"NOBLE" คอนเฟิร์มไม่ซ้ำรอย "แอชตันอโศก"

ราคาหุ้น NOBLE ปิดการซื้อขายเช้านี้(2 ส.ค. 2566) อยู่ที่ 4.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท คิดเป็น +0.95% มูลค่าการซื้อขาย 1.32 ล้านบาท โดยราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 4.24 บาท และลดลงต่ำสุดที่ 4.20 บาท

     นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล  ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอให้กำลังใจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงการแอชตันอโศก ให้กำลังใจทีมงานของบมจ.อนันดาและหวังว่าจะมีทางออกที่ดีให้กับทุกฝ่าย เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ และต้องบอกว่าปัญหากรณีดังกล่าวเกิดที่โครงการอโศก เชื่อว่าไม่ใช่ปัญหาที่จะครอบคลุมโครงการในที่อื่นๆ

     และ สิ่งที่บริษัทต้องเข้าไปดูอย่างจริงจัง คือ กฎหมายของไทย เพราะมีความคลุมเคลือในหลายมิติ และต้องดูรายละเอียดการอนุญาตของ รฟม.กรณีที่ให้นั้นหมายความว่าให้ในกรณีใดและกรณีที่ไม่ให้นั้นหมายรวมถึงกรณีใดบ้าง อาจต้องเข้าไปดูมากขึ้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะมีปัญหา เพียงแต่เป็นการตรวจสอบเพิ่มขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต

     ถามว่า บริษัทจะมีการพูดคุยกับผู้พัฒนาอสังหาฯรายอื่นเพื่อยื่นหนังสือหรือเข้าพูดคุยกับทาง รฟม. หรือไม่นั้น ? ตอนนี้ยังไม่ได้ไปถึงขั้นตอนนั้น ทางสมาคมอสังหาริมทรัพย์ฯ และสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะมีการเข้าไปพูดคุย ซึ่งอาจไม่ได้หมายรวมโครงการตรงอโศกที่มีปัญหา แต่อาจจะขอความชัดเจนโครงการอื่นๆด้วย เพราะผลกระทบไม่ได้เกิดแค่ภาคอสังหาฯเพียงเท่านั้น แต่กระทบภาคธนาคาร และอุตสาหกรรมอื่นๆเช่นกัน

     "แน่นอนว่า กรณีที่เกิดขึ้นมีผลกระทบในระยะสั้น เพราะทุกคนต้องหยุดคิด หยุดดู โครงการต่างๆ ส่วนเราเองมีโครงการที่กำลังพัฒนา สิ่งที่ต้องทำคือเราต้องชี้แจงข้อเท็จจริงว่าปัญหาโครงการที่อโศกไม่เกิดกับเรา เมื่อลูกค้าเชื่อมั่น ปัญหาก็ไม่เกิด ถ้ารัฐจะช่วยอะไร อยากให้ช่วยออกมาชี้แจงความชัดเจนต่างๆ แต่เข้าใจว่ามันอาจจะเร็วไปในการออกมาพูด อาจต้องให้เวลาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงว่าโครงการใดหรือกฎเกณฑ์ใดเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง อย่างไร"

     อย่างไรก็ดี บริษัทขอยืนยันอีกครั้งว่า "โครงการ นิว โนเบิล รัชดา ลาดพร้าว" ได้ขออนุญาตก่อสร้าง โดยใช้ทางเข้า-ออกจากถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกของอาคารจอดรถแล้วจรของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยที่ดินเดิมของโครงการฯ มีทางเข้า-ออกสู่ถนนสาธารณะ แต่ถูกเวนคืนโดย รฟม. ส่งผลให้ที่ดินที่เป็นที่ตั้งโครงการฯไม่มีทางเข้า-ออก ด้วยเหตุนี้ รฟม. จึงชอบที่จะอนุญาตให้ใช้ทางเข้า-ออกของอาคารจอดรถแล้วจรดังกล่าว เป็นทางเข้า-ออกของโครงการฯได้ เพื่อคงสิทธิในการใช้ทางเข้า-ออกสู่ถนนสาธารณะที่มีอยู่เดิมโดยชอบก่อนการเวนคืน โดยไม่มีกำหนดระยะเวลา 

