posttoday

BCPG ทุ่มงบกว่า 5 พันล้าน ปิดดีลซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติสหรัฐ

07 สิงหาคม 2566

BCPG ทุ่มงบกว่า 5 พันล้านบาท ซื้อหุ้น 40% โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ กำลังการผลิตติดตั้ง 700 เมกะวัตต์ เริ่มบุ๊กรายได้ทันที ดันพอร์ตลงทุนในสหรัฐพุ่ง 857 เมกะวัตต์

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 4 ส.ค.2566 บริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ แครอล เคาน์ตี้ เอนเนอร์ยี่  ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 700 เมกะวัตต์ ในเขตแครอล รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มเติมในสัดส่วน 40% หรือคิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนเทียบเท่ากับ 280 เมกะวัตต์ ในจำนวนเงินประมาณ 145 ล้านหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 5,031 ล้านบาท 

“การเข้าลงทุนเพิ่มในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติแครอล เคาน์ตี้ เอนเนอร์ยี่ ในรัฐโอไฮโอครั้งนี้ บริษัทเล็งเห็นว่า โรงไฟฟ้าดังกล่าวสามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ โดยจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี PJM ตลาดซื้อขายไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐ และครอบคลุมการขายไฟฟ้ากว่า 13 รัฐ ในสหรัฐอเมริกา และเนื่องจากเป็นโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูงและมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ จึงมีความได้เปรียบในการแข่งขันสำหรับการประมูลราคาขายไฟฟ้าในตลาดไฟฟ้าเสรี” นายนิวัติ กล่าว

โดยการซื้อหุ้นเพิ่มเติมในครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าธรรมชาติแครอล เคาน์ตี้ เอนเนอร์ยี่ เพิ่มขึ้นจาก 61 เมกะวัตต์ เป็น 341 เมกะวัตต์

สำหรับการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของบริษัทในการขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติดังกล่าวเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ได้ทันทีภายหลังจากการเข้าลงทุน และโครงการสามารถสร้างกระแสเงินสดให้แก่บริษัทได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้ขยายธุรกิจไปยังสหรัฐอเมริกา โดยได้เข้าซื้อหุ้นในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ แครอล เคาน์ตี้ เอนเนอร์ยี่ และ เซาท์ ฟิลด์ เอนเนอร์ยี่ ในรัฐโอไฮโอ โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ฮามิลตั้น ลิเบอร์ตี้ และฮามิลตั้น เพทรีออต ในรัฐเพนซิลเวเนีย คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วน ณ ปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 857 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นรวมทั้งหมด 2,024 เมกะวัตต์