น้ำมันดีดรับโอเปกพลัสหั่นกำลังผลิต เคาะกรอบหุ้นไทยวันนี้ 1,520-1,540จุด
หุ้นไทยวันนี้แกว่ง 1,520-1,540จุด แม้น้ำมันดีดรับโอเปกพลัสหั่นกำลังผลิตน้ำมันลงอีก 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน บวกเฟดส่อคงดอกเบี้ย 5-5.25% ลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อไทยร่วงแตะ 1.7% หนุนแบงก์ชาติตรึงดอกเบี้ย ระวัง!! Fund flow ต่างชาติผันผวนกดดัชนี เชียร์ PTTEP-SAWAD
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์(2 มิ.ย.66) SET Index เพิ่มขึ้น 10 จุด (+0.64%) ปิดที่ระดับ 1,531 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มน้ำมัน โรงกลั่น และ ปิโตรฯ ตอบรับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้นตัวกลับสู่ระดับ 70$/bbl
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(6 มิ.ย.66) ประเมิน SET แกว่งตัว 1,520 - 1,540 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังโอเปกพลัสมีมติลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน เริ่ม ม.ค. 2567
รวมถึงคาดการณ์ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5-5.25% เป็น 81.7% ในการประชุม 13-14 มิ.ย.66 หลังจากที่สหรัฐรายงานอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จาก 3.4% ในเดือน เม.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3.5% และใกล้เคียงกับเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 4%
และวันนี้จับตาตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของบ้านเรามีโอกาสลดลงแรง เบื้องต้น Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ค.ของไทยจะลดลงสู่ระดับ 1.7% จาก 2.67% ในเดือน เม.ย.และคาดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะลดลงสู่ระดับ 1.6% จาก 1.66% ในเดือน เม.ย. การลดลงของเงินเฟ้อจะทำให้แบงก์ชาติไม่ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยตอกย้ำมุมมองเราว่าแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้สิ้นสุดแล้วส่งผลบวกโดยตรงต่อกลุ่มไฟแนนซ์
อย่างไรก็ตามกระแส Fund flow ต่างชาติที่ผันผวนจะเป็นตัวกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลงจึงแนะนำ Selective buy ต่อไป PTTEP TOP BCP SPRC ราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ขึ้น, BBL KTB TTB KBANK SCB SAPPE ICHI แนวโน้มกำไร 2Q23 ยังคงเติบโต , AMATA WHA ROJNA NYT อานิสงส์ค่ายรถ EV ตั้งฐานการผลิตในไทย
หุ้นแนะนำวันนี้ คือ หุ้น PTTEP (ปิด 142.50 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 170 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบฟื้นแรงรับข่าวซาอุฯ ประกาศลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจเพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวันจากเดิมลดการผลิต 5 แสนบาร์เรลต่อวัน
และ หุ้น SAWAD (ปิด 56.50 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 61 บาท) อัตราเงินเฟ้อไทยมีโอกาสลดลงต่อเนื่อง ช่วยลดแรงกดดันต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของแบงก์ชาติ ตอกย้ำมุมมองเราว่าแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้สิ้นสุดแล้วส่งผลบวกโดยตรงต่อกลุ่มไฟแนนซ์