KTC ส่งไม้ต่อทีมบริหารรุ่นใหม่ กางแผนปี 67 รุก 3 ธุรกิจสินเชื่อ ดันกำไรนิวไฮ
KTC ส่งไม้ต่อ “ซีอีโอ” คนใหม่ พร้อมกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ เปิดแผนธุรกิจปี 67 เดินหน้าทำกำไรนิวไฮต่อเนื่อง ลุยเติบโตทั้ง 3 สินเชื่อ และรักษาพอร์ตสินเชื่อทุกผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า ตามที่เคทีซีได้มีการแต่งตั้ง นางพิทยา วรปัญญาสกุล ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารใหม่ มีผลวันที่ 1 ม.ค.2567 รวมทั้งทีมผู้บริหารระดับสูงในสายงานต่างๆ ซึ่งเป็นคนที่ร่วมงานกับบริษัทมายาวนาน มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูงในงาน เข้าใจในวัฒนธรรมองค์กร จึงทำให้มั่นใจได้ว่าทีมบริหารชุดใหม่นี้ จะสามารถส่งต่อและสานต่อหน้าที่และภารกิจสำคัญของเคทีซีให้สำเร็จได้อย่างราบรื่นต่อเนื่อง
นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส กลุ่มงานการตลาดและสื่อสารองค์กร กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจเคทีซีในปี 2567 ยังคงสานต่อวิสัยทัศน์และความสำเร็จที่ผ่านมา โดยจะทำธุรกิจให้มีผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และสานต่อวัฒนธรรมองค์กรที่ดีของเคทีซี ซึ่งจะเป็นข้อได้เปรียบในการทำธุรกิจ รวมทั้งการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ โดยไม่ปิดกั้นการ Joint Venture
ทั้งนี้ เคทีซียังมองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อทั้ง 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อ“เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” เพราะเชื่อว่ายังมีผู้บริโภคที่ต้องการสินเชื่ออยู่อีกมาก
โดยเคทีซีจะเน้นขยายฐานสมาชิกไปยังผู้ที่มีความต้องการสินเชื่อเป็นหลัก และไม่ชักจูงให้สมาชิกมีภาระหนี้ที่เกินความจำเป็น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ในส่วนของธุรกิจบัตรเครดิตเคทีซี ซึ่งมีการเติบโตที่ดีมาตลอดปี 2566 เชื่อมั่นว่ายังสามารถที่จะขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ต่อไป
สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลจะยังเติบโตได้จากฐานลูกค้าใหม่และพอร์ตปัจจุบัน ซึ่งเป็นพอร์ตที่นับว่ามีคุณภาพ
ส่วนของสินเชื่อ “เคทีซีพี่เบิ้ม รถแลกเงิน” เป็นผลิตภัณฑ์ที่เคทีซีเห็นศักยภาพที่จะเติบโตได้มากในปี 2567 จากความร่วมมือในการขยายฐานสมาชิกกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB
ขณะเดียวกัน ธุรกิจ MAAI by KTC (มาย บายเคทีซี) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ให้บริการระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management-CRM) และแพลทฟอร์มลอยัลตี้แบบครบวงจรแก่ผู้ประกอบธุรกิจ(Loyalty Platform) ที่เคทีซีบ่มเพาะมาระยะหนึ่ง ถือเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่เคทีซีมุ่งจะสร้างการเติบโตในปี 2567
นางพิทยา กล่าวว่า การนำพาธุรกิจเคทีซีต่อจากนี้จะตั้งอยู่บน 3 องค์ประกอบ คือ คน-กระบวนการ-เทคโนโลยี เริ่มจาก คน ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญที่เราดูแลและให้ความสำคัญมาตลอด ในปี 2567 จะมุ่งพัฒนาและส่งเสริมความเป็นผู้นำของผู้บริหารรุ่นใหม่ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาผู้บริหารระดับกลาง โดยเน้นการสร้างความเป็นผู้นำเพื่อจะร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
สำหรับกระบวนการจะให้ความสำคัญกับการออกแบบและปรับกระบวนการทำงานให้กระชับรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน โดยยึดสมาชิกเป็นศูนย์กลาง มีความเข้าใจความต้องการของสมาชิกและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพื่อทำการตลาด พร้อมทั้งปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของเคทีซี
ขณะที่เรื่องเทคโนโลยี เคทีซียังคงให้ความสำคัญกับการใช้งานคลาวด์ (Cloud Computing) ในโครงสร้างระบบทางด้านไอที รวมถึงการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูล ซึ่งจะมีการใช้งานมากยิ่งขึ้น และจะส่งผลดีในเรื่องความปลอดภัยความเสถียร ยืดหยุ่น คล่องตัว รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในด้านต้นทุนการดำเนินงานและคุณภาพการให้บริการ
