SET ฟื้นตัวจำกัด ปรับลงได้ต่อ หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง-สงครามยังไม่ยุติ
SET ฟื้นตัวจำกัด ปรับลงได้ต่อ รับปัจจัยกดดัน หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี พุ่งแตะ 5% และสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังไม่ยุติ กลยุทธ์การลงทุน “โอกาสชื้อลงทุน” แนะนำ AOT และ BEM
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET ได้รับปัจจัยกดดัน หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 5% และสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังไม่ยุติ กดดันดัชนีให้ปรับตัวลง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,412 และ 1,406 จุด ตามลำดับ ด้านการฟื้นตัถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,430 และ 1,438 จุด
ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวหรือรีบาวด์ได้ โดยแม้ตลาดจะยังกังวลภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในอิสราเอล แต่ยังได้แรงหนุนจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาหนุนยุติปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐชะลอลง และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า (เงินบาทกลับมาแข็งค่า)
อีกทั้งยังมีความคาดหวังจากจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินรวม 1 ล้านล้านหยวน และคาดยังมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาช่วยหนุนดัชนี กลยุทธ์ลงทุนจึงมองเป็น “โอกาสชื้อลงทุน” ในธีมปัจจัยเฉพาะตัวดังนี้
1) หุ้นเก็งกำไร ซึ่งคาดได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับขึ้นหรือทรงตัวในระดับสูง หลังกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลางกระทบอุปทานน้ำมัน เลือก PTTEP BCP
2) หุ้น Undervalued ซึ่งราคาปรับลงมาจนเข้าเขต Oversold และยังมีพื้นฐานดี อีกทั้ง Valuation ไม่แพง (PER และPBV 23F ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) เลือก CPALL TOP CPN BDMS MINT
3) หุ้นที่มี Earning Growth แข็งแรง (กำไรมีโมเมนตัมดีต่อเนื่อง) และตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันราคาหุ้นสามารถชนะตลาดได้ เลือก AMATA BBL KTB BCH KLINIQ
ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับ ผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังชื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MIC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ AOT ได้ประโยชน์จากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยวไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้น (+YoY, +QoQ) ในไตรมาส 4/2566-ไตรมาส 1/2567 ขณะที่ช่วงสั้นมองราคาหุ้นปรับลงสะท้อนปัจจัยลบแล้ว อีกทั้งหากเทียบ YTD ราคาหุ้นยังตามหลังหุ้นอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยว
BEM คาดกำไรไตรมาส 3/2566 จะปรับตัวดีขึ้น QoQ และ YoY ตามโมเมนตัมปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ ทั้งปี 2566 คาดมีกำไรสุทธิที่ 3.9 พันล้านบาท เติบโตเด่น 60.6%YoY


