posttoday

BH วิ่งแรงแซงทางโค้ง กูรูเคาะอนาคต-กราฟไปได้ไกลแค่ไหน ?

10 สิงหาคม 2566

"BH" ดีดแรงหลังอวดกำไรไตรมาส 2/66 เพิ่มขึ้น 50% แตะ 1.74 พันล้านบาทรับจำนวนผู้ป่วยพุ่ง เคาะปันผลระหว่างกาล 1.35 บาท ฟาก 4โบรกส่องผลงานครึ่งปีหลังโตแกร่ง ต่างชาติใช้บริการแน่น เคาะต้านสำคัญ 250 บาท

ราคาหุ้น BH เช้านี้(10 ส.ค.66) เปิดกระโดดขึ้นมาแตะ 243 บาท เพิ่มขึ้น 14 บาท คิดเป็น +6.11% เทียบจากราคาปิดวานนี้(9 ส.ค.66)อยู่ที่ 229 บาท

     นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้น BH (Under Review) ฝ่ายวิจัยมอง “บวก” ต่อกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ของ BH รายงานกำไรสุทธิ 1,748 ล้านบาท (+50%y-y +10%q-q) หากหักกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 6 ล้านบาท ธุรกิจปกติมีกำไร 1,742 ล้านบาท (+50%y-y +10%q-q) ดีกว่าเราและตลาดคาด 32% 

     กำไรปกติเติบโตดีกว่าเราคาด เนื่องจาก 1.รายได้รักษาพยาบาลดีกว่าคาด เพิ่มขึ้น 7% มีผลบวกจากรายได้ทั้งลูกค้าต่างชาติ (+29%y-y -3%q-q) และรายได้ลูกค้าชาวไทย (+14%y-y +5%q-q) ทำให้มี %Gross margin ดีขึ้น y-y และ q-q เป็น 49.6% (ดีกว่าคาด) และ 2.ค่าใช้จ่าย SG&A (+11%y-y -3%q-q) น้อยกว่าคาดจากการคุมค่าใช้จ่ายได้ ทั้งนี้กำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรก คิดเป็น 63% ของทั้งปี66 คาด 5,260 ล้านบาท (+7%y-y) 

     สำหรับแนวโน้มไตรมาส 3/66 คาดว่ากำไรสุทธิเติบโตดี y-y และ q-q มีปัจจัยบวกฤดูกาลของการใช้บริการเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะมี %Gross margin ดีต่อเนื่องจากผลบวก Intensity ค่ารักษาโรคที่มีการรักษาซับซ้อน ฝ่ายฯมีแนวโน้มปรับกำไรสุทธิปีนี้เพิ่มขึ้นหลังเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์กับ BH วันที่ 16 ส.ค.นี้ คำแนะนำ Trading Buy หุ้น BH ราคาเป้าหมายปี66 ที่ 230 บาท

กำไรครึ่งหลังมาแรง

     บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ระบุว่า หุ้นโรงพยาบาล ถือเป็นกลุ่ม Defensive ที่เกี่ยวโยงการเมืองต่ำ และยังได้อานิสงส์เชิงบวกจากการกลับเข้ามารักษาของผู้ป่วยชาวต่างชาติ โดย BH ได้อานิสงส์มากสุด รองลงคือ BDMS ดังนั้นแนะนำซื้อ BH ราคาเป้าหมาย 280 บาท หลังประกาศกำไรสุทธิงวด 2Q66 อยู่ที่ 1,748 ล้านบาท ดีเกินคาด +10.4% QoQ แม้เป็นช่วง low season และ +49.9% YoY สาเหตุหลักมาจากรายได้จากกิจการโรงพยาบาลลดลง 0.3% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 23% YoY โดยรายได้ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น 28.6% YoY จากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ โดยเฉพาะผู้ป่วยจากประเทศแถบ CLMV ประเทศจีน และจากประเทศแถบตะวันออกกลาง และรายได้ผู้ป่วยไทยเพิ่มขึ้น 13.7% YoY ทำให้สัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติต่อผู้ป่วยไทย เพิ่มขึ้นจาก 62.3% ต่อ 37.7% ใน 2Q65 เป็น 65.2% ต่อ 34.8% 

      ขณะอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 46.2% ในงวด 2Q65 และ 47.9% ในงวด 1Q66 มาอยู่ที่ 49.6% จากผลบวกของคนไข้ต่างชาติที่รักษาโรคที่มีความรุนแรงมาก และมีมาร์จิ้นที่สูงกว่า เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A  ได้ดี โดยลดลง 2.7% QoQ แต่เพิ่มขึ้นเพียง 11.2% YoY ซึ่งส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายการตลาด และค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้น