นอกจากนี้ เคทีซียังเล็งเห็นโอกาสในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาเพิ่มศักยภาพขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงวิธีการที่ปัจจุบันเคทีซีได้ใช้ AI อยู่แล้วให้ใช้งานได้ดีขึ้น หรือการเริ่มศึกษาทดลองและใช้Generative AI ในกระบวนการทำงานต่างๆ ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อสมาชิก หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อ
ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 15%
นางสาวประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต KTC กล่าวว่า ในปี 2567 ธุรกิจบัตรเครดิตเคทีซี ตั้งเป้ามีสมาชิกบัตรใหม่เพิ่มขึ้น 230,000 ใบ จากปัจจุบันฐานบัตรเครดิตอยู่ที่ 2.6 ล้านใบ และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ เติบโต 15% จากปี 2566
“ปี 2566 ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ เติบโต 10% ปัจจุบันเติบโต 13-14% คาดว่าสิ้นปี 2566 จะเติบโต 13-14% จากปีก่อน” นางสาวประณยา กล่าว
โดยกลยุทธ์ในปี 2567 จะเป็นปีที่ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยสำหรับสมาชิกในทุกขั้นตอนของการใช้บริการบัตรเครดิตเคทีซี ด้วยการพัฒนาแอปฯ “KTC Mobile” ต่อเนื่อง เพื่อให้สมาชิกทำธุรกรรมต่างๆ เองได้อย่างรวดเร็วปลอดภัย
รวมทั้งต่อยอดผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต “เคทีซี ดิจิทัล” (KTC DIGITAL CREDIT CARD) ให้ตอบโจทย์การใช้งานออนไลน์มากขึ้น ด้วยการพัฒนาช่องทางสมัครบัตรออนไลน์ E-Application เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนออนไลน์ ให้สามารถสมัครได้สะดวกด้วยตนเองและยังปลอดภัยเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล
สำหรับการบริหารพอร์ตสมาชิกบัตรเครดิตจะทำงานแบบเชิงรุก เพื่อให้สมาชิกมีการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง และเป็นพอร์ตลูกค้าที่มีคุณภาพ โดยใช้ระบบมาร์เก็ตติ้ง ออโตเมชัน (Marketing Automation) เป็นเครื่องมือการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าแบบเซ็กเมนท์ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม เคทีซียังคงเน้นทำการตลาดในกลุ่มลูกค้าใหม่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีรายได้ต่อเดือน 50,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ทำให้การใช้จ่ายโดยรวมของเราเติบโตได้ดี
อีกทั้งจะเดินหน้าสร้างคุณค่าร่วม (Co-creating value) กับพันธมิตรหลากหลายธุรกิจ ทั่วประเทศกว่า 2,000 รายเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกบัตร และหาโอกาสใหม่ๆ ในการต่อยอดธุรกิจด้วยกันในทุกมิติอย่างยั่งยืนโดยมีคะแนน KTC FOREVER เป็นฟีเจอร์หลักในการให้สิทธิประโยชน์กับลูกค้า
สินเชื่อส่วนบุคคลปักธงโต 5%นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อบุคคล KTC กล่าวว่า ในปี 2567 สินเชื่อส่วนบุคคล ตั้งเป้าเติบโต 5% จาก ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 29,000 ล้านบาท และจำนวนสมาชิกบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” เพิ่มขึ้น 100,000 ราย ด้วยแผนกลยุทธ์หลัก 2 เรื่อง คือ 1. สรรหาสมาชิกใหม่ที่มีคุณภาพ เน้นการรับสมัครผ่านช่องทางสมัครสินเชื่อออนไลน์ E-Application เพื่อให้สมาชิกทำรายการได้ด้วยตนเอง และรู้ผลอนุมัติแบบเรียลไทม์ พร้อมรับเงินโอนเข้าบัญชีทันที รวมทั้งจะพัฒนากระบวนการรับสมัครผ่านเว็บไซต์ของเคทีซีและของพาร์ทเนอร์
2. สร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้บัตรกดเงินสดให้กับสมาชิก “เคทีซี พราว” กว่า 700,000 ราย ไม่ว่าจะเป็นการ“รูด โอน กด ผ่อน” โดยจะเพิ่มฟังก์ชันการเบิกถอนและใช้วงเงินผ่านแอปฯ “KTC Mobile” ให้รองรับการโอนเงินไปยังบัญชีพร้อมเพย์ เพิ่มเติมจากการโอนเงินเข้าบัญชีได้หลากหลายธนาคารในปัจจุบัน รวมทั้งจะยังคงจัดแคมเปญ“เคลียร์หนี้เกลี้ยง” ที่โดนใจสมาชิกมาตลอด 10 กว่าปี เพื่อส่งเสริมและตอบแทนให้ผู้ที่ใช้สินเชื่ออย่างมีวินัย ได้รับสิทธิ์ลุ้นเคลียร์หนี้กับเคทีซี
วางเป้ายอดลูกหนี้ใหม่ 6,000 ล้าน
นางสาวเรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อรถยนต์ KTC กล่าวว่า ธุรกิจสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ยังคงเน้นการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ายอดอนุมัติสินเชื่อใหม่ปี 2567 ที่ 6,000 ล้านบาท จาก ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่กว่า 2,000 ล้านบาท
การเติบโตของเคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มาจาก 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1. เน้นสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ด้วยคอนเทนต์ที่เน้นความบันเทิง เข้าถึงง่ายผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียล มีเดีย เสริมด้วยโฆษณาออฟไลน์ และสื่อตามพื้นที่สาขาของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ
2. ผนึกกำลังกับธนาคารกรุงไทยในการขยายฐานลูกค้า ผ่านสาขาธนาคารกว่า 900 แห่งเป็นหลัก เสริมด้วยแพลทฟอร์มออนไลน์ของธนาคาร อย่าง NEXT ถุงเงินและเป๋าตัง โดย “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” เป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อเดียวของธนาคารกรุงไทย ที่สามารถทำรายการอนุมัติได้แบบเรียลไทม์ พร้อมรับเงินทันที
3. ตอกย้ำและเสริมความแกร่งให้กับจุดแข็งผลิตภัณฑ์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ในฐานะผู้บริการรายเดียวที่ให้วงเงินใหญ่สูงสุด 1 ล้านบาท อนุมัติสินเชื่อภายใน 1 ชั่วโมง พร้อมรับเงินทันที และยังขยายฐานไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่ “สินเชื่อทะเบียนรถบิ๊กไบค์ เคทีซี พี่เบิ้ม” พร้อมบัตรกดเงินสด เคทีซี พี่เบิ้ม อีกด้วย”
ขยายพันธมิตรธุรกิจอีก 20 รายนางสาวอุษณีย์ เลาหะวรนันท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานสื่อสารการตลาดและธุรกิจ MAAI กล่าวว่า MAAI by KTC ในปี2567 มีแผนจะขยายจำนวนพันธมิตรธุรกิจขนาดกลางและใหญ่อีกไม่ต่ำกว่า 20 ราย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนสมาชิกMAAI ประมาณ 2 ล้านราย โดยพันธมิตรเป้าหมายของแพลทฟอร์ม MAAI จะอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่เน้นสร้างความถี่ในการกลับมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการซ้ำ แพลทฟอร์ม MAAI ยังมีการนำเสนอโมเดลการให้บริการที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยพันธมิตรร้านค้าบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยจะพัฒนาเชิงกลยุทธ์ใน 3 เรื่องหลักคือ 1. ต่อยอดการพัฒนาแพลทฟอร์ม ฟีเจอร์หรือฟังก์ชันใหม่ๆ ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่
2. เพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับประสบการณ์การใช้งานแอปฯ MAAI by KTC ให้ง่าย สะดวกและดียิ่งขึ้น
3. ขยายร้านค้ารับแลกคะแนน MAAI ให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์และความต้องการของสมาชิก MAAI by KTC มีจุดรับแลกคะแนนที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ สามารถเชื่อมโยงทุกธุรกิจ และมีเป้าหมายที่จะสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่แข็งแรง ให้พันธมิตรสามารถเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
บริหารต้นทุนการเงินไม่เกิน 3.1% นางสาวรจนา อุษยาพร ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายบัญชีการเงิน และรักษาการผู้บริหารสูงสุดสายงานการเงิน KTC กล่าวว่าในส่วนของการบริหารต้นทุนทางการเงินในปี 2567 เคทีซีจะยังคงรักษาระดับให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจและความเสี่ยงที่ยอมรับได้
โดยมีแผนจะระดมเงินกู้ยืมระยะยาวประมาณ 13,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ รวมถึงรองรับหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะยาวที่จะครบกำหนดประมาณ 11,850 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้นต่อเงินกู้ยืมระยะยาว (Original Term) อยู่ที่ประมาณ 20:80 และต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ประมาณ 3.1% สูงขึ้นจากสิ้นปี 2566 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.8%


