SET ทิ้งดิ่ง 22 จุด ชี้จุด 1407 เอาอยู่? จังหวะสะสม 16 หุ้นพีอีต่ำ
หุ้นไทยดิ่ง 22.73 จุด แตะ 1,446.73 จุด แรงขายหุ้นบิ๊กแคปส์ พลังงาน-แบงก์กระหน่ำ ราคาน้ำมันดิบร่วง-หวั่นบอนด์ยิลด์สหรัฐพุ่ง-บาทอ่อนค่าทะลุ 37 บาทกดดันหนัก กูรูเคาะกราฟชี้จุดต่ำ 1,407 จุด ฟาก ASPS มองย่อลึกเข้าโซนสะสม 16 หุ้นพีอีต่ำ แต่ขาดแรง Fund Flow หนุน
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง หลุดระดับ 1450 ลุ้นทดสอบแนวรับ 1425/1400 ตามลำดับ โดยแรงกดดันหลักมาจากการขายหุ้น Big Cap นำโดย DELTA และ PTTEP รับประเด็นลบเฉพาะตัวหลัง DELTA จ่อหลุดคำนวณ SET50 ขณะที่ PTTEP ปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่หลุดระดับ 90 เหรียญต่อดอลลาร์ลงมา
นอกจากนี้ภาพรวมยังถูกกดดันจาก 1)ค่าเงินบาทที่เดินหน้าอ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์กดดัน Fundflow ไหลออกต่อเนื่อง และ 2) US Bond Yields ที่ดีดตัวขึ้นกดดันภาพรวมตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
ฝ่ายฯมองหุ้นกลุ่ม Defensive ที่มี Beta ต่ำ ยังมีความน่าสนใจ โดยมอง BCH, ADVANC, CHG, BH, BDMS ขณะที่มองการปรับตัวลงของราคาหุ้น จะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว สามารถใช้เป็นจังหวะซื้อสะสมได้
1407 ขีดต่ำ
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า SET หลุดลงต่ำกว่าแนวรับสำคัญ 1,461 จุด ลงสู่เป้าหมายที่เคยแนะนำไว้บริเวณ 1,450 จุด หากไม่หลุดจากจุดนี้จะมีโอกาสดีดตัวกลับค่อนข้างสูง ทั้งนี้ ภาพแนวโน้มหลักยังเป็นขาลง เป้าหมายการลงถัดไปบริเวณ 1,416-1,407 จุด
16 หุ้นพีอีต่ำน่าสะสม
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า SET Index ปรับตัวลงมาทดสอบจุดต่ำสุดในปีนี้อีกครั้งที่บริเวณ 1461 จุด จนตัวชี้วัดทางเทคนิค อย่าง RSI เข้าเขต Oversold และอัตราสวนทางพื้นฐาน อย่าง PBV ลดลงมาอยู่ที่ 1.44 เท่า ต่ำกว่าระดับ -1SD ที่ 1.52 เท่า และเข้าใกล้ระดับ -2SD ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ 1.37 เท่าแล้ว
แต่ SET Index ยังขาดแรงสนับสนุนจาก Fund Flow พร้อมกับค่าเงินบาท ที่อ่อนตัวขึ้นมาเร็วสูงกว่า 37 บาท/เหรียญ กดดันให้ต่างชาติมีโอกาสขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงสั้นๆได้
กลยุทธ์การลงทุนในยามที่ตลาดยังขาด Fund Flow หนุน ต้องเน้นถือเงินสดบางส่วนราว 20% และทยอยสะสมหุ้น เพื่อหวังผลระยะกลางถึงยาวเป็นหลัก จุดที่สะสมหุ้นเพิ่มแนะนำช่วงค่าเงินบาทที่ชะลอการอ่อนค่า หรือ Fund Flow เริ่มไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นอีกครั้ง
และ ฝ่ายวิจัยทำการค้นหาหุ้นที่มีค่า P/E24F ต่ำกว่าระดับ -1SD ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าถูกกว่าในช่วงอดีตที่ผ่านมามาก พร้อมกับข้อมูลผลตอบแทน (ytd) ที่ยังติดลบ และข้อมูล RSI ประกอบ
ซึ่งมีบางบริษัทเข้าเขต Oversold ด้วย ได้ผลลัพธ์หุ้น P/E ถูกกว่าปกติ น่าทยอยสะสมเพื่อหวังผลตอบแทนที่ดีขึ้นในระยะกลางถึงยาว ดังนี้ SCGP , STEC , BGRIM , RATCH , TIDLOR , HMPRO , GULF , SPALI , KBANK , SAWAD , SCC , CPALL , CPN , MTC , SCB , KTB
