posttoday

ร้อยเหตุผลชัด! ทำไม ? "BTS" สวยเข้าตาโบรก

26 กรกฎาคม 2566

เปิดเหตุผล ทำไม ? หุ้น "BTS" สวยเข้าตา! โบรกสแกนอนาคตแกร่ง จับตาโครงการใหม่ "รถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู"เสริมทัพ พร้อมเชียร์ซื้อ

ราคาหุ้น "บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS" ปิดเช้านี้ (26 ก.ค. 2566) อยู่ที่ 7.70 บาท ลดลง 0.05 บาท คิดเป็น -0.65% มูลค่าการซื้อขาย 50.38 ล้านบาท โดยราคาขึ้นสูงสุด 7.75 บาท และลดลงต่ำสุด 7.65 บาท

 

     นายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวกับ "โพสต์ทูเดย์" ว่า ตามที่ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ BTSC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ "บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS" ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกฯและ รฟม. ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม กรณีออกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนโครงการสายสีส้ม ลงวันที่ 24 พ.ค.65 (ครั้งที่ 2)

     และออกเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนโดยเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชนให้แตกต่างจากหลักเกณฑ์เดิม ตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือน ก.ค.63 โดยศาลได้ยกฟ้องทุกข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าว โดยศาลฯชี้ว่าการดำเนินการเป็นไปตามหลักกฎหมายและประโยชน์ต่อประเทศ

     การยกฟ้องดังกล่าว อาจกระทบระยะสั้นต่อ BTS เนื่องจากการฟ้องร้องเกี่ยวกับรถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นความหวังที่จะให้มีการเปิดประมูลใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้คดีนี้จะถูกยกฟ้องโดยศาลปกครองกลาง แต่ทาง BTSC จะมีการอุทธรณ์ต่อไปยังศาลปกครองสูงสุด

     ซึ่งปัจจุบันนอกจากคดีนี้ ยังมีคดี 1) การแก้ ไขหลักเกณฑ์การประมูลครั้งแรกเป็นการกระทำที่ไไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้ยกฟ้องไปแล้ว แต่ทาง BTSC จะไปอุทธรณ์ต่อที่ศาลอาญาแผนกคดีทุจริต 

     และ 2) การยกเลิกการประมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้มีการยกฟ้องไปแล้วเช่นกัน ซึ่งจากการที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีการยกฟ้องไป 2 คดีแม้จะมีการอุทธรณ์ไปยังศาลอื่นคาดว่าโอกาสที่จะชนะก็มีความเป็นไปได้น้อย 

BTS ยังสวย

     ฝ่ายวิเคราะห์ มองว่า BTS ยังมีปัจจัยบวกที่น่าติดตาม คือโครงการใหม่ ทั้ง รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ดำเนินการโดยบริษัทย่อยคือ EBM (Eastern Bangkok Monorail) ซึ่ง BTS ถือหุ้น 90% เริ่มเก็บค่าโดยสารตั้งแต่ 3 ก.ค.66 และ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี  หากเปิดใช้งานแล้วได้รับผลตอบรับที่ดีกว่าที่คาดการณ์ จะช่วยเพิ่มมูลค่าของ BTS เพิ่มขึ้น 

     นอกจากนี้ BTS ร่วมทุน BA และ STEC พัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา (BTS ถือหุ้น 55%) ถือเป็นโครงการที่จะเข้ามาเสริมมูลค่าในอนาคตที่น่าจับตาเช่นกัน

     ขณะที่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่จะหมดอายุสัญญาสัมปทาน วันที่ 4 ธันวาคม 2572 ต้องรอดูความชัดเจนว่า กทม.จะต่ออายุสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ BTSC เป็นเวลา 10 ปี หรือ 30 ปี (ปี 2602) หรือไม่ขยายเวลาสัมทาน ซึ่งทาง กทม.ต้องชำระหนี้ที่ติดค้างไว้ ดังนั้นตอนนี้ยังระบุมูลค่าที่จะเพิ่มขึ้นต่อ BTS ยังไม่ได้ต้องรอดูความชัดเจนก่อน แต่แม้ในระยะสั้นอาจได้รับปัจจัยกดดัน แต่มองว่าเป็นจังหวะสะสม ดังนั้นยังคงคำแนะนำซื้อ หุ้น BTS ให้ราคาเหมาะสมปี 67 ที่ 9.50 บาท

