posttoday

การเมืองชัดหนุนหุ้นไทยปิด 1,515 จุด ลุ้นต่อ!โหวตนายกฯ-เจ้ากระทรวง

04 กรกฎาคม 2566

ลั้ลลา! หุ้นไทยวันนี้ปิดสดใสรับการเมืองชัด "มูหะมัดนอร์ มะทา"นั่งประธานสภาผู้แทนราษฎร 2โบรกสแกนหุ้นไทยพรุ่งนี้(5 ก.ค.66)แกว่งไซด์เวย์ ติดตามโหวตนายกรัฐมนตรี-เจ้ากระทรวง

     ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(4 ก.ค.66) อยู่ที่ 1,515.31 จุด เพิ่มขึ้น 8.47 จุด คิดเป็น +0.56% มูลค่าการซื้อขาย 44,294.35 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,520.02 จุด และลดลงต่ำสุด 1,502.50 จุด

     นักลงทุนสถาบันคือพระเอก ซื้อสุทธิ 2,052.80 ลบ. ส่วนรายย่อยขายทิ้ง 1,271.01 ลบ. , บัญชีบล. ขาย 477.81 ลบ. และ ต่างชาติ ขาย 303.98 ลบ.

 

การเมืองชัดหนุนหุ้นไทยปิด 1,515 จุด ลุ้นต่อ!โหวตนายกฯ-เจ้ากระทรวง

 

5 หุ้นซื้อขายสูงสุด ดังนี้
     1.KBANK ปิดที่ 133.50 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,465.25 ลบ.
     2.SCB ปิดที่ 109.50 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,118.54 ลบ.
     3.ADVANC ปิดที่ 214 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,584.48 ลบ.
     4.BBL ปิดที่ 160.50 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,493.15 ลบ.
     5.PTT ปิดที่ 33.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,430.41 ลบ.

 

ลุ้นโหวตนายกฯ

     นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้บวกรับการเมืองเริ่มชัดขึ้น หลังที่ประชุมสภาฯมีมติเอกฉันท์ให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายปดิพัทธ์ สันติธาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ส่วนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 สะท้อนเอกภาพการจัดตั้งรัฐบาล

     ส่วนแนวโน้มหุ้นไทยวันพรุ่งนี้(5 ก.ค.66)คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ มองแนวรับ 1,500-1,505 จุด แนวต้าน 1,530 จุด ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อไทย ประกอบกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และแบ่งกระทรวงต่างๆ

    นอกจากนี้ ปัจจัยต่างประเทศ ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย. 

 

แบ่งขายทำกำไร

     นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า SET ปรับขึ้นถึงระดับแนวต้านแรกของเดือน ก.ค. ที่ 1,520 จุด ยังไม่เห็นพัฒนาการเชิงบวกด้านปัจจัยพื้นฐาน จึงแนะนำให้ใช้ระดับปัจจุบันในการ Take profit หุ้นที่ได้สะสมมาตอนดัชนีต่ำกว่า 1,490 จุดครึ่งหนึ่ง

      และถือครองหุ้นในส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง เผื่อกรณีที่ดัชนีเดินหน้าต่อไปยังแนวต้านสำคัญที่ 1,550 จุด