DSI อายัดทรัพย์ STARK แล้วกว่า 100 ล้าน ขีดเส้น 2 สัปดาห์ รู้ตัวผู้กระทำความผิด
DSI อายัดทรัพย์คดี STARK เบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท กำหนดไม่เกิน 2 สัปดาห์ แจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำผิด พร้อมเปิดสายด่วน 1202 รับเรื่องผู้เสียหาย
พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยว่า กรณี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STARK ที่มีมูลค่าความเสียหายสูงกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท โดยมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก ทำให้DSI เร่งดำเนินการตรวจสอบหาผู้กระทำความผิดและยึดอายัดทรัพย์สินของบริษัทกลับคืนมา
สำหรับความคืบหน้าในการตรวจสอบความผิดปกติงบการเงิน STARK ขณะนี้ DSI อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก หลังจากเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2566 ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), ตำรวจสอบสวนกลาง, กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ในการกำหนดแนวทางดำเนินการกรณีของ STARK
โดย DSI จะเร่งขอเอกสารเพิ่มเติมจาก STARK และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเร่งพิจารณาพยานหลักฐาน เรื่องเส้นทางการเงิน เอกสารการจัดซื้อสินค้าต่างๆ ว่ามีหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ระดับไหน ซึ่งหากได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว ก็จะพิจารณาว่าผู้ที่กระทำผิดมีใครเกี่ยวข้องบ้าง หรือเกี่ยวข้องในระดับใด โดยทาง DSI จะดำเนินการตรวจสอบให้ครอบคลุมทั้งหมด
ทั้งนี้ ได้กำหนดว่าภายใน 2 สัปดาห์จากนี้ จะต้องรู้ว่าผู้กระทำผิดมีใครบ้างที่อยู่ในข่ายที่ต้องดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา หรือออกหมายจับบางส่วนก่อน
“กรณี STARK มีผู้เสียหายจำนวนมากนั้น ซึ่งเดิมจะต้องใช้เวลาตรวจสอบหลายเดือน ก่อนที่จะรับเป็นคดีพิเศษ แต่จากที่ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายที่ทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะตำรวจสอบสวนกลาง ทำให้ใช้เวลาตรวจสอบเพียง 1 เดือนเท่านั้น แล้วรับเป็นคดีพิเศษ ซึ่งทาง DSI เร่งดำเนินการแข่งกับเวลาอยู่ เพราะอยากดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด"
พ.ต.ต. สุริยา กล่าวว่า ประเด็นที่ DSI มีความกังวล คือ ทรัพย์สินของ STARK ที่กลุ่มผู้กระทำผิดมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินออกไปนั้น ทาง DSI ได้หารือ ก.ล.ต. ว่าจากอำนาจหน้าที่ของ ก.ล.ต.ในการยึดอายัดทรัพย์นั้น ก.ล.ต.จะเร่งดำเนินการได้อย่างไรบ้าง ซึ่งทาง ก.ล.ต.ให้ความร่วมมืออย่างดี ในการเร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวของบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ในส่วนของ DSI ได้มีการสืบทรัพย์ และเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2566 ได้มีการยึดอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท แต่การยึดอายัดทรัพย์ภาพรวมทั้งหมดยังจะต้องเร่งสืบว่ามีทรัพย์อยู่ที่ใดบ้าง โดยผู้ที่มีหลักฐานนั้น อยากให้เข้ามาแจ้งข้อมูลกับทาง DSI เพื่อดำเนินการอายัดทรัพย์ต่อไป
สำหรับมูลค่าความเสียหายจากการทุจริตทรัพย์สินของ STARK เบื้องต้นอยู่ที่ราว 5 หมื่นล้านบาท แต่สุดท้ายแล้วความเสียหายอยู่ที่เท่าไรนั้นยังต้องสืบสวนต่อไป ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณี STARK ทยอยเข้ามาแจ้งความเสียหายและเข้ามาเป็นพยานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ DSI ได้เปิดสายด่วน 1202 เพื่อให้ทางผู้ที่ได้รับความเสียหายกรณีของ STARK สามารถติดต่อแจ้งความเสียหายเข้ามา ซึ่งทาง DSI ก็จะให้คำแนะนำกับผู้เสียหายว่าจะต้องเตรียม หรือต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป รวมถึง DSI จะได้ทราบว่ามีผู้เสียหายจากกรณีนี้เท่าไร
ส่วนผู้ต้องสงสัยคดีทุจริตของ STARK ขณะนี้ทาง DSI ก็ยังสามารถติดต่อได้ ซึ่งในกรณี STARK ปัจจุบันผู้ต้องสงสัยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังไม่ได้กระทำผิด ซึ่ง DSI เปิดโอกาส และให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องสงสัยให้เข้ามาชี้แจงข้อมูลแสดงหลักฐานต่างๆ แต่หากผู้ต้องสงสัยมีการหลบหนี ก็แสดงว่ายอมรับว่ามีการกระทำความผิด
“จากประสบการณ์ที่ผ่านมา กรณีที่มีการทุจริต ผู้กระทำความผิดเขาตั้งใจมาโกง มีการเตรียมการมาแล้ว และมีการโอนเงินไปต่างประเทศ ไปซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล กว่าเราจะรู้ผ่านมาสักระยะแล้วก็ถือว่าเป็นความท้าทายของเราในการดำเนินการตรวจสอบ”


