posttoday

ผู้ถือหุ้นรายย่อย STARK ร้อง DSI ดำเนินคดีผู้ต้องสงสัย 7 ราย พรุ่งนี้

05 กรกฎาคม 2566

ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย STARK ร้อง DSI ดำเนินคดีผู้ต้องสงสัย 7 ราย พรุ่งนี้ (6 ก.ค.) ฐานฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงิน วอน DSI ประสาน ปปง. อายัดทรัพย์ผู้ร่วมขบวนการ ชี้ “วนรัชต์” เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยไม่ใช่ผู้เสียหายตามที่ให้ข่าว เหตุได้รับประโยชน์จากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น

ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธาน บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น ในฐานะที่ปรึกษาการลงทุนผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ค.) กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยที่เสียหาย 11,000 คน จะส่งผู้แทนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ให้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องสงสัยจำนวน 7 ราย ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฟอกเงิน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมทั้งจับกุมควบคุมตัวกลุ่มบุคคลผู้ร่วมกระทำความผิดโดยพลัน 

พร้อมทั้งระงับการเดินทางไปต่างประเทศของกลุ่มบุคคลดังกล่าวภายในวันที่ 6 ก.ค.2566 เป็นต้นไป และให้ DSI ประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่ออายัดทรัพย์สิน และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวทั้งหมดโดยพลัน

ทั้งนี้ เนื่องจาก STARK ได้แจ้งให้ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ พ้นจากการเป็นกรรมการผู้มีอำนาจใน STARK ตามหนังสือที่บริษัทแจ้งไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2566 เวลา 21.00 น. เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ที่ได้ลาออกจากการเป็นประธานบริษัท

หลังจากถูกอดีตประธานบริหารฝ่ายการเงิน หรือ CFO ของ STARK ให้สัมภาษณ์ทางรายการโทรทัศน์ว่าเป็นผู้ได้ประโยชน์จากการตกแต่งบัญชี สามารถทำให้ขายหุ้นล็อตใหญ่ได้เป็นเงินนับหมื่นล้านบาท ในกรณีนี้ นายวนรัชต์ได้ให้ข่าวว่าเป็นเพียงผู้ถือหุ้นใหญ่ และกรรมการบริษัทเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจบริหาร เพราะได้ยกอำนาจสิทธิ์ขาดในการบริหารกิจการให้กับ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ เป็นประธานกรรมการ

นายวนรัชต์ ในฐานะผู้เสียหายเป็นผู้กล่าวโทษดำเนินคดีต่อ นายชนินทร์ และลูกน้อง ทำให้เกิดข้อกังขาว่า ในเมื่อ นายวนรัชต์เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากการตกแต่งปลอมแปลงบัญชีด้วยการขายหุ้นล็อตใหญ่มูลค่านับหมื่นล้านบาท ทำไมเขาจึงเป็นเพียงผู้เสียหาย ไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย 

ในประเด็นดังกล่าว เจ้าหน้าที่ DSI กล่าวว่า เนื่องจากยังไม่มีใครมาร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อ นายวนรัชต์ เรื่องนี้อดีต CFO ของ STARK ไปให้ข้อมูลหลักฐานกับสำนักงาน ก.ล.ต.หมดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.2566 หลักฐานชัดเจนเส้นทางการเงินว่าออกจากบัญชีไหน ไปเข้าบัญชีใคร แต่เวลาล่วงเลยมาถึงขั้นนี้ ก.ล.ต. ยังไม่มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี ซึ่งหาก ก.ล.ต. ไม่ทำ ทางผู้เสียหาย คือ ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะมาร้องทุกข์กล่าวโทษเองก็ได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องยืนยันว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) มีอำนาจที่จะระงับความเสียหายได้หลายอย่าง ทั้งการอายัดทรัพย์สิน การห้ามเคลื่อนย้ายถ่ายเทหลักฐาน ประสานงานห้ามผู้ต้องสงสัยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร แต่ปล่อยเวลาล่วงเลยมาถึงบัดนี้ 

นอกจากนี้ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ควรแสดงบทบาทครั้งสุดท้ายก่อนหมดอำนาจหน้าที่ด้วยการมีคำสั่งพิเศษขีดเส้นต่อ ก.ล.ต.ภายใน 3 วัน 7 วัน ให้เร่งดำเนินคดีต่อผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ ประสานงานอายัดทรัพย์สินต่างๆ ตามเงินมาคืนผู้เสียหาย จะสามารถกอบกู้ความเชื่อมั่นคืนตลาดทุนได้