posttoday

SBNEXT จับมือพันธมิตรขยายธุรกิจ Vending Machine ใช้ 266 ล้านบาทซื้อหุ้น SVT

08 มิถุนายน 2566

SBNEXT ตั้งเป้าจับมือพันธมิตรขยายธุรกิจ Vending Machine ใส่ทุน 266 ล้านบาท จ่อเข้าซื้อหุ้น SVT สัดส่วน 10% มุ่งใช้ ecosystem กลุ่ม SABUY เดินเครื่องธุรกิจตู้เวนดิ้งโตก้าวกระโดด

นายวรานนท์ คงปฏิมากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สบาย คอนเน็กซ์ เทค หรือ SBNEXT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯได้อนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบมจ. ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี หรือ SVT จํานวนไม่เกิน 70 ล้านหุ้น มูลคาหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือ คิดเป็นจํานวน 10% ของจํานวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงหักหุ้นซื้อคืน (ถ้ามี) ในราคาหุ้นเฉลี่ยไม่เกิน 3.80 บาท รวมเป็นเงิน 266 ล้านบาท ผ่านกระดานซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แหงประเทศไทย (SET) 

ขยายธุรกิจ Vending Machine

ทั้งนี้ถือเป็นการจับมือพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ Vending Machine จากการที่บริษัทฯ ได้มีโอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ SVT ซึ่งเป็นผู้จําหน่ายสินค้าผ่านเครื่องจําหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ภายใต้เครื่องหมายการค้า "SUNVENDING "

โดย SBNEXT เล็งเห็นว่าธุรกิจของ SVT สามารถต่อยอดธุรกิจของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้า เครื่องดื่ม ผ่านตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจ Connext หรือถือเป็นการขยายธุรกิจ Vending Machine โดยมุ่งเน้นการให้บริการที่สะดวกสบาย และตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนใน ยุคปัจจุบัน ตามแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่มบริษัทสบายเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) SABUY ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

ขณะเดียวกัน บริษัทฯมีความเห็นว่าควรเปลี่ยนแนวทางจากการลงทุนระยะสั้นตามนโยบายการลงทุนและกรอบ มาเป็นการลงทุนระยะยาว โดยดําเนินการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ SVT ผ่านการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ภายในระยะเวลา 6 เดือน นับจากวันที่คณะกรรมการมีมติอนุมัติ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เข้าซื้อจากการลงทุนระยะสั้นตามนโยบายการลงทุนและกรอบวงเงินลงทุนจํานวน 29.85 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นจํานวน 4.26% ของจํานวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง

สำหรับการลงทุนในครั้งนี้ SBNEXT มีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจและเพิ่มพันธมิตรที่หลากหลายโดยการลงทุนและ/หรือร่วมลงทุนกับธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากสามารถผสานพันธมิตรกันได้ในอนาคตก็จะมองเห็นถึงการต่อยอดธุรกิจเวนดิ้งให้ขยายไปได้มากยิ่งขึ้น ภายใต้  ecosystem ในกลุ่ม SABUY Group ที่จะช่วยให้การทำธุรกิจด้านตู้เวนดิ้งมีการเติบโตได้มากยิ่งขึ้น

รวมทั้ง ณ ปัจจุบันนี้จากจำนวนตู้เวนดิ้ง แมชชีนในประเทศ ยังมีจำนวนไม่มาก เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรของเรา โดยเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นที่มีจำนวนตู้เวนดิ้ง กว่าจำนวน 5.6 ล้านตู้ หรือมีสัดส่วนประมาณ 1 ตู้ต่อประชากร 23 คน ในปี 2000 จากข้อมูลของ Japan Vending System Manufacturers Association ส่วนปี 2020 ลดลงมาที่ราวกว่า 4 ล้านตู้ ก็จะพบว่า โอกาสการเติบโตยังมีอีกมาก

ดังนั้นหากเราสามารถผสานพันธมิตรใช้ประโยชน์จาก power of ecosystem ที่ SABUY Group  มี เราเขื่อว่าการขยายตัวของธุรกิจนี้ยังไปได้อีกมาก และน่าสนใจมากเช่นกันครับ”.  นายวรานนท์ กล่าวในที่สุด