากจะรับรู้ Integration cost มากขึ้น คงแนะนำเพียง Trading Buy โดยคงใช้ราคาเป้าหมายปี 24F ที่ 8.1 บ. เนื่องจากช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้าจะยังถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”