posttoday

ระทึก! หุ้นไทยลุ้นโหวตนายกฯรอบ2 พรุ่งนี้

18 กรกฎาคม 2566

หุ้นไทยพรุ่งนี้ลุ้นโหวตนายกรอบ2 พร้อมจับตาศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณารับคำร้อง-สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ของ "พิธา" หรือไม่

     ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(18 ก.ค.66) อยู่ที่ 1,535.30 จุด เพิ่มขึ้น 6.53 จุด คิดเป็น +0.43% มูลค่าการซื้อขาย 43,934.28 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,535.62 จุด และลดลงต่ำสุด 1,526.91 จุด 

     5 หุ้นซื้อขายสูงสุด ดังนี้

     1. KTB ปิดที่ 20.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,158.64 ลบ.

     2. PTT ปิดที่ 34.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,104.63 ลบ.

     3. KBANK ปิดที่ 135.50 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,909.18 ลบ.

     4. SCB ปิดที่ 111.50 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,764.77 ลบ.

     5. BBL ปิดที่ 163 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,589.97 ลบ.

 

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า การหารือของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม มีข้อสรุป 3 ข้อ คือ 1.มติของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ยังเสนอคุณพิธาฯเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ในการโหวตรอบ 2 วันพรุ่งนี้(19 ก.ค.66) โดยจากการแถลงวานนี้คุณพิธาฯประเมินว่าจะได้เสียง ส.ว. รวมเพิ่มขึ้นอีกราว 10% หุ้นเสียงสนับสนุนรวมอยู่ที่ราว 340-350 เสียง

     ถ้าการโหวตครั้งที่ 2 ได้เสียงสนับสนุนน้อยกว่าคาดพร้อมเปิดทางให้พรรคอันดับ 2 คือ พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯและเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไป

     2. แก้ไขรัฐธรรมนูญโดยยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งเป็นการตัดอำนาจ ส.ว. ในการใช้สิทธ์โหวตเลือกนายกฯ ถือเป็นการเสนอของพรรคก้าวไกล ไม่เกี่ยวข้องกับ 7 พรรคที่เหลือ

     3. ประเด็นข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่ 41 เห็นว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นการดำเนินการตามกรอบรัฐธรรมนูญ ไม่ถือเป็นญัตติการประชุม ทำให้สามารถเสนอชื่อให้พิจารณาซ้ำได้

     ส่วนวันพรุ่งนี้(19 ก.ค.66) ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาว่าจะรับคำร้องและสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ของนายพิธาฯหรือไม่ อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวไม่น่าจะกระทบต่อการโหวตนายกฯรอบ 2 เนื่องจากรัฐธรรมนูญ กำหนดว่า นายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องมาจาก ส.ส.

     ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่า ประเด็นการเมืองเริ่มเห็นปลายทางที่ชัดเจนขึ้นหลังการโหวตนายกฯ รอบแรกไม่สำเร็จ โดยผลการลงมติเห็นชอบนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี 324 เสียง ไม่ชอบ 182 เสียง งดออกเสียง 199 เสียง (ขาดอีก 52 เสียงที่จะโหวตสนับสนุนเพื่อให้เสียงถึง 376 เสียง) ซึ่งมีโอกาสสูงที่พรรคเพื่อไทย จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนในการโหวตครั้งที่ 3 

     ซึ่งกว่าจะผ่านกระบวนการต่างๆ แล้วเสร็จ คาดได้นายกฯ และรัฐบาลชุดใหม่ช่วง ส.ค.66 โดยมี Scenario ที่สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนี้

     1.พรรคเพื่อไทย จับมือพรรคร่วมรัฐบาลเดิมทั้ง 8 พรรค และสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ SET Index อาจกลับมาในกรอบ 1,500-1,542 จุด

     2.พรรคเพื่อไทย จับมือพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ และ ยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากในสภา SET Index อาจเคลื่อนไหวบริเวณ 1,500-1,525 จุด

     อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯคาดตลาดหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนต่อไปในเดือนนี้ แต่เริ่มที่จะกำหนดจุด Downdside ได้ระดับหนึ่ง และคาดเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น หลังการโหวตนายกฯรอบ 2 ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวเลือกกลุ่มหุ้นสลับขั้วที่มีโอกาส Outperform SET ในช่วงสั้นๆ ชอบ STEC, TRUE, SCGP, CBG, PLANB, GULF, BEM

 

จับตาผลโหวตนายกฯ

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มหุ้นไทยพรุ่งนี้(19 ก.ค.66) คาดตลาดฯทรงตัว ลุ้นผลโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2 คาดว่าผลสรุปยังไม่ชัดเจน หรืออาจเห็นการโหวตรอบที่ 3 ซึ่งอาจต้องระวังการขายทำกำไรหลังดัชนีขึ้นมาแถว 1,550 จุด ซึ่งเป็นระดับก่อนการเลือกตั้ง อาจทำให้นักลงทุนบางส่วนขายลดความเสี่ยง มองแนวรับ 1,530 จุด และแนวต้าน 1,540 จุด