     ฝ่ายวิจัยมอง BH จัดเป็นโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากสุดในช่วงปี 63-64 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากรายได้หลักมาจากลูกค้าต่างชาติที่ Fly-in มารับการรักษาโดยตรง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 56% ของรายได้กิจการรพ. การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่ 1 พ.ย. 64 ส่งผลให้ ผู้ป่วยต่างชาติ Fly-in ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องอย่างชัดเจน 

      ทำให้กำไรทั้งปี 2565 อยู่ที่ 4,938 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 306% YoY และผู้ป่วยต่างชาติยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก pending demand ที่ยังมีสูงมาก ทั้งผู้ป่วยจาก จีน CLMV และ ประเทศแถบตะวันออกกลาง ส่งผลให้รายได้จากกิจการ รพ. 2Q66 เพิ่มขึ้น 40.9% เมื่อเทียบกับ 2Q62 ซึ่งเป็นช่วงก่อนโควิด แต่สัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติงวด 2Q66 อยู่ที่ 65.2% ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดใน 2Q62 ซึ่งอยู่ที่ 66.2% ทำให้เราเชื่อว่ารายได้จากผู้ป่วยต่างชาติยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องใน 2H66 โดยเฉพาะ Pending Demand จากคนไข้จากประเทศจีนที่ยังมีสูงมาก บวกกับ 3Q66 ได้รับผลบวกจากภาคฤดร้อนของชาวตะวันออกกลาง ที่นิยมเดินทางมารับรักษาพร้อมพาครอบครัวติดตามมาเที่ยวด้วย 

     นอกจากนี้ ผู้ป่วยจากประเทศซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่ไทยกลับมาเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศซาอุดิอาระเบียในช่วงปีก่อน เราจึงมั่นใจว่ากำไรสุทธิใน 2H66 จะเติบโตจาก 1H66 ขณะที่กำไรสุทธิ 1H66 คิดเป็น 52% ของประมาณการกำไรปีนี้ ทำให้เรามีแนวโน้มทบทวนปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้หลังประชุมนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ BH เตรียมแผนสร้างรพ.แห่งที่ 2 ที่ภูเก็ต เพื่อรองรับฐานผู้ป่วยต่างชาติที่นิยมเดินทางมาตั้งรกรากวัยเกษียณ หรือเดินทางมาพักผ่อนระยะยาวจำนวนมาก 

     ภายใต้ประมาณการปัจจุบัน คาดกำไรสุทธิของ BH ในปีนี้จะเติบโต 29% โดยมีราคาเป้าหมายปีนี้ อิงวิธี DCF อยู่ที่ 280 บาท มี  upside 22.3% บวกกับ BH จะจ่ายเงินปันผล 1H66 ที่ 1.35 บาท คิดเป็น Div Yield   0.5% XD 24 ส.ค. นี้ “ซื้อ” และเลือกเป็น Top Pick ของกลุ่ม

เข้าไฮซีซั่น-กราฟแน่น  

     บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำซื้อ BH ราคาเป้าหมาย 280 บาท กำไร 2Q23 ที่ 1.75 พันลบ. +10% q-q, +50% y-y ดีกว่าที่เราคาด 11% ทั้งที่เป็น Low Season เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเติบโตแข็งแกร่งกว่า 70% ใน 2Q23 แม้มีช่วงรอมฎอนในเดือน เม.ย. 

     แนวโน้มกำไรมีแนวโน้มทำจุดสูงสุดใหม่ใน 3Q23 จาก High Season ของไทยและคาดนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางที่คาดยังเร่งขึ้นต่อเนื่อง ประมาณการกำไรปี 2023 ที่ 6 พันลบ. +22% y-y มี Upside มองแนวรับ 225 / 220 บาท แนวต้าน 240 / 250 บาท

ต้านสำคัญ

     บล.ฟิลลิป ระบุว่า หุ้น BH ที่ได้แนะนำเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นกว่า +10.7% จากราคาเปิดที่ 224 บาท โดยมีแนวต้านใหญ่อยู่ที่ 250 บาท

ข่าวล่าสุด

SCB WEALTH กวาด 6 รางวัลระดับโลก สะท้อนความเป็นเลิศในทุกมิติการบริหารความมั่งคั่ง