posttoday

SET เปิดด้าน downside ให้มีโอกาสปรับลงได้ต่อ

19 กันยายน 2566

SET มีโอกาสปรับลงได้ต่อ หลังหลุดต่ำกว่า 1,530 จุด สร้างสัญญาณลบทางเทคนิค กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ OSP และ BCH

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET หลุดต่ำกว่า 1,530 จุด สร้างสัญญาณลบทางเทคนิค และเปิดด้าน downside ให้มีโอกาสปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,520 และ 1,515 จุด ตามลำดับ ส่วนการฟื้นตัวถูกจำกัดที่กรอบบน 1,543 และ 1,550 จุด ตามลำดับ ต้องกลับมาขึ้นทะลุผ่านก่อนถึงจะเป็นสัญญาณที่ดี

ทั้งนี้ มอง SET จะยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1,540-1,580 จุด หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามาช่วยกระตุ้นบรรยากาศการลงทุน โดยในประเทศรอติดตามการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล ขณะที่ต่างประเทศอยู่ระหว่างจับตาผล การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ นำโดย FED (21 ก.ย.) BoE (21 ก.ย.) และBoJ (22 ก.ย.)

โดย InnovestX คาด FED จะมีมติคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ตามตลาดคาด ขณะที่ BoE และ BoJ จะยังดำเนินการใช้นโยบายการเงินตึงตัวต่อไป ซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy" ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้

1) หุ้นที่คาดได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล (ลดค่าไฟและราคานํ้ามันดีเชล พักหนี้เกษตรกรฯยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวจีน) อีกทั้งครึ่งหลังปี 2566 คาดกำไรจะเติบโต YoY หรือกำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เลือกCPALL CRC OSP HTC AOT ERW KCE HANA

2) หุ้น Top Picks กลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 4/2566 เลือก AOT BCH CRC KCE KTB

3) หุ้นเก็งกำไรจากกำลังซื้อตะวันออกกลางที่ดีขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น (ธีมปิโตรดอลลาร์) เลือก AH BH PTTEP BCP

ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ OSP เป็นหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล (อาทิ ลดค่าไฟและกระตุ้นท่องเที่ยว) ขณะที่ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของส่วนแบ่งการตลาดและกำไรสุทธิในปี2566 ที่คาดเติบโต 43.8%YoY และเติบโตต่อ 7.8%YoY ในปี 2567

BCH ไตรมาส 3/2566 คาดกำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้น QoQ และทำจุดสูงสุดของปีนี้ ในไตรมาส 4/2566 แรงหนุนจากจำนวนผู้ป่วยคนไทยที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และรายได้จากบริการผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการปรับค่าเหมาจ่ายรายหัวผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น 10% ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2566