ไม่ผิดหวัง! ถือหุ้นกลุ่ม GULF มา 1 เดือน ผลตอบแทนราคา บวกสูงสุด 8.11%
ยิ้มกว้าง! ใครลงทุนในหุ้นกลุ่ม GULF ถือมา 1 เดือน อัตราผลตอบแทนราคา บวกยกกลุ่ม THCOM นำโด่ง 8.11% รองมา GULF 6.01% ส่วน INTUCH กับ ADVANC ใกล้เคียงกันที่ 3.77% และ 3.70% ตามลำดับ
หากกล่าวถึงหุ้นกลุ่ม บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ก็ต้องหมายรวมไปถึงหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH, บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ด้วย
หลังจากในปี 2564 GULF ได้เข้าซื้อหุ้น INTUCH ต่อมาในปี 2565 ได้เข้าซื้อหุ้น THCOM ส่วน ADVANC มี INTUCH เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
โดยปัจจุบัน GULF เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 1 ใน INTUCH สัดส่วน 41.19% และ GULF ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 1 ใน THCOM สัดส่วน 41.14% ขณะที่ ADVANC มี INTUCH เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 1 ในสัดส่วน 40.44%
ทั้งนี้ “โพสต์ทูเดย์” จะพามาดูว่าหุ้นกลุ่ม GULF ในแง่ของอัตราผลตอบแทนจากราคาหุ้นย้อนหลัง 1 เดือน เป็นอย่างไรก็กันบ้าง จากการตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) พบว่า
ราคาหุ้น GULF ย้อนหลัง 1 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.-4 ส.ค.2566) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.01% มาอยู่ที่ 48.50 บาท
โดย บล.พาย แนะนำ “ซื้อ” GULF มูลค่าพื้นฐาน 58 บาท คำนวณด้วยวิธีรวมส่วนธุรกิจ (SOTP) ราคาหุ้นฟื้นตัวจากจุดต่ำตามหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าตัวอื่น จากความเสี่ยงประเด็นการปฏิรูปนโยบายภาคพลังงานในอนาคตได้คลี่คลายลงพอสมควร หลังจากที่ภูมิทัศน์ทางการเมืองไทยได้ถูกสลับขั้วอีกครั้ง
ขณะที่ปัจจัยพื้นฐาน ระยะยาวของ GULF ยังคงเดิม ด้วยแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่เหนือชั้น หนุนจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่คาดจะโตเฉลี่ยต่อปี 12% ในช่วงปี 2566-2570
ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2566 จะอยู่ที่ 2,895 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 89% YoY แต่ลดลง 25% QoQ) หากไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) กำไรปกติอยู่ที่ 3,595 ล้านบาท จะเป็นจุดต่ำสุดของปี
การเติบโตของกำไรปกติ YoY ได้แรงหนุนจากการเริ่มเดินเครื่อง GSRC หน่วยที่ 4 และ GPD หน่วย 1 ในเดือน ต.ค. 2565 และ มี.ค. 2566 บวกกับส่วนแบ่งกำไรจาก บริษัทร่วมที่โตขึ้น 42% ซึ่งช่วยชดเชยต้นทุนทางการเงินที่ปรับเพิ่มขึ้น 25%
ขณะเดียวกัน ประเมินว่ากำไรจะกลับมาโตในครึ่งหลังปี 2566 หนุนจากการรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตใหม่ (GPD หน่วยที่ 1-2) อัตรากำไรสำหรับโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ในประเทศและโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง
GULF
- มาร์เก็ตแคป 569,057.77 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคาย้อนหลัง 1 เดือน +6.01%
- ราคาหุ้น 48.50 บาท
- P/E 47.93 เท่า
- P/BV 5.03 เท่า
ราคาหุ้น INTUCH ย้อนหลัง 1 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.-4 ส.ค.2566) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.77% มาอยู่ที่ 75.75 บาท
โดย บล.กรุงศรี พัฒนสิน แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” INTUCH ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 81 บาท (อิงวิธี Sum of the parts) ชอบที่หุ้นปันผลสม่ำเสมอ 4.1% ต่อปี คิดเป็นผลตอบแทนสูงสุดในกลุ่มมือถือ โดยครึ่งแรกปี 2566 คาดจ่าย 1.4 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2566 ของ INTUCH คาดที่ 2,855 ล้านบาท (+8% YoY และ+6% QoQ) ตามส่วนแบ่งกำไรจากADVANC (+15% YoY และ +7% QoQ) ที่ได้ประโยชน์จากการแข่งขันลดลง คาดอัตราค่าบริการทั้งมือถือและเน็ตบ้านฟื้น QoQ ผสานกับการคุม SG&A/sales ได้ดีขึ้น
