SET ไร้ปัจจัยใหม่หนุน แต่แอบลุ้นรีบาวด์
SET ไร้ปัจจัยหนุน แต่สัญญาณเทคนิคแสดงภาวะ divergence ให้ติดตามแนวรับในแต่ละระดับ เพื่อลุ้นรีบาวด์ กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ PTTEP และ CPALL
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET ทำโลว์ใหม่ หลุดระดับ 1,490-1,500 จุด ลงมาและไหลลงต่อเนื่อง ตลาดไร้ปัจจัยหนุน แต่สัญญาณเทคนิคแสดงภาวะ divergence ทำให้ยังให้ติดตามแนวรับในแต่ละระดับ เพื่อลุ้นรีบาวด์ โดยถัดไปอยู่ที่ 1,480 และ 1,465 จุด ตามลำดับ ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1,490-1,500 จุด หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเป็นสัญญาณที่ดี
ทั้งนี้ มอง SET จะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ และมี Upside จำกัด หลังยังไม่มีปัจจัยใหม่มาช่วยกระตุ้นบรรยากาศการลงทุน โดยภาพรวมคาดเงินเฟ้อของสหรัฐและยุโรปจะยังกดดันให้ตลาดกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกกางต่างๆ
ส่วนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ล่าช้ากว่าตลาดคาดและการรอความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของไทยจะยังเป็นปัจจัยลบระยะสั้นต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้นที่คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 จะยังเติบโตได้ดี YoY เลือก AOT BBL ADVANC MINT OSP BDMS BEM
2. หุ้นสู้วิกฤติ ซึ่งคาดราคาจะทยอยฟื้นตัวได้ดีใน 1 เดือน หลังปรับตัวลงมาแรง เนื่องจากสิ้นสุดการเลือกตั้งไทยเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 เลือก BH BTS CHG CPALL
ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับ 1) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่ม PTT ออกไปก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงหรือความไม่ชัดเจนของ โครงสร้างราคาพลังงานจากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่
และ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนิโญ ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (CKP) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ PTTEP ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น การผลิตก๊าซฯ จากแหล่ง กลยุทธ์การลงทุน G1/61 เพิ่มเป็น 400 mmcfd ใน ก.ค. จาก 210 mmcfd ในไตรมาส 1/2566 และคาดจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องได้ตามสัญญาใน เม.ย.2567 คาด Div. Yield ที่ 4-5% ราคาหุ้นยังมีส่วนลดเทียบกับสมมติฐานราคาน้ำมันที่ 70 เหรียญ/บาร์เรล
CPALL ไตรมาส 2/2566 คาดกำไรปกติจะเติบโต YoY โดยเกิดจากยอดขายที่ดีขึ้น ทั้งธุรกิจ CVS และ MAKRO แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ครึ่งหลังปี 2566 กำไรจะดีขึ้น HoH จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลงหลังจากรีไฟแนนซ์หนี้ของ MAKRO เสร็จในช่วงปลายเดือน เม.ย.