     ซึ่งการที่ รฟม. อนุญาตให้ใช้ประโยชน์ดังกล่าวไม่ได้ทำให้วัตถุประสงค์ของการเวนคืนเดิมเสียไปและ รฟม. ยังคงใช้ที่ดินได้ตามวัตถุประสงค์แห่งการเวนคืนตามปกติ โดยอาคารจอดรถของ รฟม. ดังกล่าวได้เปิดใช้งานแก่ประชาชนทั่วไปตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน กรณีนี้จึงเห็นได้ชัดว่า รูปแบบการใช้งานเป็นไปตามวัตถุประสงค์เดิมทุกประการ ไม่ได้มีการดัดแปลงรูปแบบการใช้งานที่มีอยู่เดิม ย้ายตำแหน่ง หรือเปลี่ยนแปลงความกว้างของทางเข้า-ออกแต่อย่างใด ทางเข้า - ออกของโครงการจึงเป็นไปตามกฎหมายแล้ว

     "โครงการ นิว โนเบิล รัชดา ลาดพร้าว มูลค่าราว 2,000 ล้านบาท ล่าสุดมียอดขายราว 80% หรือราว 1,600 ล้านบาท โอนโครงการในช่วงต้นปี 2567"

     ขณะที่ "โครงการ โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา และโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2" ได้ขออนุญาตก่อสร้าง โดยใช้ทางเข้า-ออก จากถนนรัชดาภิเษก ซอย 6 โดยที่ดินเดิมของโครงการฯ ได้ถูกเวนคืนโดย รฟม. บางส่วน เพื่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีศูนย์วัฒนธรรม อาคารจอดรถแล้วจร และลานจอดรถเพิ่มเติม ส่งผลให้ที่ดินโครงการฯ ไม่มีทางเข้าออก ด้วยเหตุนี้ รฟม. จึงชอบที่จะอนุญาตให้ใช้ที่ดินบางส่วน เพื่อวัตถุประสงค์ในการผ่านเข้า-ออกของโครงการฯ เพื่อคงสิทธิในการใช้ทางเข้า-ออกสู่ถนนสาธารณะที่มีอยู่เดิมโดยชอบก่อนการเวนคืน โดยไม่มีเงื่อนระยะเวลา 

     การที่ รฟม. อนุญาตให้ใช้ประโยชน์ดังกล่าวเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์เดิมทุกประการ ไม่ได้มีการดัดแปลงรูปแบบการใช้งานที่มีอยู่เดิม ย้ายตำแหน่ง หรือเปลี่ยนแปลงความกว้างของทางเข้า-ออกแต่อย่างใด เพราะแต่เดิม รฟม. ก็ใช้ที่ดินดังกล่าวเป็นทางเข้า-ออกของลานจอดรถอยู่แล้ว จึงสามารถกระทำได้ 

     และบริษัทได้นำที่ดินอีกส่วนหนึ่งของบริษัทจดทะเบียนเป็นภาระจำยอม เพื่อใช้เป็นทางเข้า-ออก ร่วมกันของโครงการ โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา และโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2 ด้วย ดังนั้น ทางเข้า - ออกของโครงการจึงเป็นไปตามกฎหมายแล้ว

     "เราขอให้ความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า และยืนยันว่า โครงการ นิว โนเบิล รัชดา ลาดพร้าว, โครงการ โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา และโครงการ โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2 ได้รับอนุญาตก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมาย และได้ดำเนินการก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ"

ยืนยันผลงานปี66

     แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 คาดเติบโตดีกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 1-2 ของปีนี้ เนื่องจากบันทึกรายได้จากการขายหุ้น "บริษัท พระราม 9 อัลไลแอนซ์ จำกัด" และ "บริษัท คูคต สเตชัน อัลไลแอนซ์ จำกัด" ให้กับ บมจ.พราว เรียล เอสเตท (PROUD) ส่งผลให้บริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามาเพิ่มกว่า 1,400 ล้านบาท

     ดังนั้นบริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะทำได้ตามเป้า 12,000 ล้านบาท หลังในช่วงที่ผ่านมามีการรับรู้รายได้ไปแล้ว 3,200-3,500 ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมียอดขายอีกหลายโครงการที่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามา บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่อีกจำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 18,300 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งในโครงการใหม่นั้นมีโครงการประเภทแนวสูง 1 โครงการ มูลค่ากว่า 9,900 ล้านบาทรวมอยู่ด้วย หลังจากในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้วจำนวน 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 3,800 ล้านบาท แม้ว่าครึ่งแรกปีเป้าหมายยอดขายอาจจะลดลงต่ำกว่าแผนที่วางไว้ แต่ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าจะช่วยหนุนให้ยอดขายทั้งปีนี้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ที่ 22,000 ล้านบาท

     ปัจจุบันบริษัทมียอดขายในมือที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) รวมกว่า 16,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยโอนกรรมธิ์และรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ต่อเนื่องใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งเฉลี่ยปีละประมาณ 8,000 ล้านบาท พร้อมคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะโตมากกว่าระดับ 10% ขึ้นไป