 

จับตาท่าที BTS

     บล.เคจีไอ ระบุเช่นกันว่า ตามที่ศาลฯยกฟ้องทุกข้อกล่าวหา คดี BTSC ยื่นฟ้อง รฟม.-บอร์ดคัดเลือกฯ ปรับหลักเกณฑ์การประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รอบ 2 ชี้ดำเนินการตามหลักกฎหมาย เป็นประโยชน์ต่อประเทศนั้น ฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่า คำวินิจฉัยของศาลปกครองกลางสะท้อนโอกาสที่การเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มตามมา 

     โดยศาลปกครองกลางมองว่า รฟม.ได้ใช้ดุลพินิจที่มีเหตุผลเพื่อประโยชน์ของประเทศ เนื่องจากงานก่อสร้างโครงการนี้เป็นงานอุโมงค์ ต้องคัดเลือกเอกชนที่มีศักยภาพงานเทคนิค และการกำหนดให้มีประสบการณ์คู่สัญญาภาครัฐ เพื่อเอื้อต่อการตรวจสอบเปรียบเทียบคุณภาพงาน สอดคล้องกับข้อกำหนดของกรมบัญชีกลาง และเพื่อสร้างความมั่นใจต่องานก่อสร้างและเพื่อประโยชน์ของประเทศ เราเห็นว่า หาก BTS ไม่อุทธรณ์คำวินิจฉัยต่อไปที่ศาลปกครองสูงสุด ถือว่าเป็นการยอมรับคำวินิจฉัยของศาลปกครองกลาง ซึ่งคาดว่า BEM จะได้รับการเซ็นสัญญาการชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มในลำดับต่อไป

 

ผลงานฟื้น

     บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 9.26 บาท คาดผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวดี เมื่อการเปิดเมืองของไทยเต็มที่ อีกทั้งภาวะการท่องเที่ยวที่คึกคักก็จะช่วยเพิ่มกิจกรรมการขนส่งได้เป็นอย่างดี ขณะที่จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีเหลืองน้อยอาจจะเป็นในช่วงแรกที่เพิ่มเริ่มเปิดดำเนินการ แต่เมื่อมีการเรียนรู้ และเส้นทางเดินรถคือ ลาดพร้าว-สำโรง มีภาวะรถติดมาก ก็จะทำให้ผู้โดยสารเพิ่มในอนาคต ส่วนข้อดีของการเริ่มเปิดดำเนินการคือ จะมีรายได้เพิ่มตกปีละ 1.5-2 พันล้านบาท และได้รับเงินชดเชยค่าก่อสร้างตกปีละ 2.35 พันล้านบาทต่อปี เป็นเวลา 10 ปี กระแสเงินสดของ BTS จะดีขึ้น อีกทั้งผลขาดทุนก็เป็นจำนวนที่ไม่ถึงกับมีนัยสำคัญ 

     ส่วนหนี้ค่าจ้างการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) ราว 2.2 หมื่นล้านบาท ขึ้นกับ สภากรุงเทพมหานคร ขณะที่ หนี้ที่เป็นค่าบริหารเดินรถ (O&M) จะมีขึ้นเมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามา

 

ลุ้นเปิดสายสีชมพู

     ก่อนหน้านี้ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ในกลุ่ม BTS คาดว่าจะสามารถเปิดทดสอบการเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรีแบบเสมือนจริง (Trial Run)ภายในเดือน ส.ค. - ก.ย.นี้ จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนร่วมทดลองใช้บริการฟรี ระหว่างเดือน ก.ย. - ต.ค.66 ก่อนจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ จัดเก็บค่าโดยสารในเดือน พ.ย.66 ถือว่าเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้

     ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายช่วงสถานีศรีรัช - เมืองทองธานี ระยะทาง 3 กิโลเมตร คาดเปิดให้บริการภายในปี 67 ซึ่งเร็วกว่าแผนกำหนดไว้ให้เปิดในกลางปี 68

ข่าวล่าสุด

จากดราม่า ‘น้องหมากินข้าวร่วมโต๊ะในร้าน’ สู่การส่องกฎหมาย Pet Friendly ของ ‘เกาหลีใต้’