สำหรับแนวโน้มครึ่งหลังของปี 2566 คาดกำไรจะปรับขึ้นต่อทั้ง YoY และ HoH ขับเคลื่อนจากรายได้บริการมือถือที่จะโตเร่งขึ้นและต้นทุนค่าไฟที่จะลดลงเต็มงวด จึงคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2566 ที่ 11,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน
INTUCH
- มาร์เก็ตแคป 242,906.59 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคาย้อนหลัง 1 เดือน +3.77%
- ราคาหุ้น 75.75 บาท
- P/E 22.76 เท่า
- P/BV 7.14 เท่า
ราคาหุ้น THCOM ย้อนหลัง 1 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.-4 ส.ค.2566) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.11% มาอยู่ที่ 12.00 บาท
โดย บล.กรุงศรี พัฒนสิน แนะนำ “ซื้อ” THCOM ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 13.20 บาท ให้นำหนักทิศทางกำไรครึ่งหลังของปี 2566 จะดีกว่าครึ่งปีแรก ตามการเปิดให้บริการเสริมใหม่ๆ ที่จะมีมากขึ้น เช่น Globalstar และ SG&A จะลดลง นอกจากนั้นในครึ่งปีหลัง คาดดาวเทียมดวงใหม่จะมีความคืบหน้ามากขึ้นในการเจรจาลูกค้ารายใหญ่ จึงคงกำไรปกติทั้งปี 2566 ที่ 473 ล้านบาท ฟื้นเด่น +301% จากปีก่อน
สำหรับกำไรสุทธิไตรมาส 2/2566 ของ THCOM คาดอยู่ที่ 218 ล้านบาท (-30% YoY แต่ +143% QoQ) ผันตามตัวเลขกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน
ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการพิเศษ (ไตรมาส 2/2566 จะมี FX gain 150 ล้านบาท) คาดกำไรปกติในไตรมาส 2/2566 ของ THCOM คาดที่ 68 ล้านบาท (+6% YoY แต่ -42% QoQ) โดย YoY ขึ้นเล็กน้อย เพราะธุรกิจมือถือในลาวจะขาดทุนลดลง ส่วน QoQ กำไรลงแรง เกิดจากรายได้อ่อนตัวสวนทางค่าใช้จ่ายที่จะเร่งขึ้นชั่วคราวจากการมีบันทึกที่ปรึกษากฎหมาย
THCOM
- มาร์เก็ตแคป 13,153.22 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคาย้อนหลัง 1 เดือน +8.11%
- ราคาหุ้น 12.00 บาท
- P/E 162.02 เท่า
- P/BV 1.24 เท่า
ราคาหุ้น ADVANC ย้อนหลัง 1 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.-4 ส.ค.2566) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.70% มาอยู่ที่ 224.00 บาท
โดย บล.พาย แนะนำ “ซื้อ” ADVANC มูลค่าพื้นฐาน 249 บาท อิง 9.2xEV/EBITDA’23E (ค่าเฉลี่ย 10 ปี) กําไรปกติไตรมาส 2/2566 จะอยู่ที่ 6,883 ล้านบาท โตราว 4% YoY เป็นผลจากการลดต้นทุนโดยเฉพาะ SG&A แต่ทรงตัว QoQ เป็นผลจากการที่บริษัทกู้หนี้ก้อนใหม่มา 20,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนในการชําระค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของรายได้ยังเบาบางจากไตรมาส 2/2565 เนื่องจากรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) ยังทรงตัว เพราะแพ็คเกจราคาถูกที่มีมาตั้งแต่ปี 2565 ขณะที่มีสมาชิกใหม่น้อยลง จากการขึ้นราคาแพ็คเกจพร้อมกับการจํากัดปริมาณด้านดาต้าและความเร็ว
ขณะที่คาดว่ากําไรปกติในครึ่งหลังของปี 2566 จะปรับดีขึ้น HoH เพราะแพ็คเกจราคาถูกจะทยอยหมดอายุลงมากขึ้น และการดําเนินงานด้านเครือข่ายจะมีต้นทุนที่ลดลง
ดังนั้นมองว่าเป้าหมายกําไรปกติในปี 2566 ที่ 29,000 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ADVANC อาจมี upside เพิ่มเติมจากดีล TTTBB หากผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF อนุมัติคำขอปรับโครงสร้างข้อตกลงการเช่าใหม่ของ TTTBB ในวันที่ 23 ส.ค.2566
ADVANC
- มาร์เก็ตแคป 666,222.98 ล้านบาท
- ผลตอบแทนราคาย้อนหลัง 1 เดือน +3.70%
- ราคาหุ้น 224.00 บาท
- P/E 25.18 เท่า
- P/BV 8.34 เท่า


